HANAบุกตั้งโรงงานผลิต IC ในประเทศจีน ตั้งงบลงทุนในปี 47 กว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในต้นปี 48 รองรับการปิดโรงงาน IC ที่เซี่ยงไฮ้ที่คาดว่าจะปิดโรงงานภายในปี 49 หวังรองรับออเดอร์ลูกค้า ผู้บริหารยอมรับไตรมาส 3 ออเดอร์สินค้าไอซีชะลอตัว แต่ยันยอดขาย PCBA ยังโตต่อเนื่อง ส่งผลยอดขายรวมทั้งปีใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

นายอิศรา ศิวะกุล รองประธานและผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)(HANA) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในปี 2547 ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานไอซี แห่งใหม่ที่เจียซิงประเทศจีน มูลค่าลงทุนประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการ ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 เพื่อผลิตไอซีป้อนให้กับลูกค้าที่มีการส่งออเดอร์มาให้กับบริษัทมากขึ้น และที่สำคัญการเปิดโรงงาน แห่งใหม่ในจีนยังมีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนค่าแรงที่ต่ำมาก

"การลงทุนครั้งนี้ บริษัทไม่มีแผนที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยเม็ดเงินที่ใช้จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทที่มีกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ"

นายอิศรากล่าวว่า หลังจากเปิดโรงงานในเจียซิงจะทำให้ยอดการรับรู้รายได้ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น และเป็นการเตรียมการรองรับกับแผนของบริษัทที่เดิมเตรียมปิดการดำเนินงานของโรงงานไอซีในเซี่ยงไฮ้ที่คาดว่าจะปิดโรงงานภายในปี 2549

สำหรับการลงทุนในส่วนของเครื่องจักร บางส่วนจะมีการย้ายเครื่องจักรจากโรงงานอยุธยาบางส่วนไปที่โรงงานเจียซิง

นายอิสรากล่าวถึงแนวโน้มยอดขายในไตรมาส 3 ว่า มียอดขายชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 เนื่องจากลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อสินค้าไอซี เพราะบางส่วนมีการปรับปรุงสต๊อกสินค้า แต่ยอดขาย PCBA ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะมาชดเชยยอดขายไอซีที่ชะลอตัวลงได้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 ปัญหาสต๊อกสินค้าของลูกค้าไอซี ที่มีการปรับปรุงสต๊อกสินค้าน่าจะเริ่มดีขึ้น คำสั่งซื้อจะมีเข้ามาตามปกติ เพราะในช่วงไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งผู้ประกอบการไอซี จะต้องทำสินค้ารองรับเทศกาลนี้ ส่วนยอดขายของ PCBA ในไตรมาส 4 ยังขยายตัวต่อเนื่องทำให้ทั้งปีบริษัทคาดว่า ยอดขายจะเติบโตใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรม เซมิคอนดักเตอร์ ที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวประมาณ 20%

สำหรับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนสินค้าโดยเฉพาะเส้นลวดทอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก แต่ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีการปรับราคาสินค้าเพิ่ม เนื่องจากต้องการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า และการไม่เพิ่มราคาทำให้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าจะหันมาซื้อสินค้ากับบริษัท เพราะมีราคาถูกกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะลดลง เนื่องจากสินค้าไอซีมีมาร์จิ้นสูงกว่าสินค้าด้านอื่น

ส่วนผลการดำเนินงานของ HANA ในไตรมาส 2 ของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 482.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 434.67 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.56 บาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 1,038.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.13 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 910.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.17 บาท

นายอิสรากล่าวถึงสาเหตุที่ราคาหุ้น HANA ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในขณะนี้ว่า อาจจะมาจากสาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกไปเมื่อช่วงต้นปีที่มีสถานการณ์และปัจจัยลบเข้ามากระทบ เพราะโดยปกติแล้วนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นของบริษัทประมาณ 50% ของจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด