|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ราคารถยนต์ลดลง ตามภาษีสรรพสามิตใหม่ ไม่ช่วยดัน ตลาดรถพุ่งหวือหวานัก โดนพิษน้ำมันแพงฉุดความร้อนแรงลง ชี้ตลาดรถยนต์เดือนก.ค. ไม่เติบโต เป็นครั้งแรกในรอบปี บ่งชี้สัญญาณอันตรายชัดเจน แต่ยังมั่นใจถึงสิ้นปีตลาดรถจะยังคงเติบโตปกติ 6 แสนคัน ขณะที่ "โตโยต้า" ยันลดราคารถตามความเป็นจริง แถมยังควักเนื้อ 300 ล้านบาท แบกรับภาษีรถสต๊อกเก่าจนหลังแอ่นอีก
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า (ประเทศไทย) เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า หลังจากมีการปรับ ลดราคารถยนต์ลงตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ และบริษัทรถแต่ละยี่ห้อต่างทยอยปรับราคารถยนต์ลดลง อย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ตลาดกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ หลังจากอยู่ในภาวะหยุดนิ่งระยะหนึ่งในช่วงที่มีการประกาศปรับโครงสร้างภาษีใหม่ๆ เพราะลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อ ดูราคาใหม่
หลังจากโตโยต้าได้ประกาศปรับราคารถยนต์ลง สถานการณ์ก็กลับมาอยู่ในสภาวะปกติ แต่ไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดแต่อย่างใด เนื่องจากยังมีปัจจัยของราคาน้ำมันแพง มาทำให้ลูกค้าชะลอการใช้จ่ายลง ราคารถยนต์ที่ลดลงจึงไม่ส่งผลบวกต่อตลาดรถมากนัก แต่จะเติบโตตามความเป็นจริงของตลาด หรือถึงสิ้นปีอยู่ที่ประมาณ 6.0-6.2 แสนคัน ตามที่คาดการณ์กันไว้เมื่อต้นปี
นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า การลดราคารถยนต์ลงคงบอกภาพอะไรชัดเจนไม่ได้ในขณะนี้ เพราะเพิ่งผ่านมาได้สองสัปดาห์เท่านั้น นับจากวันประกาศบังคับใช้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่าหลังจากประกาศสัปดาห์แรก ตลาดรถชะลอตัวหมด เพราะลูกค้ารอการปรับราคาใหม่ แต่เมื่อเข้าสัปดาห์ที่สองบริษัทรถเริ่มประกาศลดราคารถยนต์แล้ว ลูกค้าได้กลับเข้ามาซื้อรถตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดแต่อย่างใด เนื่องจากมีปัจจัยปัญหาราคาน้ำมันแพง มาทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ซึ่งคงต้องรอดูอีกสักระยะหนึ่ง แต่จากยอดขายรถเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนแรกของตลาดรถที่ไม่เติบโต นี่จึงเป็นสัญญาณที่บ่งชี้อะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นผลมาจากภาษีสรรพสามิตใหม่ และน้ำมันแพง แต่ยังเชื่อว่าถึงสิ้นปีตลาดจะยังคงเติบโตอยู่ เพียงแต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นหวือหวาจากการลด ราคารถยนต์เท่านั้น
นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า หากวัดเฉพาะฟอร์ดหลังจากปรับราคารถยนต์ลง มีลูกค้าเข้ามาโชว์รูมมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นจนผิดปกติแต่อย่างใด เนื่องจากมีผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังเชื่อว่าตลาดรถยนต์ยังน่าจะเติบโตตามสภาวะปกติของมัน แต่จะเป็นเท่าไหร่คงตอบไม่ได้
ต่อกรณีที่กรมการค้าภายในออกมาจี้บริษัทรถ ให้ปรับราคารถยนต์ลงตามความเป็นจริงของโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่นั้น นายวุฒิกร กล่าวว่า โตโยต้าได้ปรับลดราคารถอย่างโปร่งใส โดยได้ประกาศราคาใหม่ทางหนังสือพิมพ์อย่างชัดเจน พร้อมลดราคาย้อนหลังให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมเป็นต้นไป ตามการบังคับใช้ของโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่อย่าง เป็นทางการ
"ราคารถใหม่ที่ปรับลดลง โตโยต้ายืนยันว่าไม่ได้ลดลงน้อยกว่า 5% ตามที่กำหนดแน่นอน และบางรุ่นลดลงมากกว่านั้นอีก แต่หากกรมการค้าภายในเห็นว่า ไม่ได้ลดตามจริงก็ให้บอกมาว่าเป็นรุ่นไหน และโตโยต้าพร้อมจะชี้แจงทุกอย่าง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วโตโยต้าลดราคาลง 5.8% มากกว่าอัตราภาษีสรรพสามิตที่ลดลงเสียอีก"
นายวุฒิกรกล่าวว่า ตามโครงสร้างภาษีใหม่จะบังคับใช้กับรถที่ออกจากโรงงานตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากโตโยต้ากลัวลูกค้าเกิดความสับสน ระหว่างรถที่ยังค้างสต๊อกและเสียภาษีในอัตราเดิม 7,000 คัน กับล็อตใหม่ที่ออกมานับตั้งแต่วันประกาศบังคับใช้ภาษีรถยนต์ใหม่ ทำให้โตโยต้าตัดสินใจลดราคาเหมือนกันหมด แม้จะต้องแบกรับภาษีสต๊อกเก่าเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
|
|
|
|
|