บุษบา หล่อสกุลสินธ์ ประธานกรรมการ บริษัทคาร์เวิลด์ คลับ จำกัด (CWC) เปิดเผยถึงแผนงานของ
CWC ในช่วงปี 2541 ซึ่งนับเป็นการรุกคืบอีกช่วงหนึ่งของกิจการ ที่จะฝ่ากระแสเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในปัจจุบันว่า
ทางบริษัทได้มีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนขึ้นอีก 50 ล้านบาท จากปัจจุบันที่เงินทุนจดทะเบียน
50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำเนินการและการขยายงานในอนาคต
โดยในกลางปี 2541 ทางบริษัทจะลงทุนอีก 10-12 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาการให้บริการเพิ่มอีก
2 แห่ง เพื่อครอบคลุมพื้นที่การให้บริการในภาคเหนือและภาคอีสาน
โดยภาคเหนือ ทางบริษัทจะตั้งสาขาใน เชียงใหม่ ส่วนภาคอีสานอยู่ในระหว่างการศึกษาว่าจะตั้งสาขาในจังหวัดใด
ทางบริษัทจะเน้นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นและปริมาณการใช้รถยนต์ค่อนข้างมาก
ปัจจุบันทางบริษัทมีสาขา 4 แห่ง คือสำนักงานใหญ่ บางนา เพชรบุรี สระบุรี
และพัทยา โดยครอบคลุมพื้นที่บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในจังหวัดสมุทรปราการ
นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี-พัทยา ระยอง และทางหลวงสายใหญ่ๆ ได้แก่ สายใต้จรดหัวหินและสายตะวันออกเฉียงเหนือถึงปากช่อง
สำหรับปริมาณสมาชิกนั้นในปี 2541 ทางบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 100,000
ราย จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าที่สมัครสมาชิกรวมทั้งสิ้น 35,000 รายเท่านั้น
ทั้งนี้คาดว่าการเพิ่มบัตรสมาชิกประเภทใหม่จะได้รับการต้อนรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
ผนวกกับการขยายเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในสื่อต่างๆ
จะส่งผลให้ลูกค้าให้ความสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จากสถิติอัตราการเติบโตของสมาชิก 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีการขยายตัวถึงปีละกว่า
100% โดยในปีแรกมีสมาชิกประมาณ 6,000 ราย ปีที่ 2 มีสมาชิกเพิ่มเป็น 15,000
ราย และปีที่ 3 มีสมาชิกรวมเป็น 35,000 ราย ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถขยายปริมาณสมาชิกได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
บุษบากล่าวเพิ่มว่า ทางด้านช่องทางการจำหน่าย ทางบริษัทพยายามที่จะกระจายการขยายสมาชิกทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายโดยตรงโดยผ่านพนักงานขาย จำหน่ายให้กับบริษัทรถยนต์
อาทิ ไครสเลอร์ โอเปิล และโตโยต้า นอกจากนี้ยังจำหน่ายให้กับบริษัทขนาดใหญ่เพื่อนำไปจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย
โดยสัดส่วนการจำหน่ายสำหรับการจำหน่ายโดยตรง และการจำหน่ายผ่านบริษัทต่างๆ
ประมาณ 51 ต่อ 49
ในส่วนรายละเอียดของงานบริการนั้น บุษบาได้อธิบายถึงความเป็น CWC ว่า CWC
ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงแก่สมาชิก เมื่อรถยนต์เกิดขัดข้อง
โดยทีมงานการให้บริการของ CWC ประกอบไปด้วยรถยนต์ชนิดพิเศษ 2 คัน รถยก/ลาก/จูง
25 คัน รถตรวจการณ์ พร้อมเครื่องมือ 25 คัน รถจักรยานยนต์พร้อมเครื่องมือ
