แบงก์ใบโพธิ์ ประกาศลั่นขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งธุรกิจบัตรเครดิตในสิ้นปี 48 เตรียมปล่อยสินเชื่อบุคคลออกสู่ตลาดในปีหน้าดันให้เป็นดาวเด่นของตลาด เล็งจับลูกค้ากลุ่มที่รับเงินเดือนผ่านแบงก์เป็นกลุ่มแรก ขณะที่เดินหน้าลุยเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องสิ้นปีเฉียด 600 สาขา เน้นสาขาย่อยตามศูนย์การค้าและมหาวิทยาลัย

นางจันทิมา จตุรภัทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB เปิดเผยว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะขึ้นสู่อันดับ 1 ในธุรกิจบัตรเครดิตภายในสิ้นปี 2548 โดยที่เป้าหมายของธนาคารในสิ้นปี 2547 คาดว่าจะมีปริมาณบัตรเครดิตรวมทั้งสิ้นจำนวน 1.1-1.2 ล้านบัตร ซึ่งในขณะนี้สามารถทำยอดได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว และในสิ้นปี 2548 ธนาคารคาดว่าจะมียอดบัตรทั้งสิ้น 1.7 ล้านบัตร

ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อคงค้างของลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารเพิ่มขึ้นจากประมาณ 7,000 ล้านบาท ในปี 2546 เป็น 9,000 ล้านบาทในปัจจุบัน โดยยอดวงเงินคงค้างทั้งหมดนี้มีลูกค้าประมาณ 70% ที่ผ่อนชำระขั้นต่ำ อีก 30% เป็นลูกค้าที่ชำระเต็มจำนวน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ธนาคารมีความพึงพอใจเนื่องจากลูกค้าที่ชำระขั้นต่ำนั้นเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ ให้กับธนาคารมากกว่ากลุ่มที่ชำระเต็มจำนวน

"บัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ถือว่ามีการใช้จ่ายสูงและเป็นบัตรที่มีการใช้จ่ายสม่ำเสมอถึง 60% ทั้งนี้ เนื่องจากสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ธนาคารมอบให้กับลูกค้าที่ถือบัตร รวมถึงธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้กับลูกค้าที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตร 30,000 บาทสำหรับบัตรเงิน และ 50,000 บาทสำหรับบัตรทอง ส่วนเอ็นพีแอลถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากคือมีเพียง 1-2% เท่านั้น" นางจันทิมากล่าว

นางจันทิมากล่าวว่า ในปี 2548 ธนาคารเตรียม นำสินเชื่อบุคคลออกสู่ตลาด ซึ่งในขณะนี้ธนาคารได้เตรียมโครงสร้างเพื่อรองรับการทำธุรกิจนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะคิดดอกเบี้ยในอัตรา 24% ต่อปี ทั้งนี้ธนาคารมองว่า คู่แข่งที่สำคัญในธุรกิจสินเชื่อบุคคลนี้คือกลุ่มของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ หรือ Non-Bank ที่มีความได้เปรียบตรงที่มีการอนุมัติสินเชื่อด้วยความรวดเร็วภายใน 30 นาที แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

ธนาคารพยายามนำจุดแข็งของกลุ่มนอนแบงก์มาปรับใช้โดยเร่งอนุมัติสินเชื่อให้เร็วขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง เนื่องจากธนาคารต้องเน้นบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ในเบื้องต้นธนาคารจะ จับกลุ่มเป้าหมายผู้ที่รับเงินเดือนผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ก่อน เพราะธนาคารสามารถทราบพฤติกรรม การใช้จ่ายของลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

"สินเชื่อบุคคลของธนาคารต้องมีการใช้เครดิต สกอริ่งที่มีประสิทธิภาพ เพราะธนาคารตั้งความหวังให้สินเชื่อบุคคลนี้เป็นไฮไลต์ทางการเงินของธนาคารในปีหน้าให้ได้" นางจันทิมากล่าว

นายนะเพ็งพาแสง กฤษณามระ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเปิดสาขาเพิ่ม 26 สาขาทั่วประเทศ แต่ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาธนาคารสามารถเปิดสาขาไปแล้ว 63 สาขาโดยส่วนใหญ่เปิดเป็นสาขาย่อยตามศูนย์การค้า ทั้งนี้ภายในสิ้นปีธนาคารได้ปรับแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 35 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีนี้ธนาคารจะมีสาขารวม 563 สาขา เพื่อรองรับการบริการทางการเงินอย่างครบวงจร

"จุดที่ธนาคารมองว่าน่าจะสร้างรายได้และมีศักยภาพในการเปิดสาขาคือ ที่มหาวิทยาลัยต่างๆ และในศูนย์การค้าซึ่งได้เจราจากับเจ้าของพื้นที่ไว้บ้างแล้ว และอีกทำเลที่น่าสนใจคือภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยทางธนาคารได้ตกลงเปิดสาขา กับ รฟม.แล้วไม่ต่ำกว่า 5 สาขา ขณะที่ตู้เอทีเอ็มนั้น ภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนประมาณ 1,900 ตู้" นายนะเพ็งพาแสง กล่าว