"ผู้จัดการ" เชื่อว่า หากได้ติดตามซิคเว่เพื่อสังเกต "ความเป็นตัวตน" ของเขา ก็น่าจะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนกว่าการได้ยินได้ฟังจากเพียงคำบอกเล่า 11 สิงหาคม 3 วันหลังจากที่ซิคเว่กลับจากลาพักร้อนเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ เป็นวันที่ได้มีโอกาสติดตาม โดยเริ่มต้นวันที่อาคาร UCOM บริเวณสี่แยกบางเขน

8.30 น.
ซิคเว่ที่ดูทะมัดทะแมงในชุดกีฬาสีดำ ได้เริ่มออกกำลังไปได้สักพัก โดยมีครูฝึกดูแลอย่างใกล้ชิด ปกติเขาจะมาออกกำลังที่นี่ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์สลับการว่ายน้ำ หลังจากออกกำลังกายเสร็จ เขาจึงเดินเข้ามาทักทายทีมงาน เป็นการบอกกล่าวว่าวันนี้ตลอดทั้งวัน "ผู้จัดการ" จะขอติดตามเขาไป ซึ่งเขาก็ยินดี ก่อนที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับออกมาในชุดทำงานที่ดูสบายๆ กางเกง chino เชิ้ตสีดำที่ดูแตกต่างจากผู้บริหารทั่วๆ ไป

9.15 น.
เราทั้งหมดเคลื่อนย้ายจากชั้น 4 ไปสู่ชั้น 12 ซิคเว่ยังคงดูสดชื่น กระฉับกระเฉง กล่าวทักทายพนักงานที่ได้พบตลอดทาง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการทักทายสั้นๆ แต่พนักงานก็ดูไม่เกร็ง ดูเขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้าถึงได้ง่าย เป็นมิตร หลังจากนั้นเป็นช่วงที่ "ผู้จัดการ" ได้มีเวลาสนทนากับเขา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องพื้นเพของตัวเขาตั้งแต่ที่อยู่นอร์เวย์จนมาเป็น Co-CEO

ซิคเว่เป็นนักเล่าเรื่องที่ดี เขาสามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างชัดเจน เห็นภาพ การพูดคุยเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนได้เวลาที่เขา จะต้องเข้าร่วมประชุมบอร์ดที่บริเวณห้องประชุมบนชั้น 15

10.45 น.
ซิคเว่ใช้เวลาสั้นๆ ในการทักทายพูดคุยกับผู้บริหาร ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้นในประมาณอีก 10 นาทีข้างหน้า นอกเหนือจากเครื่องแต่งกายที่จะดูสบายๆ กว่าผู้บริหารรายอื่นๆ แล้ว อิริยาบถของเขายังดูผ่อนคลายกว่า

13.30 น.
ซิคเว่เดินทางมาถึงบริเวณชั้น 12 ของอาคาร UM Tower ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ JAYMART ดีลเลอร์รายสำคัญของ DTAC บ่ายวันนี้ ซิคเว่มีนัดกับอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา กรรมการผู้จัดการบริษัทเจมาร์ท ถือเป็นการพบปะในฐานะคู่ค้าที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ

ซิคเว่บอกว่า เขาพบอดิศักดิ์อยู่บ่อยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาที่สำนักงานใหญ่ของ JAYMART เขาจึงขอให้อดิศักดิ์พาชมแผนกต่างๆ ของ JAYMART ก่อนที่ทั้ง 2 จะไปนั่งคุยกันในห้องประชุม

2 คนคุยกันอย่างถูกคอ ส่วนใหญ่จะสอบถามเรื่องภาวะตลาดและแนวโน้มธุรกิจ ซึ่งมีบางข้อมูลที่ซิคเว่ไม่เคยรับรู้มาก่อน และก็แปลกใจที่ได้รับรู้ อย่างเช่น สัดส่วนของผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือด้วยวิธีผ่อนชำระที่มีมากถึง 30-40%

ซิคเว่เล่าให้ฟังในภายหลังว่า การมาเยี่ยมเยียน dealer เช่นนี้ หลายคนคิดว่าเป็นการเสียเวลา อย่างเช่นครั้งนี้ ที่ต้องใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ข้อมูลส่วนใหญ่สามารถแลกเปลี่ยนกันทางอีเมลหรือการพูดคุยทางโทรศัพท์ แต่สิ่งที่เขาเห็นว่าสำคัญ คือถ้าหากไม่ได้มาด้วยตัวเอง เขาก็คงไม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเช่นนี้ แถมยังเป็นการรักษาความสัมพันธ์ในระดับบุคคลได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ซิคเว่ยังบอกว่า การพบปะผู้คนและรับฟังความคิดเห็นของคนเหล่านั้น หลายครั้งทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ เพราะฉะนั้น ในแต่ละสัปดาห์ เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ออกไปพบปะผู้คน จะใช้เวลาใน office น้อยมาก

14.30 น.
หลังบอกลาอดิศักดิ์ ซิคเว่จะต้องไปเยี่ยม service hall ที่ Central World Plaza จึงชวน"ผู้จัดการ" ให้นั่งรถไปด้วยกัน

พื้นที่เบาะหลังของ S 500 สีขาว มีหนังสือพิมพ์กองอยู่ด้านหลังและกระเป๋าเอกสารสีดำใบใหญ่วางอยู่ข้างๆ ซิคเว่บอกคนขับรถให้แวะที่โรงแรม JW Marriot ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ใน schedule ไม่มีใครรับรู้ มาก่อน