60 คัน และช่างเทคนิคอีก 250 คน คอยให้บริการสมาชิก
สำหรับการบริการในขณะนี้จะให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึง
ชลบุรี พัทยา ระยอง ทางหลวงสายใหญ่ ได้แก่ สายใต้ จรดหัวหิน สายตะวันออกเฉียงเหนือถึงปากช่อง
และกลางปี 2541 จะขยายไปถึงเชียงใหม่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การให้บริการฉุกเฉินของ CWC จะประกอบด้วยศูนย์สั่งการที่ทำงานทุกวัน ตลอด
24 ชั่วโมง เพื่อติดต่อกับหน่วยงานบริการ 50 จุดทั่วกรุงเทพฯ พร้อมด้วยรถยก
ลาก จูง รถตรวจการณ์พร้อมเครื่องมือ, รถจักรยานยนต์พร้อมเครื่องมือ, ช่างเทคนิคที่ชำนาญ
สำหรับระยะเวลาที่ CWC จะไปให้บริการแก่สมาชิกจะอยู่ประมาณ 30 นาที นับจากเวลาที่แจ้ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร และความชัดเจนของสมาชิกในการแจ้งตำแหน่งที่รถเสียอยู่ด้วย
และจากสถิติการให้บริการในช่วงเดือนสิงหาคม 2539 ถึงเดือนกรกฎาคม 2540
ปรากฏว่า มีการเรียกใช้บริการจาก CWC มากถึง 9,964 ครั้ง โดยปัญหาส่วนใหญ่มาจากแบตเตอรี่และไดสตาร์ท
จำนวน 2,126 ครั้ง, ระบบเครื่องยนต์ 1,203 ครั้ง, ปัญหาจากล้อและยาง 990
ครั้ง, อุบัติเหตุ 949 ครั้ง, ระบบหล่อเย็น 873 ครั้ง แต่หากช่างของ CWC
ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ก็จะเรียกรถยกมาลากรถสมาชิกไปยังศูนย์บริการรถ
หรือไปยังสถานีบริการที่สมาชิกใช้บริการอยู่
ทั้งนี้สมาชิกของ CWC จะมีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภท และแต่ละประเภทก็จะมีสิทธิประโยชน์แตกต่างกันออกไป
กล่าวคือ สมาชิกเอกสิทธิ์ ที่มีอัตราค่าสมาชิกปีละ 1,690 บาท บวกค่าธรรมเนียมแรกเข้า
300 บาท สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ ก็คือสามารถใช้บริการฉุกเฉินได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ระยะลากจูง 30 กิโลเมตรต่อครั้ง ฟรี 3 ครั้งต่อปี แต่หากมีการลากจูงเกิน
30 กิโลเมตรจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 20 บาทต่อกิโลเมตร และที่สำคัญสามารถให้บริการ
CWC กับรถคันใดก็ได้ แต่สมาชิกต้องอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการโดยสารหรือเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว
สมาชิกอีกประเภทคือ สมาชิกแบบครอบครัว ที่เสียค่าสมาชิก 2,990 บาทต่อปี
สามารถใช้บริการฉุกเฉินได้ไม่จำกัดครั้ง ระยะลากจูง 30 กิโลเมตรต่อครั้ง
ฟรี 3 ครั้ง แต่การลากจูงแต่ละครั้ง หากเกิน 30 กิโลเมตรเสีย 20 บาทต่อกิโลเมตร
รวมทั้งสามารถให้รถคันใดก็ได้ แต่สมาชิกต้องอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการโดยสารหรือเจ้าของรถเดียวกับสมาชิกเอกสิทธิ์
แต่สมาชิกแบบครอบครัวมีข้อจำกัด คือต้องมีนามสกุลเดียวกัน ที่อยู่เดียวกัน
และเข้าเป็นสมาชิกในคราวเดียวกัน
และสมาชิกประเภทสุดท้ายคือ CWC ASSIST ที่เสียค่าสมาชิกเพียงปีละ 890 บาท
สามารถเรียกใช้บริการฉุกเฉินได้ 3 ครั้ง ลากจูง 10 กิโลเมตรแรกฟรีในครั้งแรก
หากเกิน 10-30 กม.เสียค่าบริการ 500 บาท ต่อไปคิด 20 บาทต่อ กม. ในครั้งถัดไปเสีย
1,000 บาทต่อ 30 กม.ของการลากจูง ต่อไปคิด 20 บาทต่อ กม.
