19 ก.ค. ' 2 วันก่อนที่จะเริ่มสถานการณ์ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรยังออกมาให้สัมภาษณ์ ที่เป็นเสมือนการส่งสัญญาณบวกต่ออัตราเงินเฟ้อ ว่ายังอยู่ในระดับอ่อนๆ และอยู่ในเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานในระดับ 0-3.5%

' ธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งแจ้งผลกำไรครึ่งปีแรกไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรากฏว่ากำไรเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวนมาก โดยธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มขึ้น 96% กรุงศรีอยุธยา เพิ่ม 18% ขณะที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด นครธน พุ่งถึง 124%

20 ก.ค. ' ก่อนเกิดสถานการณ์เพียงวันเดียว โสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เพิ่งออกมาชื่นชม KTB ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เข้ารับการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการโดยทริส ที่ได้รับคะแนนรวมถึง 7.26 อยู่ในระดับ "ดี" นอกจากนี้ยังได้คะแนนสูงสุดเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญครบถ้วนและตรงตามเวลาโดยได้คะแนนสูงถึง 8.27 รองลงมาคือวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการได้ 7.52 คะแนน

21 ก.ค. ' สถานการณ์เริ่มต้นเมื่อ KTB แจ้งผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ที่แม้ว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นถึง 328.69% แต่ในงบไตรมาส 2 กลับสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน โดยมีกำไรเพียง 1,611.38 ล้านบาท ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.2-4.5 พันล้านบาท สำคัญที่สุดคือยอด NPL งวดนี้ที่สูงถึง 1.26 แสนล้านบาท คิดเป็น 12.29% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่มีสัดส่วน 7.78% จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้หุ้น KTB เริ่มถูกขายออกมาอย่างหนักมาปิดที่ 10.60 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.60 บาท หรือ 5.36% ขณะที่ SET Index วันเดียวกัน ปิดที่ 655.82 จุด ยังเพิ่มขึ้น 10.24 จุด หรือ 1.59%

' มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ระยะเวลา 14 วัน ซึ่งการประชุมวันนี้ มีดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ เข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมการเป็นครั้งสุดท้าย เพราะขอลาออกเนื่องจากเพิ่งเข้าไปรับตำแหน่งประธานกรรมการ บริหาร KTB โดยในที่ประชุมมีการถกกันถึง 5 ชั่วโมง และมีมติว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 1.25% และม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า "เป็นการประชุมครั้งแรกที่การหารือไม่ลงตัว โดยมีการถกเถียงในเรื่องการปรับขึ้นหรือไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่ถึงกับต้องใช้วิธีการลงคะแนนเนื่องจากสามารถพูดคุยตกลงกันได้"

22 ก.ค. ' แรงขายหุ้น KTB ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปิดตลาดราคาลดลงถึง 0.85 บาท หรือ 8.05% มาอยู่ที่ 9.75 บาท ประเด็นเรื่องการเพิ่มขึ้นของ NPL ของ KTB เริ่มมีอิทธิพลต่อนักลงทุนในตลาดทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารอื่นๆ ออกมา ทำให้ SET Index วันนั้นปรับตัวลดลง 5.70 จุด มาปิดที่ 650.12 จุด

' ผู้บริหาร KTB เริ่มร้อนใจที่เห็นหุ้นตกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 รวมแล้วกว่า 12% จึงได้เดินทางเข้าพบผู้บริหาร ธปท.เพื่อชี้แจงเรื่องนี้ โดยธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพ ธปท. ให้สัมภาษณ์ว่าผู้บริหาร KTB ได้มาหารือว่าธนาคารได้ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นการเพิ่มความเข้มงวดในการสำรองหนี้และมีการ จัดชั้นหนี้ใหม่ ทำให้ NPL เพิ่ม แต่ฐานะการเงินของธนาคารยังปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่าเป็นแนวโน้มที่จะต้องเกิดขึ้น เพราะ ธปท.มีนโยบายให้ธนาคารตั้งสำรองให้มากขึ้นเพื่อคงความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อ

' ในตอนเย็นผู้บริหาร KTB ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เพื่อชี้แจงเรื่องตัวเลข NPL แต่นักวิเคราะห์ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจน ส่วนใหญ่เชื่อว่าปัญหา NPL เกิดขึ้นจากโครงการ re-finance หนี้ที่เคยเป็น NPL มาจากธนาคารอื่น ตามโครงการ "อัศวินม้าขาว" ที่ออกมาในปี 2545 และการปล่อยกู้ให้กับโครงการรากหญ้าตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์บางรายออกมาให้สัมภาษณ์ว่าปัญหาผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของ KTB ตลาดมีการรับรู้มาก่อนแล้ว และมาได้รับการยืนยันหลัง KTB แจ้งอย่างเป็นทางการไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ

23 ก.ค. ' มีข่าวออกมาจาก ธปท.ว่า ธปท.เองที่เป็นผู้สั่งการให้ KTB ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น หลังจากพบว่าลูกหนี้บางรายประเมินแล้ว มีความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งขัดกับข่าวที่ออกมาในช่วงก่อนหน้า ที่ว่าผู้บริหาร KTB เป็นผู้ตัดสินใจจะตั้งสำรองเพิ่มขึ้นด้วยตัวเอง

' มีหนังสือพิมพ์บางฉบับ ลงรายชื่อลูกค้า KTB 14 ราย ที่ถูกจัดให้เป็นหนี้ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็น NPL

26 ก.ค. ' คณะกรรมการ KTB มีมติแต่งตั้งวิโรจน์ นวลแข กลับเข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ต่ออีก 1 สมัย

' ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ร่วงลงอย่างหนัก เพราะนักลงทุนหวั่นวิตกว่าการที่ ธปท.สั่งให้ KTB ตั้งสำรองเพิ่ม หมายถึงปริมาณ NPL ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบได้เพิ่มขึ้น และธปท.กำลังมีการตรวจสอบธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เหมือนกับ KTB SET Index วันนั้นติดลบ 15.05 จุด มาอยู่ที่ระดับ 633.42 จุด


27 ก.ค. ' ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้เรียกนักข่าวประจำ ธปท.ไปให้ข้อมูล โดยห้ามบันทึกเทป และห้ามช่างภาพโทรทัศน์บันทึกภาพ โดยระบุว่าการที่ ธปท.ต้องรีบสั่งให้ KTB ตั้งสำรองเพิ่ม เพราะกลัวว่าเรื่องนี้จะลุกลามไปเหมือนกรณี BBC เพราะ NPL ของ KTB เพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านบาท

28 ก.ค. ' ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รมว.คลังกล่าวว่าได้หารือกับธปท.แล้ว และมีความเห็นร่วมกันให้มีการสอบในเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการอนุมัติสินเชื่อของ KTB
' พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย และพงศธร สิริโยธิน รักษาการผู้จัดการใหญ่ KTB ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยยืนยันว่ากระบวนการปล่อยสินเชื่อของ KTB มีความรัดกุม เพราะมีคณะบุคคลพิจารณา ไม่มีการแทรกแซงจากการเมือง หรือได้รับอิทธิพลการเมืองในการตัดสินใจ ส่วนการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการหารือร่วมกันระหว่างธนาคารและ ธปท.

29 ก.ค. ' ราคาหุ้น KTB ยังถูกแรงเทขายออกมาอย่างหนัก เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ทำให้ SET Index ลงมาปิดตลาดที่ 631.42 จุด ลดลง 3.31 จุด


3 ส.ค. ' เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่าปัญหาของ KTB มีปมเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวระหว่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กับ KTB ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือออกมาว่ารัฐบาลอาจมีการปลดผู้ว่าการ ธปท. ออกจากตำแหน่ง


4 ส.ค ' ดร.สมคิดออกมาปฏิเสธข่าวว่าจะปลด ม.ร.ว.ปรีดิยาธร พร้อมยืนยันว่ายังทำงานเข้าขากันได้ด้วยดี ขณะที่ SET Index ยังคงลดลงอีก 11.62 จุด ปิดที่ 619.19 จุด

9 ส.ค. ' หลังจากเรื่องเงียบไประยะหนึ่ง กระแสได้ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในของ ธปท. สอบสวนกรณีที่มีข้อมูลลูกหนี้ 14 รายของ KTB หลุดออกไปสู่มือของสื่อมวลชน ในช่วงวันที่ 22-23 กรกฎาคม

11 ส.ค. ' ราคา KTB ถูกเทขายอย่างหนัก เพราะมีข่าวลือจำนวน มากออกมาในตลาด เช่นข่าวลือเรื่องที่วิโรจน์ นวลแข กำลังจะถูกกล่าวโทษ รวมทั้งข่าวว่ากองทุนฟื้นฟูจะเทขายหุ้น KTB และธนาคารนครหลวงไทย รวมถึงข่าวว่า ธปท.บังคับให้ธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ ต้องตั้งสำรองเพิ่ม จน SET Index หลุดจากระดับ 600 จุด มาอยู่ที่ 595 จุด

13 ส.ค. ' ม.ร.ว.ปรีดิยาธรออกมาแถลงข่าวด่วน โดยให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ถ่ายทอดสดในช่วงเช้า ปฏิเสธข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น รวมถึงปฏิเสธข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าเขาเคยมีธุรกิจที่ขัดแย้งกับ KTB พร้อมประกาศยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง

' พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาปฏิเสธข่าวที่มีหนังสือ พิมพ์บางฉบับตีพิมพ์ว่าจะมีการปลด ม.ร.ว.ปรีดิยาธร

' ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต.ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ออกมาแถลงข่าวด่วน ว่าจะมีการตรวจสอบบุคคลผู้ปล่อยข่าวลือในตลาดหุ้น เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม

หลังจากนั้น ประเด็นเรื่อง KTB ได้ถูกแปลเปลี่ยนจนกลายเป็นการไล่จับผิด และคุมเข้มการปฏิบัติงานของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แทน