Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2541
สุนทร บุญสาย กลับมาอีกครั้ง "ผมยังไม่เลิกครับ"             
 


   
search resources

ไทยประสิทธิประกันภัย
สุนทร บุญสาย




ห่างหายกันไปนานสำหรับ สุนทร บุญสาย ผู้คร่ำหวอดในวงการประกันชีวิตบ้านเรา วันนี้เขากลับมาอีกครั้งภายใต้ร่มเงาของ บมจ.ไทยประสิทธิ์ประกันภัย

สุนทรเงียบหายไปพักใหญ่ภายหลังจากการตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการโบกมือลาจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.ประกันชีวิตศรีอยุธยา เนื่องจากความไม่พอใจในการบริหารงานของผู้บริหารใหม่ ที่กลุ่มจาร์ดีนส่งเข้ามา

หลังจากนั้นไม่นานนัก เขาก็ได้ร่วมกับกลุ่มอัลฟาเทคฯ ฟอร์มทีมเพื่อยื่นขอทำธุรกิจประกันชีวิตในรูปลักษณ์ใหม่ ตามที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ โดยอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทอัลฟาประกันชีวิต แต่บริษัทนี้ไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐบาล โครงการสารพัดที่วาดหวังไว้จึงกลายเป็นฝันสลาย แต่คนอย่างสุนทรย่อมไม่หยุดที่จะฝัน ถึงวันนี้เขากลับสู่สังเวียนเดิมอีกครั้ง พร้อมกับแผนงานมากมายที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับไทยประสิทธิ์... มิตรแท้

การกลับมาของสุนทรในครั้งนี้ มาพร้อมๆ กับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างครั้งใหญ่ของไทยประสิทธิ์ประกันภัย โดยสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ย้ายไปนั่งเก้าอี้ใหม่ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร, สุนทร บุญสาย เป็นกรรมการผู้จัดการ (ประกันชีวิต), ดี.อาร์.ไอเยอร์ เป็นกรรมการผู้จัดการ (บริหาร) และอมรทิพย์ จันทร์ศรีชวาลา เป็นกรรมการผู้จัดการ (ประกันวินาศภัย) ตามด้วยผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอีก 23 คน นับเป็นบริษัทที่มีผู้บริหารระดับสูงมากจนน่าเกรงขาม

สุขเทพให้เหตุผลในการปรับโครงสร้างครั้งนี้ว่า "เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจ" เขาเชื่อว่าต่อไปประเทศไทยจะเหมือนกับประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ที่อดีตสถาบันการเงินมีบทบาทสำคัญมาก แต่ปัจจุบันธุรกิจประกันกลับมีบทบาทมากกว่า เพราะเป็นการออมเงินระยะยาวของประเทศ

เขาเชื่อว่าในปี 2541 และ 2542 นี้บริษัทจะสามารถขยายตัวและพัฒนาให้แข็งแกร่งได้ "และเพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัท เราได้ทำการเพิ่มทุนอีก 500 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 900 ล้านบาท"

สุนทรเองก็มีความมั่นใจไม่น้อยไปกว่ากัน "ผมมองว่าเรายังมีโอกาสสูงในการขยายตัวภายใน 3-5 ปีนี้ แม้ประเทศไทยจะมีปัญหาขาดสภาพคล่อง การว่างงานและอื่นๆ อีกมาก การพัฒนาประเทศต่อไปต้องอาศัยเงินออมระยะยาว ซึ่งธุรกิจประกันชีวิตจะมีความสำคัญ เพราะถ้าตรงนี้ไม่มั่นคง เราก็ต้องพึ่งพาเงินจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน"

ดังนั้นนอกจากเขาไม่มีแผนชะลอตัวเหมือนบริษัทประกันหลายแห่งแล้ว เขายังตั้งเป้าว่า ปีนี้จะสามารถทำยอดเบี้ยประกันชีวิตได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมียอดเบี้ยประกันประมาณ 120 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มผู้ส่งออก ซึ่งยังมีอำนาจซื้อมากในปีนี้ และกลุ่มเด็กที่พ่อแม่เห็นสำคัญด้านการประกันชีวิต

สำหรับกลยุทธ์ที่จะนำไปใช้ก็คือ จะไม่มุ่งเฉพาะกรมธรรม์หลักเท่านั้น แต่จะมีกรมธรรม์เสริมเช่น การคุ้มครองอุบัติเหตุ หรือในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถชำระเบี้ยประกันได้ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านการเงิน ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกับทางบริษัทได้ว่าจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง เช่น อาจจะทำเรื่องกู้เงินกับบริษัทเพื่อมาชำระค่าเบี้ยประกัน โดยเสียดอกเบี้ยในอัตรา 8% ซึ่งต่ำมาก

