|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก.ล.ต.สนองนโยบายรัฐจ้องฟันนักวิเคราะห์ เตรียมตั้ง คณะทำงานตรวจสอบหากวิเคราะห์ผิดต้องถูกลงโทษ นอกจากนั้นเล็งเข้าตรวจสอบระบบกลไกการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุกรณีเกิดข่าวลือต้องแจ้งให้นักลงทุนภายในครึ่งชั่วโมง พร้อมขึ้นทะเบียนจาก 37 คนเป็น 105 คนภายในเวลาข้ามวัน
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) สำนักงานก.ล.ต.จะออกหนังสือเวียนไปยังบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆเพื่อจัดระเบียบห้องค้า เนื่องจากไม่ต้องการให้ห้องค้าเป็นแหล่งสนับสนุนการกระจายข่าวลือโดยบริษัทหลักทรัพย์จะต้องจัดให้ มีเจ้าหน้าของบริษัทหลักทรัพย์ดูแลเกี่ยว กับข่าวลือที่เกิดขึ้นซึ่งถ้ามีกระแสข่าวลือ เจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งให้ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ได้รับทราบเพื่อแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์ให้มีการตรวจสอบข่าวลือที่เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนใดบริษัทหนึ่ง
ทั้งนี้มาตรการนี้ถือว่าเป็นการสกัดกั้นไม่ให้เกิดข่าวลือแพร่กระจายในวงกว้างซึ่งจะอาจจะทำให้
นักลงทุนได้รับผลกระทบได้เช่นกัน โดยสำนัก งานก.ล.ต.ได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์และได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบซึ่งถ้าเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนนั้นตลาดหลักทรัพย์จะเป็นผู้ดูแลถ้ามีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นตลาดหลักทรัพย์จะเป็นผู้ติดต่อสอบถาม แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของราชการสำนักงาน ก.ล.ต.จะเป็นผู้ติดต่อสอบถาม
นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะที่ปรึกษาขึ้นมาซึ่งจะประกอบด้วยตัวแทนจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และตัวแทนจากนักลงทุนสถาบันเช่นกองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) หรือตัวแทนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) จะเป็นผู้พิจารณาในกรณีที่นักวิเคราะห์ที่การวิเคราะห์ผิดพลาดก็จะพิจารณาบทลงโทษ ซึ่งระดับการลงทุนมีหลายระดับ เช่นการตักเตือน การภาคทัณฑ์เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถ้านักวิเคราะห์มีการกระทำที่ผิดในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นต้นสังกัดก็จะต้องรับผิดชอบด้วย
"ในช่วงที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปเยี่ยมชมการทำงานของบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศพบว่าจะมีการทำงานเป็นทีมโดยมีการประชุมนักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะได้วิเคราะห์ออกมาว่ามุมมองของบริษัทเป็นอย่างไรเพื่อที่จะได้เป็นแนวทางเดียวกัน" นายธีระชัยกล่าว
นายธีระชัยกล่าวต่อว่า สำนักงานก.ล.ต.จะเข้าไปตรวจสอบกลไกการติดต่อกับบริษัทจดทะเบียนในกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ก็ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วแต่กรณีที่ก.ล.ต.พบว่ามีอะไรที่จะทำให้ดีขึ้นก็จะคอยแนะนำ และตั้งเป้าว่ากรณีเกิดกระแสข่าวลือขึ้นมาตลาดหลักทรัพย์จะต้องมีเปิดเผยผลการติดต่อสอบถามภายในระยะเวลาครึ่งชั่วโมง เพราะการทำให้สถานการณ์อึมครึมนานๆ จะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นได้
"สำนักงานก.ล.ต.เตรียมที่จะเข้าไปตรวจสอบกลไกการบริหารงานและดูแลให้บริษัทจดทะเบียนชี้แจงข้อมูลรวมถึงการดูแลให้บริษัทจดทะเบียนเรียกนักวิเคราะห์เข้าไปเยี่ยมชมกิจการของตลาดหลักทรัพย์" นายธีระชัยกล่าว
ด้านรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงรายชื่อนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ดำเนินการขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน ก.ล.ต.แล้วล่าสุดวันที่ 16 ส.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 105 ราย โดยแบ่งเป็นของบล.เกียรตินาคิน 1 ราย บล.ทรีนิตี้ 5 ราย บล.แอ๊ด-คินซัน 4 ราย บล.แมคควอรี่ (ประเทศไทย) 1 ราย บล.เอเซียพลัส 6 ราย
บล.ซีแอลเอสเอ 1 ราย บล.เคจีไอ 6 ราย บล.ธนชาติ 3 ราย บล.พัฒนสิน 5 ราย บล.ยูบีเอส (ประเทศไทย) 1 ราย บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) 2 ราย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) 5 ราย บล.นครหลวงไทย 2 ราย บล.ภัทร 3 ราย บล. ฟินันซ่า 6 ราย
บล.ฟาร์อีสท์ 3 ราย บล.ซิกโก้ 4 ราย บล. ซีมิโก้ 3 ราย บล.ทิสโก้ 8 ราย บล.บัวหลวง 7 ราย บล.กรุงศรีอยุธยา 1 ราย บล.ไซรัส 2 ราย บล.บีฟิท 1 ราย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) 3 ราย บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) 11 ราย บล.บีที 5 ราย บล.ยูไนเต็ด 3 ราย และบล.อินเทลวิชั่น 3 ราย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2547 สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ประกาศรายชื่อนักวิเคราะห์ที่ขึ้นทะเบียนแล้วเพียง 37 รายเท่านั้น แต่พอวันที่ 16 ส.ค. มีนักวิเคราะห์ที่ขึ้นทะเบียนเพิ่มขึ้นมาเป็น 105 ราย
|
|
|
|
|