หุ้นแบงก์ฟื้นหลัง ธปท.ออกโรงยันเกณฑ์สำรองใหม่ไม่กระทบฐานะธนาคารพาณิชย์ "หม่อมอุ๋ย" เผยส่งสัญญาณให้รู้นานแล้ว โบ้ยนักวิเคราะห์หาเหตุช่วงหุ้นตก ด้านหุ้น สื่อสารเก็งกำไรคึกคักหลังมูดี้ส์ อัปเกรดหุ้นกู้ TAC ดัน UCOM พุ่ง 6.67% ส่งผลภาพรวมสดใสหุ้น ปิดบวกกว่า 12 จุด ฝรั่งเดินหน้าซื้อต่อ 548 ล้านบาท

ความเคลื่อนไหวตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (31 ส.ค.) ดัชนีปรับตัวยืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยปรับตัวขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 624.81 จุด และต่ำสุดที่ 613.53 จุด ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 624.59 จุด เพิ่มขึ้น 12.14 จุด หรือ 1.98% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,243.73 ล้านบาท

ด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 548.46 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 431.46 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 117.01 ล้านบาท

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มสื่อสารมีความเคลื่อนไหวคึกคัก มีแรงเก็งกำไรเข้ามาตลอดทั้งวัน หลังจากที่สถาบันจัดอันดับเครดิต มูดี้ส์ ประกาศอัปเกรดหุ้นกู้ไม่ด้อย สิทธิและไม่มีประกัน TAC และบริษัทในเครือจาก B1 เป็น Ba2 มุมมองมีเสถียรภาพ ส่งผลให้หุ้น UCOM ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ TAC ปรับตัวขึ้นแรง และเป็นตัวนำการเก็งกำไรหุ้นสื่อสาร โดย UCOM ปิดตลาดที่ 56 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท คิดเป็น 6.67% มูลค่าการ ซื้อขายหนาแน่น 534.31 ล้านบาท

ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ยืนยันว่าเกณฑ์การตั้งสำรองใหม่จะไม่กระทบฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์ปิดตลาดที่ 213.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.58 จุด คิดเป็น 2.20% ในขณะที่ หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นแรงเช่นกันหลังมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้น โดยดัชนีกลุ่มปิดที่ 1,299.97 จุด เพิ่มขึ้น 45.70 จุด คิดเป็น 3.64%

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับตัวลดลงมากก่อนหน้านี้ ไม่ได้เป็นผลมาจากการเกณฑ์ที่สั่งให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการกันสำรองลูกหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญ ซึ่งการที่ ธปท.จะเพิ่มความเข้มงวดในการกันสำรองหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญ ก็ได้ส่งสัญญาณให้สถาบันการเงินรับรู้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว

"หุ้นตกมาจากปัจจัยอื่นมากกว่า แต่นักวิเคราะห์คงหาสาเหตุไม่ได้ จึงนำเรื่องที่ธปท.ออกหนังสือเวียนมาโยงกัน ซึ่งการที่ธปท.ออกหนังสือเวียนในช่วงนี้เพราะกระทรวงการคลังได้อนุมัติแล้ว และที่จะส่งหนังสือเวียนไปยังสถาบันการเงิน ธปท. ก็ได้ทำความเข้าใจกับนายแบงก์ก่อนแล้ว" ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว

ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อฐานะของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารมีการกันสำรองเกินอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยทั้งระบบเกินประมาณ 30% อย่างไรก็ตาม การเพิ่มความเข้มงวดในการกันสำรองหนี้จะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เสร็จเร็วขึ้น และจะช่วยให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ลดลงเร็วขึ้น

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า การที่ดัชนีสามารถยืนในแดนบวกตลอดทั้งวันและปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งเรื่องเกณฑ์การตั้งสำรองของธนาคารพาณิชย์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันว่าจะไม่กระทบฐานะของแบงก์ และมีการส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่ราคา น้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับมาอีกครั้ง นักลงทุนที่เทขายเริ่มมีการเข้ามาเก็บหุ้นที่มีพื้นฐานดี

ทั้งนี้ หากพิจารณาทางด้านเทคนิคการดีดกลับของดัชนีในรอบนี้น่าจะเป็นการดีดกลับในระยะใกล้ โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นตลอดสัปดาห์มีความเป็นไปได้ โดยมีแนวรับที่ 615-620 จุด และมีแนวต้านที่ 630-635 จุด หากดัชนีปรับขึ้นไปอยู่บริเวณแนวต้านได้ นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขาย ทำกำไรระหว่างทางที่จะมีออกมา

ด้านนางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบล.บัวหลวงได้ปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ลงจากเดิม ที่ให้น้ำหนักการลงทุนอยู่ในระดับน่าลงทุนลดเหลืออยู่ในระดับคงที่ สาเหตุที่ปรับลดเพราะมีความกังวล เกี่ยวกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่อาจจะทยอยออกมาตรการต่างๆ ออกมาซึ่งจะทำให้นักลง ทุนเกิดความกังวล ซึ่งจะส่งทำให้มีแรงเทขายและส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้เช่นกัน

สำหรับมาตรการการตั้งสำรองที่ธปท.ส่งหนังสือเวียนถึงธนาคารพาณิชย์ และส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือว่าไม่ใช่มาตรการใหม่และทุกธนาคารพาณิชย์ก็รับรู้มาตรการดังกล่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

นางสาวปองรัตน์ กล่าวว่าหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่น่าลงทุนได้แก่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่คือธนาคารกสิกรไทย(KBANK)และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)เนื่องจากธนาคารได้มีการตั้งสำรองไว้สูงมากและมีเงินกองทุนสูงในระดับหมื่นล้านบาท

มูลค่าเน็ตเซตเทิลเมนต์ ก.ค.วูบ

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงมูลค่าเน็ตเซตเทิลเมนต์ เดือนก.ค. 2547 ซึ่งเป็นเดือนที่เริ่มใช้มาตรการวางหลักทรัพย์ค่ำประกัน 10 % ปรากฏว่าค่าเน็ตเซตเทิลเมนต์ ลดลงเหลือเพียง 18.74% เทียบกับเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่า อยู่ที่ 28.12%