Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 สิงหาคม 2547
หุ้นใหม่AMCเทรดวันนี้ไม่หวันตลาดผันผวน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เอเซีย เมทัล, บมจ.
Real Estate
Construction
ชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์
กำพล อัศวกุลชัย




ลุ้นระทึก "เอเซีย เมทัล" เข้าเทรดวันนี้ "ผู้บริหาร-ที่ปรึกษาทาง การเงิน" ไม่หวั่นภาวะตลาดผันผวน เชื่อมั่นราคายืนเหนือจอง ชี้ราคาจองที่กำหนด หวังให้นักลงทุนมีโอกาสสร้างกำไร ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมเหล็กแนวโน้มสดใส ตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้โต 15-20% ด้านบิ๊กบลจ.ธนชาติ "กำพล" มองดัชนีต่ำ 600 จุดเป็นจังหวะที่กองทุนกลับเข้า ซื้อหุ้นพื้นฐาน มั่นใจเศรษฐกิจขยายตัว

วันนี้ (13 ส.ค.) หุ้นสามัญของบริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ "AMC" จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 200 ล้านบาท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง ภายใต้หมวดวัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่ง นับเป็นหุ้นที่เข้าซื้อขาย ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนและทรุดตัวหนัก ทั้งนี้ดัชนีตลาด หุ้นไทยเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาได้ปรับ ตัวลงหลุดระดับ 600 จุด มาปิดที่ 595.60 จุด ลดลง 11.34 จุด

นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเซียเมทัล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่หุ้นของบริษัท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันนี้ (13 ส.ค.) นี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจาก นักลงทุนถึงแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาจะมีความผันผวน แต่ก็ไม่มีความ กังวล เพราะในช่วงที่กระจายหุ้นนั้นปรากฏว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อ มากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย

"ช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนและลูกค้าของบริษัทหลายรายที่สนใจซื้อหุ้น แต่ไม่ได้รับการจัดสรร เพราะหุ้นเสนอขายหมดแล้ว ดังนั้น จึงได้แนะนำให้ซื้อในกระดานแทน ซึ่งหุ้นบริษัทเอเซียเมทัลนั้นราคาคงจะไม่หวือหวามากนัก แต่เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมเหล็กกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น บริษัทผู้ผลิตเหล็กมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมากและในราคาที่ดีอีกด้วย"

นอกจากนี้ราคาจองที่กำหนดไว้ที่ระดับ 3.50 บาทถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม มีค่าพี/อี เรโชประมาณ 10 เท่าเมื่อคำนวณจากผลประกอบการในปี 2546 แต่เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมแล้วถือว่าค่าพี/อีเรโชจะต่ำกว่า

ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 15-20% ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ประกอบกับบริษัทได้มีการสร้างโรงงานท่อเหล็กแห่งใหม่ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทเอเซียเมทัลกล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ดัชนีปรับตัวลดลงมาต่ำกว่า 600 จุดนั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นบริษัทเอเซียเมทัลมากนัก จะมีผลกระทบเพียงในด้านจิตวิทยาเท่านั้น เพราะอาจจะทำให้นักลงทุนยังมีความกังวลอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาจะสูงกว่าราคาจอง เพราะระดับราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 3.50 บาทนั้นถือเป็นระดับราคาที่ไม่สูงเกินไป และเป็นระดับราคาที่ต้องการให้นักลงทุนได้รับกำไรเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

นอกจากนี้บริษัทเอเซียเมทัลยังมีการเติบโตของกำไรที่ดีขึ้น โดยในปี 2546 ทั้งปีมีกำไรสุทธิประมาณ 44 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิแล้ว 32 ล้านบาทซึ่งเกือบจะเท่ากับทั้งปีของปีก่อน ดังนั้น จึงเชื่อว่าการที่ผลประกอบการดีขึ้นจะทำให้ค่าพี/อี เรโชของหุ้นจะลดลงอีก สาเหตุที่ผลประกอบการออกมาดีนั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล็กมีแนวโน้มที่ดี จะเห็นได้จากหุ้น บริษัทสหวิริยาสตีลที่มีผลประกอบการดีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ บริษัทเอเซียเมทัล เสนอขายหุ้นต่อประชาชนจำนวน 50 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทโดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในอาคาร เครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนจากการขยายกิจการของบริษัท

ด้านนายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ธนชาติ จำกัดกล่าวว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ของกองทุนต่างๆในช่วงนี้ การปรับลดลงของดัชนีเนื่องจากปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามากระทบทั้งในส่วน ของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงปัจจัยที่เข้ามากระทบช่วงต้นปีเรื่องไข้หวัดนก ถือได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่กองทุนหลายกองเริ่มมีความสนใจที่จะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับลดลงได้มาก

แต่อย่างไรก็ตาม การประเมินสถานการณ์ทุกครั้ง หลายฝ่ายจะมองปัจจัยที่กระทบในช่วงนั้นๆ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็อาจจะทำให้ภาวะการลงทุนอยู่ในช่วงชะงักได้อีกครั้ง

"โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าดัชนีในช่วง 600 จุดหรือต่ำกว่า เป็นช่วงที่กองทุนหลายแห่งจะเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีอีกครั้ง ซึ่งการมองดังกล่าวอาจจะตรงข้ามกับการลงทุนของรายย่อย ทั้งนี้เพราะหลายครั้งที่นักลงทุนรายย่อยเทขายหุ้นออกกองทุนก็จะเข้าไปซื้อเนื่องจากข้อมูลที่มีมากกว่าการมองภาพการเคลื่อนไหวของราคาจึงอยู่ในช่วงระยะยาว" นายกำพลกล่าว

"เรามองว่าภาคการลงทุนขณะนี้ กำลังการผลิตทั้งระบบของธุรกิจในเมืองไทยมีอยู่ประมาณ 75% ซึ่งขณะนี้กำลังการผลิตเริ่มมีการใช้อย่างเต็มที่ ในภาคการผลิตจึงต้องมีการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ" นายกำพลกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us