Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 สิงหาคม 2547
KTCขย่มตลาด "เถ้าแก่ใหม่" ต่อยอดธุรกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
บัตรกรุงไทย, บมจ.
นิวัตต์ จิตตาลาน
Credit Card




KTC รุกลูกค้า "เถ้าแก่ใหม่" ให้ วงเงินกู้เฉลี่ย 1-4 ล้านบาท หวังปั้นผู้ประกอบการ ขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) สนองนโยบายรัฐ เตรียมเปิดตัวภายในเดือนตุลาคมนี้ ชูจุดขายอนุมัติด่วนทันใจ ขย่มตลาด

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ เพื่อให้บริการสินเชื่อกับผู้ประกอบการรายใหม่ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ โดยมีวงเงินในการ กู้ยืมประมาณ 1-4 ล้านบาท เพื่อนำเงินกู้ที่ได้รับไปต่อยอดธุรกิจ ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะไม่สูงมากนัก และคาดว่าน่าจะสมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นเงินกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

"กระแสที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คนไทยเริ่มทำงานอิสระมากขึ้น ทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ การเข้าทำตลาดนี้น่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า และที่สำคัญรัฐบาลก็มีนโยบายสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่"

สำหรับหลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้ ลูกค้าจะต้องมีรายได้ต่อปีประมาณ 1 ล้านบาท ทำธุรกิจติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 4 ปี โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นฐานลูกค้าเดิมของบริษัท และลูกค้าใหม่บางส่วน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า 9.7 แสนบัตร และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1.3 ล้านบัตรภายในปีนี้ และมีจุดขายเรื่องของการอนุมัติวงเงินที่สะดวกสบาย และไม่มีความซับซ้อนเมื่อเทียบกับ คู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด

นอกจากนี้ ในปลายปี 2547 KTC ยังเตรียมเปิดตัว "อินฟินิส การ์ด" ร่วมกับ VISA เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยบัตรดังกล่าวถือเป็นบัตรที่มีศักยภาพสูงกว่าบัตรแพลททิเนียม และบัตรทองที่เคยมีมาในประเทศ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่ม คนไทยที่มีรายได้สูง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท และคนต่างชาติที่ไม่สามารถถือบัตรอิลิทการ์ด ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น นายนิวัติกล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพราะในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ประเมินทิศทางตลาดไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยได้มีการออกหุ้นกู้หลายครั้ง ซึ่งทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 3% เท่านั้น ซึ่งทำให้เห็นว่าแม้ดอกเบี้ยปรับขึ้นก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท

สำหรับผลประกอบการ KTC ในไตรมาสสอง ของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 150.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 98.24 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 302.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 149.91 ล้านบาท

นายนิวัตต์ กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาส่งสัญาณเตือนภาระหนี้สินภาคครัวเรือน และหนี้สินส่วนบุคคลว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ธปท.ออกมาส่งสัญญาณเตือน โดย KTC ก็เตรียมพร้อมที่จะปรับตัวในการดำเนินธุรกิจ หากธปท.มีการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทมีหลักการวิเคราะห์ความเสี่ยง และประเมินความเสี่ยงที่เป็นระบบ ไม่น่าจะมีปัญหาหากธปท.เข้ามาดูแล และออกหลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลักเกณฑ์ที่ธปท.จะเข้ามาควบคุม น่าจะเป็นการวางกรอบเกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า เพราะบางแห่งอัตราดอกเบี้ยสูงมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าสินเชื่อได้รับผลกระทบ ในการถูกเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่แพงไม่สมเหตุสมผล

"การส่งสัญญาณเตือน เป็นหน้าที่ของธปท.ที่ต้องดำเนินการในฐานะผู้กำกับดูแลสถาบันการเงิน และการที่ยอดหนี้สินภาคครัวเรือนมากขึ้น นักลงทุนอย่าพึ่งตกใจ เพราะก่อนหน้าหนี้เหล่านี้ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ แต่ยอดที่เพิ่มขึ้นเป็นการนำเข้ามาสู่ในระบบ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ในการจัดการกับปัญหาภาระหนี้สินนอกระบบ"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us