แต่สมาชิกประเภท CWC ASSIST จะได้สิทธิประโยชน์ในรูปแบบคูปองแทนเงินมีมูลค่ากว่าหมื่นบาท
ไม่ว่าจะเป็นคูปองส่วนลดพิทักษ์ความงามรถยนต์ของโปลีเคม ศูนย์บริการตรวจรถยนต์ระดับมาตรฐานสากลทุกสาขาของบี-ควิก
ศูนย์บริการดูแลรถยนต์แม็กซ์ เป็นต้น
นอกจากการบริการฉุกเฉินแล้วยังมีสิทธิประโยชน์อีกหลายประการที่สมาชิกจะได้รับ
ไม่ว่าจะเป็นการบริการด้านท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยจัดหาตั๋วเครื่องบินและแพ็คเกจทัวร์ในราคาพิเศษแก่สมาชิก
บริการจัดหาประกันภัยรถยนต์ และมีส่วนลดหลายอย่าง และได้รับส่วนลดจากร้านอาหารโรงแรม
โรงพยาบาล และบริการอื่นๆ เช่น บริการต่อทะเบียนรถยนต์ (ค่าบริการ 200 บาท/ครั้ง)
และบริการให้คำแนะนำในการทำใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ
ทั้งนี้การบริการ ของ CWC น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน
เพื่อแก้ไขเมื่อรถเกิดเสียกะทันหัน และเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายที่อาจแฝงมาในรูปของอาชญากรรมต่างๆ
นอกจากการให้บริการฉุกเฉิน แล้วทาง CWC ยังมีโครงการ MOBILE UNIT POINT
เพื่อช่วยลดมลภาวะทางอากาศในกรุงเทพมหานคร โดยได้รับการสนับสนุนจากคาสตรอล
(ไทยแลนด์) โดย CWC ได้เตรียมรถเคลื่อนที่ที่บรรจุเครื่องมือคอมพิวเตอร์ตรวจเช็คเครื่องยนต์
และช่างผู้ชำนาญให้คำปรึกษาและปรับแต่งเครื่องยนต์ฟรี กับประชาชนทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ
ที่สามารถให้บริการตรวจเช็ครถยนต์ ได้ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ทั่วไป
ตรวจเชกคด้วยเครื่อง คอมพิวเตอร์ เช่น ตรวจเช็คก๊าซไอเสียต่างๆ ตรวจเช็คส่วนผสมระหว่าง
น้ำมันกับอากาศ ตรวจเช็คแบตเตอรี่ ตรวจเช็คควันดำ ตรวจเช็คระบบไฟจุดระเบิด
สำหรับการบริการในรูปแบบของ CWC แล้ว ในสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำเช่นนี้ อาจมองได้ว่าเป็นงานบริการที่ฟุ่มเฟือยเกินไป
เป็นงานเสริมที่เน้นความสะดวกสบาย
แต่ถ้ามองลึกลงไป ในหลายปัจจัยและเหตุผล CWC น่าที่จะเป็นทางออกในยุคประหยัดและต้องคุ้มค่าในทุกเรื่อง
เพราะ CWC ช่วยได้ทั้งเรื่องความปลอดภัย โดยที่คุณไม่ต้องกังวลว่า ผู้ที่มาช่วยเหลือคุณมาดีหรือมาร้ายกันแน่
คุณไม่ต้องว้าเหว่อีกต่อไป โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ในยามที่รถคู่กายต้องมาตายเอากลางคัน
คุณไม่ต้องกังวลกับงบประมาณ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะการลากจูงรถ
ยังอีกหลายบริการเสริมจาก CWC
ยิ่งในช่วงที่รถยนต์มือสองกำลังจะผงาดเป็นเจ้าถนน ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่า
CWC น่าจะบูมตามวิถีทางของธุรกิจ
แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้บริหารจะเข้มข้นในงานบริการ เพื่อคงประสิทธิภาพให้อยู่ตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่เท่านั้น
และต้องไม่เน้นความหลากหลายของส่วนงานเสริมเพื่อหวังขยายตลาด เช่น ส่วนลดต่างๆ
กลยุทธ์ขายควบจนเกินเลยไป
จนลืมความสำคัญของงานบริการที่เป็นหัวใจหลักของการก่อเกิดธุรกิจ ไม่เช่นนั้นแล้ว
CWC ก็คงเป็นได้แค่ธุรกิจพ่วงเท่านั้นเอง