"บางคนบอกว่าเทคโนโลยีจะฆ่าธุรกิจเรา เป็นเพราะเขาไม่เข้าใจ ยิ่งเทคโนโลยีมาก โอกาสสร้างรายได้จากทุกทางยิ่งมาก ต่อไปเราอาจไม่ต้องออกแผ่นซีดี แต่ใช้วิธีดาวน์โหลด แทน" เป็นประกาศของไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แถลงข่าวนโยบายของแกรมมี่ ภายใต้ชื่องาน "Music never die"

ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ไม่ต่างไปจากค่ายเพลงอาร์เอสที่ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ก็ต้องหันมาใช้ประโยชน์จากไอทีให้ได้มากที่สุด

ทั้งแกรมมี่ และอาร์เอส เห็นผลมาแล้วจากบริการริงโทน" ดาวน์โหลดภาพศิลปิน ธุรกิจเล็กๆ ที่ปั้นจากศูนย์กลายเป็นธุรกิจทำเงินรายได้หลายร้อยล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของแกรมมี่ ทั้งสองค่ายจึงต้องรับมือกับเทคโนโลยี

ในโลกดิจิตอลการฟังเพลงไม่ได้จำกัดอยู่แค่วิทยุ หรือ โทรทัศน์ แต่กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ เครื่อง MP3 และอุปกรณ์ไอทีรูปแบบใหม่ การขายเพลงไม่จำกัดอยู่แค่ร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หรือร้านขายซีดี แต่เป็นร้านค้าออนไลน์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเพลง ดูอย่างแอปเปิลคอมพิวเตอร์ที่กวาดรายได้จากบริการดาวน์โหลดเพลงผ่าน iTune Music store ในโลกดิจิตอลแทนที่ผมจะเปิดร้านขายซีดี ก็ไม่ต้อง ผมสามารถเก็บเงินทางอากาศ ขายผ่านบรอดแบนด์ทุกวันนี้เพลงไปถึงคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกปัจจุบันใครที่มี content มากที่สุด ถือเป็นผู้ชนะ content is a king" ไพบูลย์บอก

ไม่น่าแปลกที่กลุ่มธุรกิจ e-business และธุรกิจจัดคอนเสิร์ต จะเป็น 2 "จิ๊กซอว์" ธุรกิจชิ้นสำคัญของแกรมมี่ที่จะทำให้ภาพธุรกิจบันเทิงโดยมีสุวัฒน์ ดำรงชัยธรรม เป็นผู้ขับเคลื่อนเข้าสู่โลกดิจิตอล