นอกเหนือไปจากการช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจและสังคมแล้ว สิ่งสำคัญที่เวิลด์แบงก์อยากให้ไทยเร่งดำเนินการ
คือ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (privatisation) โดยขณะนี้เวิลด์แบงก์กำลังช่วยเหลือในการจัดทำแผนแม่บท
(master plan) สำหรับการแปรรูปฯ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นภารกิจที่มีความสำคัญในอันดับ
3 ของ เวิลด์แบงก์ รองจากการช่วยแก้ปัญหาในภาคการเงินและสังคม
สาเหตุที่เวิลด์แบงก์ต้องการเห็นการแปรรูปฯ นั้นเนื่องจากจะสามารถเอื้อประโยชน์ให้ผู้บริโภคได้รับบริการที่ดีขึ้น
พร้อมกับช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้บริโภค เพราะในตลาดมีผู้ประกอบการหลายรายที่แข่งขันกัน
ส่วนในด้านของภาครัฐบาลก็จะสามารถทุ่มเทกับภาระหน้าที่ที่ควรดำเนินการ เพราะบทบาทของภาครัฐบาล
คือ งานด้านสาธารณประโยชน์ เช่น ถนน โรงพยาบาล การดูแลคนจน ซึ่งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องลงมาทำเรื่องที่ตลาดสามารถจัดการกันเองได้
และเมื่อปล่อยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ประกอบการแล้ว รัฐบาลก็สามารถหารายได้จากการเก็บภาษีได้
"ดังนั้นการแปรรูปฯจึงไม่ใช่แค่การโอนกิจการไปให้แก่เอกชนรายหนึ่งรายใด
สิ่งที่สำคัญจึงต้องมีกรอบแห่งกฎเกณฑ์ (regulatory framework) ที่จะดำเนินการ
ซึ่งจุดนี้ที่เรากำลังพยายามช่วยและต้องการให้มีกฎระเบียบ มีผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะเกิดการแปรรูปฯ
ซึ่งเป็นการยุติการผูกขาดโดยรัฐบาล" สเตฟาน กล่าว
สำหรับผลประโยชน์หลังจากการแปรรูปฯ นอกเหนือไปการพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยจริงจังกับการแก้ปัญหา
ช่วยดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศแล้ว หากยังมีแง่มุมของการได้ความชำนาญด้านการบริหารด้วย
อย่างไรก็ตาม เวิลด์แบงก์ยังยอมรับว่าการแปรรูปฯ เป็นโจทย์ข้อยากสำหรับทุกประเทศ
เพราะส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ต่างประเทศเข้ามาซื้อกิจการ
กิจการที่คาดว่าน่าจะแปรรูปฯและได้รับความสนใจจากนักลงทุน ได้แก่ กิจการโทรคมนาคม
หลังจากการแปรรูปฯ แล้วจะเป็นกิจการที่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างแท้จริง
เนื่องจากในปัจจุบันกิจการโทรคมนาคมเป็นกิจกรรมที่มีความซับซ้อนมาก และหลากหลายของการบริโภค
แต่กฎเกณฑ์การควบคุมยังไม่เหมาะสม ผู้ประกอบการที่ดำเนินการยังมีการผูกขาดทำให้มีรายได้อย่างมหาศาล
แต่ผู้บริโภคกลับไม่ได้รับการบริการที่ดี อีกทั้งระดับราคาค่าบริการค่อนข้างอยู่ระดับสูง
ซึ่งหลายฝ่ายจึงมองว่าน่าจะแปรรูปฯ มานานแล้ว
"นอกจากนี้ยังมีกิจการด้านพลังงานโดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวมทั้งการบินไทย
ซึ่งน่าจะเป็น case ที่สามารถแปรรูปฯ ได้" สเตฟานกล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อมีกระแสว่ารัฐบาลจะแปรรูปฯ ขึ้นมา ก็มีการคัดค้านตามมามากพอสมควรเพื่อพยายามรักษาสถานภาพเดิมเอาไว้
อย่างรัฐวิสาหกิจบางแห่งพนักงานได้รับผลตอบแทนการทำงานค่อนข้างดีมาก ย่อมทำให้เกรงว่าจะเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไป
จึงไม่น่าแปลกใจที่กระแสคัดค้านการแปรรูปฯ จะรุนแรง ซึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาควรจะเป็นวิธีที่จะแปรรูปฯ
โดยไม่ให้ได้รับความเสียหาย พร้อมกับเอื้อให้ผู้บริโภคได้รับบริการที่ดี
"ส่วนบางคนทักท้วงว่า ฐานผู้บริโภคในไทยไม่ใหญ่พอจะรองรับผู้ประกอบการหลายรายในแต่ละหมวดธุรกิจ
เราเห็นว่าเป็นข้ออ้างที่จะคัดค้านการแปรรูปฯ เพราะเมื่อมองในด้านการประกอบการไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะตลาดในประเทศ
แต่ต้องมองตลาดไกลออกไปในระดับสากล ซึ่งย่อมจะทำให้ไม่ติดอยู่กับข้อจำกัด
ด้านขนาดของตลาดและเป็นผลดีต่อการส่งออกด้วย" สเตฟานกล่าวถึงผลดีหลังการแปรรูปฯ
อุปสรรคแก่การแปรรูปฯ ที่ก่อตัวกันมานั้นเป็นเรื่องสามัญที่ต้องประสบเสมอเมื่อมีการเสนอให้แปรรูปฯ
เพราะโดยปกติการแปรรูปฯเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ผู้ที่รับผิดชอบต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องนั้นมีมากมาย หากพลาดเพียงด้านเดียวย่อมอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศได้