|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แกรมมี่ลุยธุรกิจวีซีดีภาพยนตร์ไทย สั่งเอ็มจีเอ เดินหน้าเร่งจับมือพันธมิตร รับลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายและเช่าวีซีดีภาพยนตร์ไทยจากค่ายจีทีเอช 9 เรื่องในปีหน้า เล็งธุรกิจวีซีดีภาพยนตร์ และเทเลมูฟวี่อนาคตสดใส ตั้งเป้าส่วนแบ่งรายได้ 15% เพิ่มเป็น 50%
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยแผนการดำเนินงานในปีหน้าว่า จะขยายธุรกิจด้วยการหาพันธมิตรเพิ่มมากขึ้น โดยได้เริ่มเจรจาในหลายกลุ่มธุรกิจ ด้วยการขยายฐานสู่การจำหน่ายภาพยนตร์วีซีดีของไทย เทเลมูฟวี่ และศูนย์เช่าวิดีโอ
นอกจากนั้น ในส่วนของสถานีวิทยุ และผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ผู้ผลิตละคร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 4 ราย คาดว่าจะสรุปได้ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งแนวคิดการหาพันธมิตรเพิ่มขึ้นเพื่อต้องการสร้าง จีเอ็มเอ็มให้เป็นบริษัทที่มีธุรกิจบันเทิงครอบคลุมทุกเซกเมนต์ และเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ทั้งนี้บริษัท เอ็มจีเอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ดำเนินธุรกิจด้านจัดจำหน่ายเพลง ทั้งของค่ายแกรมมี่ และค่ายอื่นๆ เช่น วอร์เนอร์ มิวสิค โซนี่ มิวสิค ยูนิเวอร์แซล อีเอ็มไอ และ บีเอ็มจี โดยมีส่วนแบ่งตลาด 70% ของตลาดจัดจำหน่ายเพลงโดยรวม ล่าสุดได้วางยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจเข้าสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ วีซีดีในประเทศไทย เนื่องจากเห็นทิศทางการเติบโต ของภาพยนตร์วีซีดี โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีวีซีดีภาพยนตร์วางจำหน่ายในร้านขายเทปเพลงถึง 50% ของพื้นที่
จับมือพันธมิตรขยายธุรกิจวีซีดีหนัง
นายยงศักดิ์ เอกปรัชญาสกุล กรรมการผู้จัดการการขายและการตลาด บริษัท เอ็มจีเอ จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าว บริษัทจึงได้จับมือกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด หรือ จีทีเอช ตั้งเป้า ว่าในปี 2548 จะซื้อภาพยนตร์ที่ผลิตจาก จีทีเอช จำนวน 9 เรื่อง คิดเป็นเงิน 120 ล้านบาท เพื่อมาจำหน่ายและให้เช่าในรูปแบบภาพยนตร์วีซีดี ซึ่งจะเริ่มทยอยจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 เป็นต้นไป โดยในส่วนของสิทธิการเช่า ได้จับมือกับบริษัท ซีวีดี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การให้เช่าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์จากค่ายต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการให้เช่า รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัทได้มอบสิทธิ การให้เช่าสำหรับศูนย์เช่าทั่วประเทศให้ซีวีดีเป็นผู้ดูแล
จากการปรับยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทำให้บริษัทมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ทีมฝ่ายขาย ดูแลเพลงไทยอัลบั้มใหม่ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด 2.ทีมฝ่ายขายดูแลเพลงไทยอัลบั้มเก่าทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด 3. ทีมฝ่ายขายดูแลเพลงสากล และภาพยนตร์วีซีดี ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด 4.ทีมดูแลร้านค้าปลีก "อิมเมจิ้น" 5. ทีมหน่วยขายเคลื่อนที่ เพื่อจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรด อาคารสำนักงาน และงานแฟร์ต่างๆ และ 6.ทีมขายไดเรกต์เซลล์ เพื่อขายตรงแก่ผู้บริโภค ซึ่งตรงนี้จะมาอุดช่องว่างทางการขายเติมเต็มให้ครอบคลุมทุกตลาด นอกจากนั้นยังพัฒนาด้านการให้บริการลูกค้าสมาชิกที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต ให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ซึ่งปัจจุบันช่องทางนี้มีสมาชิก จำนวน 3,000 ราย
นายยงศักดิ์กล่าวว่า ทางด้านผลประกอบการ 6 เดือนแรก บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายเพลง 1,563 ล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% โดยทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้เมื่อต้นปีว่าจะมีรายได้ทั้งปีที่ 2,900 ล้านบาท โดยปีหน้าคาดว่าจากการจัดจำหน่ายวีซีดีให้กับจีทีเอช บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายภาพยนตร์ทั้งสิ้น 220 ล้านบาท คิดเป็น 15% ของรายได้รวม และในที่นี้จะแบ่งเป็นรายได้จากการเช่า 15% โดยเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า เอ็มจีเอจะมีรายได้จากการ จำหน่ายภาพยนตร์ในสัดส่วนเท่ากับรายได้จากการจำหน่ายเพลง
นายยงศักดิ์ กล่าวถึงความชัดเจนในการร่วมมือปราบผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ ภายหลังจากการได้ลิขสิทธิ์ จัดจำหน่ายวีซีดีภาพยนตร์ไทย โดยจะส่งจดหมายขอร้องไปยังผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในต่างจังหวัด ซึ่งมีมากกว่า 475 ราย ไม่ให้นำภาพยนตร์ที่อยู่ระหว่าง การฉายในโรงภาพยนตร์ มาฉายผ่านเคเบิล ซึ่งปัญหาที่ผ่านมาของเคเบิลทีวีต่างจังหวัด ที่ไม่สามารถจัดการการละเมิดลิขสิทธิ์ก็เพราะส่วนใหญ่เป็นธุรกิจของผู้มีอิทธิพลในจังหวัด
|
|
|
|
|