สื่อสารนำตลาดปลุกหุ้นไทยคึกคัก วอลุ่มเฉียด 2 หมื่นล้าน เก็งข่าวตั้ง กทช.เดือน ก.ย.นี้หลังผ่านสภาฯ ส่วน TRUE ขุดข่าวเก่ากลุ่มชินฯเล็งเทกโอเวอร์ดันหุ้นชนซิลลิ่ง ขณะที่หุ้นแบงก์/กลุ่ม N-PARK ไปไม่รอด ท้ายสุดถูกขายทำกำไร ฝรั่งยังซื้อต่ออีกกว่า 300 ล้าน โบรกเกอร์เชื่อช่วงนี้หุ้นไปไม่ไกล เหตุไร้ข่าวใหม่และราคาน้ำมันยังเป็นปัจจัยกดดัน ด้านบิ๊ก BBL-KTB ฉวยจังหวะหุ้นทรุดวันที่ 11 ส.ค. เก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพียบ

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (18 ส.ค.) ในช่วงเช้าของการซื้อขายบรรยากาศค่อนข้างสดใส ก่อนที่จะถูกแรงขายทำกำไรในช่วงปลายตลาด โดยหุ้นกลุ่มสื่อสารมีแรงเก็งกำไรเข้ามาค่อนข้างมาก รวมทั้งหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่ม N-PARK ที่ถูกขายออกมาอย่างหนักก่อนหน้านี้ เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ส่งผลให้ระหว่างการซื้อขายราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายแล้วหุ้นทุกตัว ที่ปรับขึ้นมาเกิดแรงขายทำกำไรทำให้ราคาอ่อนตัวลง

โดยดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 605.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด คิดเป็น 0.42% มูลค่าการซื้อขาย 19,259.32 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 612.22 จุด และต่ำสุดที่ 601.08 จุด ด้านนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิอีก 356.83 ล้านบาท และกองทุนซื้อสุทธิ 192.84 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 549.67 ล้านบาท

สื่อสารคึกเก็งตั้ง กทช.

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สาเหตุที่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสารเข้ามาอย่างหนาแน่น เนื่องจากรมว.กระทรวงไอซีที มีการออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งคณะกรรมการกทช. คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา ส่งผลให้เกิดแรงเก็งกำไรเข้ามา โดยเฉพาะในหุ้นที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากความชัดเจนเรื่องค่าเชื่อมโยงโครงข่าย อย่างเช่น TT&T ที่ปัจจุบันจ่ายค่าสัมปทานอยู่มากที่สุด รวมถึงหุ้นสื่อสารตัวอื่นๆด้วย

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเป็นเพียงแรงเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น โดยส่วนใหญ่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดเล็ก ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่อย่าง SHIN ADVANC ยังปรับตัวลดลง สำหรับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นมองว่าเป็นการซื้อขายทำกำไรหลายรอบ

ทั้งนี้ หุ้น TT&T ปิดตลาดที่ 3.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.54 บาท คิดเป็น 16.67% มูลค่าการซื้อขาย 638.24 ล้านบาท ระหว่างวันราคาหุ้นขึ้นไปสูงสุดที่ 4.04 บาท หุ้น UCOM ปิดที่ 51.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท คิดเป็น 4.04% มูลค่าการซื้อขาย 602.09 ล้านบาท ระหว่างวันราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 52.50 บาท

TRUE ชนซิลลิ่ง

สำหรับหุ้น TRUE ถือว่าเป็นหุ้นที่มีแรงเก็งกำไรเข้ามามากที่สุดในกลุ่มสื่อสาร โดยระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงสุดถึง 5.30 บาท เพิ่มขึ้น 29.90% ก่อนที่จะปิดตลาดที่ 4.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.86 บาท คิดเป็น 21.08% มูลค่าการซื้อขาย 703.44 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า มีกระแสข่าวลือในห้องค้า ซึ่งเป็นการนำข่าวเก่ามาเก็งกำไรในหุ้น TRUE อีกครั้ง คือข่าวกลุ่มชินฯสนใจเข้าเทกโอเวอร์ TRUE เพื่อทำธุรกิจสื่อสารครบวงจร ผสมโรงกับข่าวการตั้ง กทช. ทำให้หุ้น TRUE มีแรงซื้อเข้ามามากกว่าสื่อสารตัวอื่น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะประเมินถึงกระแสข่าวลือดังกล่าวว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับตาจากทางการว่าเป็นผู้ปล่อยข่าวลือ

แบงก์/กลุ่ม N-PARK ไปไม่รอด

ในส่วนของหุ้นแบงกฺ์ทั้ง SCIB SCIB-C1 และ KTB ที่ถูกขายหนักก่อนหน้านี้ เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ต่อเนื่องจากวันก่อนส่งผลให้ระหว่างการซื้อขายราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายถูกขาย ทำกำไรช่วงปลายตลาด ส่งผลให้ราคาหุ้น SCIB ปิดตลาดที่ 23.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุด 23.60 บาท SCIB-C1 ปิดที่ 2.04 บาท ลดลง 0.24 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุด 2.38 บาท KTB ปิดที่ 8.10 บาท ลดลง 0.15 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุด 8.40 บาท

N-PARK ปิดที่ 1.39 บาท ลดลง 0.01 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุด 1.53 บาท SYNTEC ปิดที่ 1.51 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุดที่ 1.82 บาท และ PA ปิดที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.39 บาท จากที่ขึ้นไปสูงสุด 5.60 บาท

โบรกฯมองตลาดไปไม่ไกล

นายสุกิจ อุดมศิริกุล หัวหน้าหน่วยกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายวานนี้ (18 ส.ค.) ถือว่าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงท้ายตลาด หลังจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปมาก เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ ในขณะที่ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง ยังคงเป็นสิ่งที่กดดันตลาดอยู่ ดังนั้นเมื่อหุ้นขึ้นไปก็จะมีแรงขายออกมา

"ในช่วงนี้มองว่าหุ้นจะเคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบ 600-615 จุด ซึ่งมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นอาจเป็นเพราะบรรยากาศเริ่มดีขึ้นหลังต่างชาติมีแรงซื้อเข้ามา แต่ที่สุดแล้วดัชนีก็ยังไปไม่ไกลเพราะราคาน้ำมันเป็นแรงกดดัน" นายสุกิจกล่าว

บอสชาตรี-บิ๊ก KTB เก็บหุ้น

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ (BBL) รายงานการซื้อ หุ้น BBL จำนวน 300,000 หุ้น ที่ราคา 87.66 บาท จากนั้นวันที่ 13 ส.ค. รายงานการซื้อหุ้น BBL อีกจำนวน 300,000 หุ้น ที่ราคา 86 บาท ซึ่งหากรวมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นายชาตรีรายงานการซื้อหุ้น BBL อย่างต่อเนื่องรวมจำนวน 1,700,000 หุ้น

ด้านผู้บริหารธนาคารกรุงไทย (KTB) มีการเข้า มาเก็บหุ้นเข้าพอร์ตเช่นกัน โดยนายสหัส ตรีทิพยบุตร กรรมการธนาคารกรุงไทย รายงานการซื้อหุ้น KTB เมื่อวันที่ 11 ส.ค. จำนวน 66,000 หุ้น ที่ราคา 7.50 และ 7.55 บาท ต่อมาวันที่ 16 ส.ค. นายสถิต จูพัฒนกุล ผู้บริหารอีกหนึ่งท่านรายงานการซื้อหุ้น KTB จำนวน 50,000 หุ้น ที่ราคา 7.90 บาท

นอกจากนั้น พบนายกมล เอี้ยวศิวิกูล ซื้อหุ้น MIDA เมื่อวันที่ 13 ส.ค. จำนวน 314,400 หุ้นที่ราคา 14.48 บาท ซึ่งหากรวมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นายกมล รายงานการซื้อหุ้นต่อเนื่องรวมจำนวน 6,614,400 หุ้น และนายไพบูลย์ ปัญญวุฒิ ซื้อหุ้น ATC เมื่อวันที่ 11 ส.ค. จำนวน 126,700 หุ้นที่ราคา 55 บาท จากนั้นวันที่ 13 ส.ค. รายงานการซื้อหุ้นอีกจำนวน 241,000 หุ้น ที่ราคา 54.40 บาท

ในขณะที่นายเรืองวิทย์ ดุษฎีสุรพจน์ รายงานการขาย ZMICO-W3 จำนวน 1,622,934 หน่วย ที่ราคา 4.15 บาท เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. รายงานการขายอีกจำนวน 1,572,400 หน่วย ที่ราคา 4.04 บาท