อินเดียเล็งครองตลาดรับจ้างผลิต (outsourcing) การ์ตูนสามมิติของฮอลลีวู้ด
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการเป็นตลาดรับจ้างผลิต (outsourcing) ซอฟต์แวร์และบริการ call center ให้ต่างประเทศ จนสร้างรายได้เข้าประเทศถึง 12,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ อินเดียก็กำลังเล็งขุมทรัพย์ outsourcing ขุมต่อไป จากการรับจ้างผลิตการ์ตูนสามมิติ รวมถึงสิ่งที่เป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างเกมคอมพิวเตอร์ด้วย
ขณะนี้บริษัทผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์อเมริกันกำลังมองว่า อินเดียเป็นแหล่งผลิตการ์ตูนที่สร้างจากคอมพิวเตอร์คุณภาพสูงในราคาถูก ทำให้คำสั่งจ้างผลิตการ์ตูนชุดทางโทรทัศน์ เกมคอมพิวเตอร์ การ์ตูน DVD ตามสั่ง และวิดีโอสาธิต สำหรับป้อนตลาดสหรัฐฯ และยุโรป พากันหลั่งไหล ไปที่อินเดียอย่างไม่ขาดสาย อย่างเช่นบริษัท Padmalaya Telefilms ของอินเดีย ที่เพิ่งเซ็นสัญญา 14 ล้านดอลลาร์กับบริษัท Mondo TV ของอิตาลี เพื่อรับจ้างผลิตการ์ตูนชุดทางโทรทัศน์ ที่มีความยาวมาก กว่า 100 ตอน
แม้ว่าตลาด outsource การ์ตูนของอินเดียจะเพิ่งตั้งไข่ โดยสร้างรายได้ให้อินเดียได้เพียง 150 ล้านดอลลาร์ต่อปีเท่านั้นในขณะนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมนี้จะขยายตัวอย่างน้อย 2 เท่าในปีนี้ และจะเป็นขุมทรัพย์ outsourcing ขุมต่อไปของอินเดียอย่างแน่นอน ซึ่งต้องขอบคุณคนอเมริกันที่มีรสนิยมเปลี่ยนไป
ความสำเร็จของการ์ตูนสามมิติอย่าง Shrek และ Toy Story ทำให้บริษัทผลิตการ์ตูนอเมริกันไม่อาจผลิตการ์ตูนด้วยวิธีเดิมๆ ที่เริ่มจากการวาดด้วยมือคนลงบนกระดาษ เพียงอย่างเดียว ได้อีกต่อไป ดังนั้นแม้ว่าบริษัทอเมริกันเหล่านั้นจะ outsource การผลิตการ์ตูนไปที่เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์มากว่า 10 ปีแล้ว แต่อินเดียก็ยังสามารถแทรกตัวเข้ามาในตลาดนี้ได้อย่างน่ากลัว ด้วยความรู้ความเชี่ยว ชาญที่เหนือกว่าทางด้านคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการผลิตการ์ตูนสามมิติ ที่สร้างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดได้เป็นอย่างดี
ด้วยค่าแรงของนักวาดการ์ตูนคอมพิวเตอร์ของอินเดียซึ่งอยู่ที่เพียง 3,500-30,000 ดอลลาร์ต่อปี และถูกกว่าค่าแรงของนักวาดการ์ตูนคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ 40,000-100,000 ดอลลาร์ต่อปี ช่วยให้บริษัทอเมริกันประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตการ์ตูนได้มากกว่า 50% จาก 170,000-250,000 ดอลลาร์สำหรับการ์ตูนสามมิติ 1 ตอนความยาวครึ่งชั่วโมง เหลือเพียง 70,000-100,000 เท่านั้นในอินเดีย
นักวาดการ์ตูนคอมพิวเตอร์ของอินเดียยังมีงานล้นมือในการผลิตเกมคอมพิวเตอร์ อย่างเช่นนักวาดของบริษัท Dhruva Interactive ในเมือง Bangalore ที่กำลังขะมักเขม้นสร้างเกมคอมพิวเตอร์ให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกันชื่อดังอย่าง Microsoft
ส่วนความทะเยอทะยานก้าวต่อไปที่บริษัทสตูดิโอการ์ตูนของอินเดียวาดฝันไว้คือ การก้าวจากการผลิตการ์ตูนชุดทางโทรทัศน์ ขึ้นไปเป็นการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนสามมิติของฮอลลีวู้ด ที่ใช้ทุนสร้างขนาดย่อมประมาณ 10-20 ล้านดอลลาร์
แต่อุปสรรคสำคัญที่อาจจะดับฝันของอินเดียคือ การขาดแคลนนักวาดการ์ตูนสามมิติที่สามารถ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เพียงประมาณ 4,000 คนเท่านั้น ในขณะที่ปริมาณงานที่หลั่งไหลเข้ามาบ่งชี้ว่า อินเดียต้องการนักวาดการ์ตูนคอมพิวเตอร์เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 คนในปีนี้ ซึ่งทำให้บางบริษัทถึงกับมีแผนจะนำเข้านักวาดการ์ตูนจากฟิลิปปินส์
นอกจากนี้การจะผลิตนักวาดการ์ตูนคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นในอินเดีย ยังมีอุปสรรคสำคัญคือค่านิยมของพ่อแม่ชาวอินเดีย ที่นิยมให้ลูกเรียนวิทยาศาสตร์หรือวิศวะ ไม่ใช่ศิลปะ ทำให้แทบไม่มี สถาบันการศึกษาของอินเดียที่เปิดสอนวิชาสร้างการ์ตูนจากคอมพิวเตอร์เลย
การขาดแคลนนักวาดการ์ตูนสามมิติที่มีฝีมือ ทำให้อินเดียวิตกว่าจะกระทบกับคุณภาพของงานที่ทำให้แก่บริษัทอเมริกัน
แต่ที่น่าวิตกยิ่งกว่าก็คือ อินเดียจะมีเวลาพอที่จะแก้ปัญหานี้ทันหรือไม่ ในเมื่อคู่แข่งอย่างจีน รัสเซีย และยูเครน เริ่มประสบความสำเร็จในการแย่งงานไปจากอินเดีย ด้วยการเสนอค่าแรงที่ถูกกว่าถึงครึ่งต่อครึ่ง
แปลและเรียบเรียงจาก
Time, July 12, 2004
โดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
|