|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
DELTA ยอมรับ DES บริษัทลูกที่ยุโรป ฉุดผลประกอบการตก ยืนยันปีนี้เตรียมปรับและย้ายไลน์การผลิตบางส่วนมา ที่ไทยให้เสร็จแม้ยังมีปัญหาเพื่อลดภาระการดำเนินงาน และขณะที่โรงงานแห่งใหม่ที่เตรียมงบไว้เกือบ 1 พันล้านบาทอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะลงเครื่องจักรเก่าหรือนำไลน์การผลิตเข้าไปผลิต โดยส่วนหนึ่งเตรียมรองรับการผลิตของ DES
นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) (DELTA) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างที่จะนำไลน์การผลิตของ บริษัท เดลต้า เอนเนอร์ยี่ ซิสเต็ม จำกัด (DES) ที่ยุโรป ซึ่งบริษัทได้เข้าไปซื้อกิจการมาเมื่อปีก่อนว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเคลื่อนย้ายเข้ามาในไทย แต่เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ยังไม่ลงตัว ทำให้การย้ายไลน์การผลิตบางไลน์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องบุคลากร
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังทำยอดขายได้ตามเป้าหมายและเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะถูก DES ดึงให้ต่ำลง DELTA ยังยืนยันว่าภายในปีนี้ บริษัทต้องจัดการโอนย้ายให้เรียบร้อย พร้อมกับปรับแผนการโอนใหม่หมด เพราะแผนงานเก่าไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะทำให้ปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะไม่ต้องแบกรับภาระผลขาดทุนจากบริษัทลูก
"การที่เราจะย้ายฐานการผลิตบริษัทขนาดใหญ่ในยุโรปมาที่ไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก ขั้นตอนต้องชัดเจนและทำได้ต่อเนื่อง เพราะ DES มี 2 โรงงาน ยอมรับว่ายุ่งยากไม่น้อย"
อย่างไรก็ตาม เมื่อพบเกิดความล่าช้าในแผนงาน บริษัทได้ปรับแผนในการโอนใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานที่โรงงานของไทยดีขึ้น อันเป็นผล จากการย้ายฐานการผลิตของ ASCOM เข้ามาเพิ่มด้วย และที่สำคัญความคุ้นเคยกับลูกค้าของ DES ซึ่ง DELTA ยอมรับว่าจุดนี้ถือว่ายังต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยและเข้าใจกับลูกค้าซึ่งเป็นฐานของ DELTA ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ อาจเพราะวัฒนธรรมในการทำการค้าที่ลูกค้าคุ้นเคยกับ DES มีมานาน
ขณะที่ DELTA ยังคงเดินหน้าผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เหมือนเดิม พร้อมกับเน้นเพิ่มไลน์การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลายมากขึ้น ส่วนสายการผลิตของ DES ที่ผลิตอยู่บางส่วน DELTA จะย้ายไลน์การผลิตมาที่เมืองไทย เพื่อให้ต่อเนื่องกับการผลิตที่บริษัทดำเนินการอยู่ พร้อมกับยืนยันว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จปีนี้
นายอนุสรณ์กล่าวว่า แม้ปัญหาการย้ายฐานการผลิตของ DES จะไม่เสร็จสิ้น แต่ DELTA ยังคงผลิตสินค้าตามออเดอร์ลูกค้าที่มีเข้ามา ตามปกติ ซึ่งแต่ละปียอดขายของ บริษัท ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็ยอมรับว่าผลจากการซื้อ DES ฉุดให้ผลการ ดำเนินงานของบริษัทออกมาไม่ดี เพราะงบการเงินต้องนำมารวมเข้าด้วย กัน แม้จะยังยืนยันว่าลูกค้าและออเดอร์ในส่วนของ DELTA ยังไม่หลุด เป้าหมาย โดยยอดขายปีละประมาณ 800-900 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่รายได้ของ DES มีรายได้ประมาณปีละเกือบ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนการสร้างโรงงานใหม่ มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าลงเครื่อง จักรใหม่ทั้งหมดหรือจะย้ายไลน์การผลิตเก่าบางส่วนไปผลิตในโรงงานแห่งใหม่นี้หรือไม่ ซึ่งอาจต้องนำเครื่องจักรใหม่เข้าไปด้วยบางส่วน เพราะโรงงานนี้จะผลิตสินค้า HI-END เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ซึ่งการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีหลากหลายชนิดที่ผู้ประกอบการต้องเลือกผลิต เพื่อให้แตกต่างและเพิ่มความสามารถในตัวสินค้านั้น ๆ
ปัจจุบัน DELTA หันมาผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กับอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและรถยนต์เพิ่มขึ้น เพราะการเติบโตของธุรกิจสายงานดังกล่าวมีสูงต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เน้นการผลิตเพียงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่นับวันคู่แข่งมากขึ้น ทำให้มีตัวเลือกให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ต้นทุนในการผลิตในหลายประเทศต่างกัน
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง เปิดเผยว่า ประเด็นที่ DELTA มีแนวโน้มกระจายการลงทุนโดยป้อนงานผลิตชิ้นส่วนลงไปทางภาคใต้ 2 พันล้านบาท คงไม่มีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานในปีนี้มากนัก โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของ DELTA ในปีนี้ชะลอตัว ยังเป็นประเด็นเรื่องการย้ายฐาน การผลิตของ DES ในยุโรปมายังประเทศไทย ทำให้ DELTA ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก มาร์จิ้น ของบริษัทในปีนี้จึงไม่ดีนัก
แม้ว่าการย้ายฐานการผลิตจากยุโรปมาไทยจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 3/47 แต่ต้องรอดูการจัดระบบการบริหารภายในองค์กรว่าจะเรียบร้อยเมื่อไหร่ ช่วงนี้จึงแนะนำให้นักลงทุน "ถือ" จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดจน ซึ่งคาดว่าในปีหน้า DELTA น่าจะเริ่มฟื้นตัว พร้อมให้ราคาเป้าหมายของ DELTA สิ้นปีนี้ 24 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) แนะนำถือหุ้น DELTA โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 20.60 บาท ระบุว่ายอดขายของ DELTA ไม่รวมกับบริษัทลูกที่ยุโรปค่อนข้างทรงตัวจากไตรมาส 1 ขณะที่ไตรมาส 2 ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่ง ประกอบด้วย Switching Power Supply (SPS) 45% จอมอนิเตอร์ 46% และ Component 9% โครงสร้างยอดขายที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 1 จะทำให้ Gross Margin อาจจะทรงตัว
โดยคาดว่า Gross Margin ของจอมอนิเตอร์ LCD ไตรมาส 2 คาดว่าจะลดลง ขณะที่ค่าเงินบาทเฉลี่ยในไตรมาส 2 ที่อ่อนค่าลงอยู่ที่ระดับ 40.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากที่ในไตรมาส 1/47 อยู่ที่ระดับ 39.28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และ Gross Margin ของ SPS ที่ดีขึ้นคาดว่าจะดึงให้ Gross Margin สามารถทรงตัวจากไตรมาส 1 ขณะที่DES บริษัทลูกที่ยุโรปมียอดขายทรงตัวโดยคาดว่าจะมียอดขาย 70 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Gross Margin และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1 โดย Gross Margin คาดว่าจะค่อนข้างต่ำที่ระดับ 12% และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 20% เราคาดว่า จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 247 ล้านบาท (คาดว่า จะมีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง องค์กร 430 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีผลขาดทุน 683 ล้านบาท)
|
|
|
|
|