ซิคเว่เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนก่อนเขาไปงานเลี้ยงที่โรงแรมและได้พูดคุยกับพนักงานสาวอยู่คนหนึ่ง สอบถามได้ว่าเขาไม่ได้ใช้ Happy และก็ถามว่าเพราะเหตุใด เมื่อได้คำตอบเพราะว่า "ไม่เคยได้ลองใช้" ทั้งสองจึงตกลงกันว่า ถ้าเอาซิมการ์ด Happy มาให้ ถ้าใช้ดีก็ให้ช่วยบอกต่อ

15.00 น.
รถมาถึงที่บริเวณด้านหน้าของโรงแรม ซิคเว่เร่งเดินไปยังล็อบบี้ของโรงแรม เพื่อหาพนักงานคนดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งจากหัวหน้าของเธอว่า เธอกำลังประชุมอยู่ จะเริ่มงานประมาณ 4 โมงเย็น เขาจึงบอกกับเธอว่าจะแวะกลับมาในภายหลัง

ซิคเว่ไม่เชื่อเรื่องการใช้จ่ายเงินมากๆ ไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้วการเล่นกับความรู้สึกคน และให้คนเหล่านั้นบอกต่อๆกันไป (word of mouth) น่าจะเป็นวิธีที่ได้ผลมากกว่า

15.20 น.
ซิคเว่เดินทางมาถึง Central World และตรงไปที่ชั้น 6 ซึ่ง service hall ของ DTAC ตั้งอยู่ ทันทีที่ไปถึง เขาก็ทักทายพนักงาน หลายครั้งที่เขาเป็นฝ่ายยกมือขึ้นไหว้ก่อนที่พนักงานจะไหว้เสียด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็เข้าไปพูดคุยกับพนักงาน เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เริ่มตั้งแต่บริการ GPRS สอบถามเรื่องการตอบรับ การบริการลูกค้า รวมถึงการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ที่เคาน์เตอร์

บทบาทของซิคเว่ในขณะนี้ถือเป็นกระบวนการหนึ่งของการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงาน ให้เห็นถึงความสำคัญของงานที่ตนทำ โดยเขาจะกล่าวชมพนักงานทุกครั้งที่มีโอกาส และจะคอยตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลา

เมื่อครั้งเขาเห็นพนักงานคนหนึ่งถือ Pocket PC อยู่ในมือเขาก็ถามว่าเอาไว้ทำอะไร ได้คำตอบว่าเอาไว้คุมคิว นอกเหนือจากระบบอัตโนมัติที่ทำงานอยู่

ซิคเว่ยังถือโอกาสนี้ สอบถามข้อมูลจากลูกค้าที่รอรับบริการ ประมาณ 2-3 ราย ว่าพวกเขา "happy" กับบริการของ DTAC หรือไม่ ถือเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าวิธีหนึ่ง ระหว่างนั้น เขายังใช้เวลาช่วงสั้นๆ ให้ผู้สื่อข่าวจาก Newsline สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มตลาดมือถือในช่วงครึ่งปีหลัง

16.05 น.
เขาไปที่รถเพื่อกลับไปที่ JW Marriot ซึ่งเมื่อไปถึง เขาก็เข้าไปหาพนักงานคนดังกล่าว เธอดูมีความสุข ซึ่งซิคเว่เองก็มั่นใจว่า เธอคนนั้นจะจดจำ Happy และตัวเขาไปอีกนาน พร้อมย้ำก่อนจากกันว่า หากใช้แล้วพอใจ ขอให้ช่วยบอกต่อ

ขณะรอรถอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม ซิคเว่หันกลับไปดูพนักงานซึ่งกำลังพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตื่นเต้น

16.30 น.
หลังจากขึ้นรถ เป็นช่วงที่ซิคเว่ต้องโทรศัพท์ตลอด โทรศัพท์ที่ใช้เป็น NOKIA 6230 ครั้งหนึ่งเขาสอบถามเลขาเรื่อง schedule ที่ยังเหลืออยู่ในวันนี้

ตามกำหนดการเดิม เขาจะต้องซ้อมทำกิจกรรมสำหรับงานแถลงข่าวที่สำหรับกลุ่ม Postpaid จะจัดให้มีขึ้นในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งทุกครั้งที่จัดงาน DTAC มักจะมี surprise ให้เห็นเสมอๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขารู้ว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างร่วมกับคุณวิชัย แต่ก็บอกว่าตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่เนื่องจากกำหนดการคลาดเคลื่อน จึงทำให้ต้องตัดรายการนั้นออกไปสำหรับวันนี้

เขายังต้องมีประชุมภายในกับกลุ่ม Postpaid และทานอาหารมื้อค่ำกับที่ปรึกษาชาวต่างชาติที่ห้องอาหารอิตาเลียนที่ Sofitel Central แต่ซิคเว่บอกว่า เพิ่งจะโทรเช็กกับภรรยาว่าที่บ้านมีอาหารอะไรบ้าง เขาต้องการเชิญแขกของเขาไปที่บ้านมากกว่า เนื่องจากจะได้รู้สึกเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น

ด้วยภารกิจที่รัดตัว ส่วนมากกว่าจะเสร็จสิ้นก็ราว 4-5 ทุ่ม แต่ก็พยายามโทรศัพท์ไปคุยกับลูกๆ ก่อนเข้านอนทุกคืน และเล่าให้ฟังว่า พวกเด็กๆ ก็ยุ่งกับกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดให้ จะมีเวลาว่างก็ช่วงเสาร์-อาทิตย์

17.00 น.
กลับมาถึงตึกชัย ศูนย์บัญชาการของ DTAC ริมถนนวิภาวดีรังสิต ซิคเว่มีโอกาสได้พักผ่อนก่อนที่การประชุมจะเริ่มในอีกไม่ช้า เขาบอกว่าการประชุมไม่เป็นทางการแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยๆ ผิดกับประชุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเพียงเดือนละครั้ง