"นักการตลาด" ชี้ครึ่งปีหลังทัพสินค้าไทยสวนกระแส กระหน่ำอัดโปรโมชันหนัก หวังเป็นทางรอดระบายสินค้าล้นสต๊อก "ยี่ปั๊ว-โชวห่วย" หวั่นกิจการเจ๊ง เมินสินค้าฟุ่มเฟือย "ตั้งฮั่วเส็ง" ระบุห้างฯ-ศูนย์การค้ากระหน่ำจัดรายการลดแหลกยาว พร้อมเพิ่มถี่ตลอดช่วง 4 เดือน ล่าสุดค้าปลีกพาเหรดปรับตัวครั้งใหญ่ สร้างจุดยืนจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะแทน เดินเกมกลยุทธ์ราคากระทบกำไรหด

นายธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ในฐานะมุมมองนักการตลาดว่า สภาพโดยรวมในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีปัจจัยลบหลายประการและมีผลพวงเป็นลูกโซ่กันทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาความไม่สงบทางชายแดนภาคใต้ที่มีเป็นระยะ อุทกภัยในหลายพื้นที่และการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยาของผู้บริโภค และมีผลพวงมาถึงพฤติกรรมของ ผู้บริโภคที่จะมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มการทำตลาด ในช่วงครึ่งปีหลังที่มีปัจจัยลบหลายประการนั้น นักการตลาดมองว่า ที่ผ่านมาฤดูกาลจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายจะค่อนข้างหนักในช่วงครึ่งปีหลังอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการต้องการกระตุ้นยอดขายสินค้าที่ทำตลาดในช่วงครึ่งปีแรกแล้วไม่เข้าเป้า ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่คาดว่าครึ่งปีหลังของปีนี้กลุ่มผู้ประกอบการจะหันมาให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือทำโปรโมชันหนักมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ส่วนการปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคคงจะเป็นเรื่องยาก และน่าจะเป็นกลยุทธ์สุดท้าย ที่ผู้ประกอบการเลือกที่จะนำมาใช้ เนื่องจากการแข่งขันของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมีความรุนแรง แม้ว่าในช่วงนี้จะมีปัจจัยลบหลายประการก็ตาม เช่น ราคาน้ำมัน และวัตถุดิบปรับราคาสูงขึ้น แต่ซัปพลายเออร์ก็เลือกที่จะแบกรับ ภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมากกว่าการขึ้นราคาแล้วเสียส่วนแบ่งตลาด โดยขณะนี้เห็นได้ชัดเจนว่า ตลาดยาสีฟัน แชมพู สบู่ หรือแม้กระทั่งน้ำมันพืช กระหน่ำ ลด แลก แจก แถม กันสูงมาก

"สินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบันจะไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้บริโภคเองก็มีความภักดีต่อแบรนด์ก็มีน้อย ทำให้มีโอกาสที่จะสวิตชิ่งแบรนด์ได้สูงมาก ดังนั้นการทำโปรโมชัน หรือ ลด แลก แจก แถม จะเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น"

ยี่ปั๊วเมินสินค้าไม่จำเป็นเข้าร้าน

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ขณะนี้ยี่ปั๊วหรือร้านค้าส่งและโชวห่วยหรือร้านค้าปลีกรายย่อย เริ่มปรับตัวรองรับภาวะตลาดในช่วงครึ่งปีหลังแล้ว ทั้งนี้ เพื่อความอยู่รอดของการทำกิจการ โดยจะสั่งซื้อสินค้าในจำนวนที่จำกัด และสั่งซื้อสินค้าเฉพาะที่ผู้บริโภค จำเป็นจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาทำความสะอาดพื้น ฯลฯ เนื่องจากสินค้าเหล่านี้จะใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ได้ ส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภค ชะลอการซื้อลง ขณะที่สินค้าที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับดีอยู่นั้น ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ และฉลากกินแบ่งรัฐบาล

ห้างฯ-ศูนย์การค้าจัดรายการอื้อ

นายวิโรจน์ จุนประทีป กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ผู้ประกอบการ ทางด้านค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด จะจัดกิจกรรมส่งเสริม การขายถี่และกินระยะยาวมากขึ้น ยกตัวอย่าง ปกติช่วงครึ่งปีแรกเป็นประจำทุกปี ผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นจะระบายสินค้าด้วยการจัดโปรโมชันเป็นประจำ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม แต่มาในปีนี้แนวโน้มการจัดโปรโมชันจะนานจนถึงเดือนตุลาคมนี้

นอกจากนี้ ยังมองว่าผู้ประกอบการค้าปลีกจะรุกขึ้นมาปรับตัวเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน โดยจะเห็นได้ชัดว่าแต่ละเครือจะปรับจุดยืนและหาตำแหน่งที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะกลุ่ม ทั้งนี้ เพื่อเลี่ยงการใช้กลยุทธ์ราคาเข้ามาทำตลาดมากนัก เพราะที่ผ่านการเล่นสงครามราคามีผลทำให้กำไรที่ได้มา ลดน้อยลงด้วย เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งได้มีการปรับตัวครั้งใหญ่ รวมถึงกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้แก่ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ ฯลฯ

ซัปพลายเออร์ยันไม่ขึ้นราคา

จากการสอบถามไปยังซัปพลายเออร์หลายราย ได้ให้คำตอบในลักษณะเดียวกัน โดยยืนยันว่าจะไม่ขึ้นราคาสินค้าอย่างแน่นอน เนื่องจากการ แข่งขันของสินค้าอุปโภคบริโภคมีความรุนแรง ซัปพลายเออร์รายใดที่ปรับราคาขึ้น มีสิทธิ์ที่จะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้คู่แข่งได้ ทำให้ขณะนี้ผู้ประกอบการต้องยอมแบกรับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นไปโดยปริยาย