EGV แจง MAJOR ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ของบริษัทแล้ว โดยให้ บล.เอเชีย พลัส เป็นผู้จัดทำคำเสนอซื้อ พร้อม MAJOR มีแผนเพิกถอน EGV ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน หลังการควบรวมกิจการจะส่งผลให้ผู้ทำคำเสนอซื้อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายจากการลดความซ้ำซ้อนของงานที่มีอยู่ ยกระดับเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่มีเครือข่ายใหญ่และครบวงจรที่สุดในประเทศ

นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง กรรมการ บริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (EGV) เปิดเผยว่า ได้รับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จาก บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) (MAJOR) ซึ่งได้ยื่น คำเสนอซื้อเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2547

โดย MAJOR เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อ และผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ส่วนวัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ เป็นขั้นตอนหนึ่ง ในการรวมกิจการระหว่างเมเจอร์ฯและอีจีวี

ทั้งนี้ ในการรวมกิจการระหว่าง MAJOR และ EGV นั้น MAJOR มีแผนจะเพิกถอนหุ้นสามัญของ EGV ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการควบรวมกิจการภายหลังการเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้ โดย MAJOR จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนของ EGV หลังจากการเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้ต่อไป

การควบรวมกิจการจะส่งผลให้ MAJOR สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากการลดความซ้ำซ้อนของงานที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายทางการตลาด นอกจากนี้ยังส่งผลให้ MAJOR มีฐานลูกค้าและส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดยการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่มี เครือข่ายที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในประเทศจะส่งผลให้ MAJOR มีความคล่องตัวในการบริหารงานเพิ่มมากขึ้น

ส่วนประเภทและรุ่นหลักทรัพย์เสนอซื้อผู้ทำคำเสนอซื้อจะเสนอซื้อหุ้นสามัญ EGV และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ) ของ EGV ซึ่งรายละเอียดของหลักทรัพย์ดังกล่าวสรุปได้ดังนี้ หุ้นสามัญจำนวน 260 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ EGV และจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของหุ้นสามัญที่เสนอซื้อเท่ากับ 260 ล้านเสียง คิดเป็น 100% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ EGV

ใบสำคัญแสดงสิทธิฯจำนวน 65 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯไม่มีสิทธิออกเสียง โดยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ดังกล่าวมีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออก ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิฯ 1 หน่วย สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของ EGV ได้ 1 หุ้นสามัญในราคาใช้สิทธิที่ 5 บาท