|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
N-PARK กระอักรอบใหม่นักลงทุนรายย่อยร้องเรียนไปยังสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เหตุมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสเอาเปรียบผู้ถือหุ้นกรณีการแลกหุ้นกับบริษัทแปซิฟิคแอสเซ็ทส์ "มนตรี ฐิรโฆไท" ลั่นอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเตรียมเสนอเรื่องไปยังก.ล.ต.ภายในเดือน ก.ย.นี้
นายมนตรี ฐิรโฆไท นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้มีนักลงทุนรายย่อยได้ทำหนังสือร้องเรียนมายังสมาคมเกี่ยวกับการกระทำอันไม่ชอบธรรมของบริษัทแนเชอรัลพาร์ค (N-PARK) ที่ได้มีการแลกหุ้นกับบริษัทแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ซึ่งทำให้นักลงทุนรายย่อยได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลังจากนั้นก็จะนำส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ภายในเดือนกันยายนนี้ต่อไป
สำหรับรายละเอียดของหนังสือร้องเรียนของนักลงทุนรายย่อยได้ระบุว่า จากการที่บริษัทแนเชอรัลพาร์คได้เสนอแลกหุ้นบริษัทแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ ในอัตรา 4 หุ้นแนเชอรัล พาร์คต่อ 1 หุ้นแปซิฟิคแอสเซ็ทส์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2547 โดยหุ้นแนเชอรัลพาร์คมีราคาตลาดในวันประกาศ 1.42 บาทต่อหุ้นและหุ้นแปซิฟิค แอสเซ็ทส์มีราคาตลาดที่ 5.70 บาทต่อหุ้นซึ่งพิจารณาตามราคาตลาดก็มีเหตุผล พอฟังได้แต่แท้ที่จริงเป็นการเสนอที่มีเจตนาในการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ โดยที่แนเชอรัล พาร์คมีหุ้นแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ อยู่ประมาณ 63% ซึ่งการเสนอแลกหุ้นครั้งนี้ถ้าสำเร็จก็จะทำให้แนเชอรัล พาร์คได้เปรียบอย่างมาก
ทั้งนี้ ราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชีของแนเชอรัลพาร์คอยู่ที่ระดับ 1.54 บาท เทียบกับแปซิฟิคแอสเซ็ทส์ที่อยู่ในระดับ 0.83 บาทและก็เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าหุ้นแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ มีสภาพคล่องน้อยมากการทำราคาขึ้นหรือลง
โดยผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากซึ่งผู้บริหารแนเชอรัล พาร์คเห็นโอกาสที่ราคาหุ้นแปซิฟิค แอสเซ็ทส์อยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีเพื่อใช้เป็นเหตุผลในการแลกหุ้นได้ อันที่จริงหุ้นแนเชอรัล พาร์คเพิ่งทำคำเสนอซื้อ(เทนเดอร์ออฟเฟอร์) หุ้นแปซิฟิค แอสเซ็ทส์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 ในราคา 8 บาทต่อหุ้น ซึ่งก็สูงกว่าราคาที่แนเชอรัล พาร์คจะขอแลกกับแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ ถึง 40% แต่การกระทำในการแลกหุ้นคราวนี้ แนเชอรัล พาร์คจะได้ประโยชน์มากกว่าเดิมมาก
โดยจุดประสงค์หลักคือ หลีกเลี่ยงการทำคำเสนอซื้อเพื่อขอออกจากตลาดหลักทรัพย์ (Delist) เพราะการออกจากตลาดหลักทรัพย์จะต้องมีการ valuateจากที่ปรึกษาทางการเงินที่เป็นกลาง ซึ่งไม่มี ทางที่จะออกจากตลาดในราคานี้ได้เลย สิ่งที่ต้องการจะถามผู้บริหารแนเชอรัลพาร์คเพื่อให้เกิดความยุติธรรมก็คือถ้าเมื่อแนเชอรัลพาร์คเสนอซื้อในราคา 5.70 บาทแล้วผู้ถือหุ้นส่วนน้อยก็ต้องการซื้อหุ้น แปซิฟิค แอสเซ็ทส์จากแนเชอรัล พาร์คทั้งหมดในราคาเดียวกัน คือ 5.70 บาท ทางแนเชอรัลพาร์คจะยอมขายให้หรือไม่
นอกจากนี้ แนเชอรัลพาร์คยังมีพฤติกรรมอื่นที่เอาเปรียบสมาชิกของสมาคมกอล์ฟที่ศรีราชาโดยอาศัยความบกพร่องของกฎหมายในการยกเลิกสิทธิ การใช้สนามของสมาชิกเดิมทั้งหมดและยังอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องกัน ทั้งนี้ทรัพย์สินของแปซิฟิค แอสเซ็ทส์จะประกอบด้วยโรงแรมภูเก็ตเมอริเดียน, โรงแรมภูเก็ตยอร์คคลับ,บ้านตลิ่งงาม (สมุย) ตึกแปซิฟิก เพลสจะเห็นได้ว่าสินทรัพย์มีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งถ้าต้องหามาทดแทนในราคาปัจจุบันจะต้องมีค่ามากกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีของแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ ในขณะนี้
แต่ถ้ามีการแลกหุ้นกับแนเชอรัล พาร์ค สำเร็จผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของแปซิฟิค แอสเซ็ทส์จะได้สินทรัพย์ที่แย่ลงเพราะเป็นหุ้นที่แนเชอรัลพาร์คเพิ่มทุนขึ้นมาจ่าย ซึ่งก็ทำให้มีมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่ำลงไปอีกและยังมีผลขาดทุนในปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลในการที่หุ้นแปซิฟิคแอสเซ็ทส์มีปริมาณการซื้อขายในการขายออกมาหลังจากมีการประกาศการแลกเปลี่ยนหุ้นครั้งนี้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนน้อยคิดว่าไม่มีทางในการที่จะต่อสู้กับผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ การกระทำครั้งนี้มีผลร้ายต่อระบบของตลาดหลักทรัพย์มาก ดังจะเห็นได้จากความจริงที่ผ่านมาคือการ Underwrite หุ้นเข้ามาในราคาแพง โดยที่ไม่เคยมีการ Underwrite หุ้นใด ๆ เลยในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีตั้งแต่จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์มาแต่ในการขอออกจากตลาดจะมีการกระทำแบบที่แนเชอรัลพาร์คกำลังจะกระทำต่อผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของแปซิฟิคแอสเซ็ทส์ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีมาก การเอาหุ้นเข้าในราคาสูงกว่าพื้นฐานและการขอออกจากตลาดหลักทรัพย์ในราคาที่ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานก็คือการปล้นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยดีๆ ซึ่งก.ล.ต.ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดเพราะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นทั่วไปโดยแท้จริง
|
|
|
|
|