ธอส.เร่งพัฒนาระบบ Core Banking กว่า 630 ล้านบาท เพื่อรองรับเกมรุกขยายตลาดสินเชื่อและสกัดการเกิดหนี้เสีย จับตานิวลุคของธนาคารปี 48
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงแผนพัฒนาโครงการระบบงานหลัก (Core Banking System) ของธอส.ว่าได้จัดสรรงบประมาณ 631.362 ล้านบาทในการทำโครงการดังกล่าว เนื่องจากสภาวะการแข่งขัน ที่ค่อนข้างรุนแรงในตลาด โดยเฉพาะการให้บริการลูกค้ารายย่อย ซึ่งทางธนาคารฯมีนโยบายให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการธนาคารฯตัดสินใจเพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันและการให้บริการ เพื่อรองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลัง ขยายตัว อีกทั้งระบบงานหลักที่มีอยู่ใช้มานานกว่า 14 ปีแล้ว
การเปลี่ยนระบบ Core Banking เป็นการก้าวไปข้างหน้าอีกระดับที่ธนาคารฯให้ความสำคัญ กับการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก นอกเหนือจากตัวระบบแล้ว ธนาคารยังต้องพิจารณาเป็นพิเศษในการคัดเลือกบริษัทที่จะให้บริการติดตั้งและดูแลระบบ โดยธนาคารได้เลือกบริษัทดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบดูแลโครงการทั้งหมด เนื่องด้วย บริษัท ดาต้าแมท มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาและวางระบบ ICT ที่ภาครัฐและเอกชนใช้มากว่า 30 ปี โดยเฉพาะเทคโนโลยีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และไฟแนนซ์ อีกทั้งบริษัท ดาต้าแมทได้เตรียมบุคลากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านธนาคารพาณิชย์มารับงานด้วย
"ธนาคารจะนำระบบใหม่มาใช้กับระบบเงินฝาก ระบบสินเชื่อ ระบบบัญชีและระบบงบประมาณของทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งระหว่าง นี้ธนาคารกำลังปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานหลักๆ ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการปรับภาพลักษณ์และรูปโฉมของธนาคารใหม่ทั้งหมด เพื่อรับโฉมใหม่ การเป็นธนาคารทันสมัยเพื่อที่อยู่อาศัยครบวงจร ตั้งแต่ปี 2548"
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนกรกฎาคม ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้กว่า 60,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดการปล่อยสินเชื่อของธอส.มีอัตราการขยายตัว โดยในเดือนม.ค.อนุมัติ สินเชื่อได้ 5,100 ล้านบาท, ก.พ.ปล่อยได้ 6,000 ล้านบาท, มี.ค. 8,900 ล้านบาท, เม.ย. 7,500 ล้านบาท และพ.ค. 8,200 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วปล่อยสินเชื่อได้ประมาณเดือนละ 7,000-8,000 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก จึงมองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ได้ชะลอตัวอย่างที่มีการคาดการณ์กัน อีกทั้งแนวโน้มยังสดใสห่างไกลจากภาวะฟองสบู่
นอจากนี้ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ รายงานภาวะตลาดที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวนทั้งหมด 235 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายทั้งหมดที่ขายได้ในตลาดรวมกันถึง 30,478 หน่วย หรือประมาณ 58% ของจำนวนหน่วยขายทั้งหมดในปี 2546 ที่มีจำนวน 52,305 หน่วย และมีมูลค่าโครงการสูงถึง 103,001 ล้านบาท หรือประมาณ 74% ของมูลค่าโครงการที่เปิดตัวในปี 2546 โดยเดือนพฤษภาคม 2547 มีโครงการเกิดใหม่มากที่สุดถึง 47 โครงการ มูลค่า 19,028 ล้านบาท ส่วนเดือนกุมภาพันธ์เกิดใหม่เพียง 43 โครงการ แต่มีมูลค่าสูงถึง 21,028 ล้านบาท
ขณะเดียวกันการปรับระบบ Core Banking จะมีส่วนสนับสนุนข้อมูลในศูนย์อสังหาริมทรัพย์ที่ธอส.ดำเนินการอยู่ ซึ่งขณะนี้ธอส.เตรียมเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ 25 มี.ค.2547 ทั้งนี้ ดัชนีสำคัญที่ได้รวบรวมแล้ว ได้แก่ 1. ดัชนีข้อมูลบ้านที่สร้างเสร็จ แล้ว 2. ดัชนีบ้านสร้างใหม่ 3.ดัชนีสินเชื่อที่อยู่อาศัย 4.ดัชนีราคาบ้าน 5.ยอดขายบ้าน 6.ยอดการโอนที่อยู่อาศัย ซึ่งก่อนการประกาศใช้ดัชนีชี้ภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 6 ตัวนั้น จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งว่าดัชนีชี้วัดตัวใดต้องประกาศเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี ซึ่งในส่วนนี้จะต้องมาหารือกันอีกครั้ง เพราะการประกาศตัวเลขจะต้องมีการกำหนดที่ชัดเจนเพื่อความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
|