"เราต้องทำอะไรที่แตกต่างกับคนอื่น ถ้าทำได้ก็ไปได้ เราจะเน้นคุณภาพของงานและพัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ ซึ่งตรงนี้จะเป็นหัวใจต่อไป"

สุนทรมองว่าการที่ไทยประสิทธิ์ มีทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในบริษัทเดียวกันนั้น นับเป็นข้อได้เปรียบ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทประกันภัยทั่วไปจะได้ลูกค้ามาจากโบรกเกอร์ จะไม่มีการขายตรง แต่ไทยประสิทธิ์สามารถทำการขายเป็นรายบุคคลได้ ซึ่งจะเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ นอกจากจากนี้ตัวแทนของบริษัทก็จะสามารถทำงานได้อย่างครบวงจร คือเสนอขายได้ทั้งประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย และอื่นๆ เมื่อสินค้ามีความหลากหลาย ก็จะทำให้พนักงานขายมีรายได้และเติบโตในธุรกิจนี้ได้อย่างมืออาชีพ ในขณะเดียวกัน ลูกค้าที่เอาประกันก็สามารถเคลมประกันทุกอย่างได้กับบริษัทเดียว ทำให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น หากมีการเคลมประกันหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ตามกฎหมายบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัยจำเป็นต้องแยกออกเป็น 2 บริษัทภายในปี 2543 ซึ่งสุขเทพยืนยันว่าพร้อมที่จะแยก แต่ขณะนี้ยังไม่มีแรงจูงใจอะไรให้แยกบริษัทเร็วกว่าที่รัฐกำหนด

"ทุกวันนี้ยังไม่แยกเราจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เช่น พนักงานก็ยังเป็นทีมเดียวกัน สถานที่สาขาก็ใช้ที่เดียวกัน" สุขเทพกล่าว ฉะนั้นหากยังไม่มีอะไรจูงใจ ก็มีแนวโน้มว่าเขาจะแยกบริษัทเมื่อถึงนาทีสุดท้าย

แม้ปีนี้เขาจะได้มือดีอย่างสุนทรเข้ามาช่วยงาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรากฐานทางด้านประกันชีวิต ให้มีความมั่นคงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่ไทยประสิทธิ์ก็ยังไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับประกันวินาศภัยมากขึ้นด้วย ปีนี้บริษัทได้ลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนในเรื่องของกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน พร้อมทั้งมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มประมาณ 10 แห่งทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเบี้ยประกันวินาศภัยในปีนี้ไว้ประมาณ 926 ล้านบาท จากที่ปีก่อนทำได้ 823 ล้านบาท

ในปีที่เศรษฐกิจตกต่ำจนน่าหวาดผวาเช่นนี้ บริษัทประกันหลายแห่งกำลังย่ำแย่กับปัญหาขาดสภาพคล่อง เนื่องจากเงินตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวนมหาศาลติดอยู่ใน 16 และ 42 ไฟแนนซ์ที่ถูกปิด โดยของประกันทั้งระบบจะเป็นตั๋วที่ไม่มีอาวัลประมาณ 3,500 ล้านบาท และตั๋วที่มีอาวัลประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งตั๋วที่อาวัลเหล่านี้ได้เปลี่ยนเป็นตั๋วใหม่แล้ว แต่ที่ยังมีปัญหาก็คือ รัฐบาลทำยึกยักตีความว่าบริษัทประกันเป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงินเหล่านี้ จึงจะให้อัตราดอกเบี้ยเพียง 2% เท่านั้น แทนที่จะให้ดอกเบี้ยเท่ากับประชาชนผู้ฝากเงินทั่วไป

"ของเราโชคดีที่เราไม่เสี่ยง ตั๋วของเราทุกใบมีการอาวัล แต่สำหรับเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้น ตอนนี้กำลังพยายามคุยกับรัฐบาลว่าควรจะตีความว่าบริษัทประกันก็เป็นผู้ฝากเงิน" สุขเทพกล่าว

แม้เศรษฐกิจจะย่ำแย่ ผู้คนจะขาดอำนาจซื้อ ประเทศชาติจะขาดสภาพคล่อง แต่สุขเทพก็เชื่อว่าไทยประสิทธิ์จะสามารถขยายตัว และยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤตเหล่านี้ได้ วันนี้เขามีสุนทรเข้ามาช่วยสานฝันและฝันนี้จะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us