Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2541
บทด.เรือวนในอ่าง วิตกจริตต่างด้าวฮุบกิจการ             
 

   
related stories

แรงส่งกองทุนพาณิชย์นาวี จุดเริ่มต้นกู้เรือไทย?
รายการปรับปรุงภาษีเพื่อธุรกิจพาณิชย์นาวี

   
search resources

ไทยเดินเรือทะเล, บจก.




บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด เป็นรัฐวิสาหกิจ อีกแห่งหนึ่งที่ยังไม่สามารถหาเอกชนเข้ามาร่วมทุนได้อย่างแท้จริง ด้วยความขัดแย้งในการตั้งสายการเดินเรือ แห่งชาติ (ไทย) แต่ต้องอาศัยบริษัทเรือเอกชนต่างประเทศมาช่วย

การประมูลเพื่อขายหุ้น บทด. เพื่อการแปรรูปนั้นมีความชัดเจนเป็นครั้งแรกในรัฐบาลของอานันท์ ปันยารชุน และมีผลต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาล ชวน หลีกภัย ในช่วงต่อเนื่องกัน

ครั้งนั้น กลุ่มบริษัท จุฑานาวี ร่วมกับ บริษัท โหงวฮก จำกัด และธนาคารไทยพาณิชย์ (มหาชน) จำกัด ได้รับการคัดเลือก โดยจะเป็นผู้เข้าซื้อหุ้น 55% ราคาหุ้นละ 35 บาท แต่นายบุญชู โรจนเสถียร รองนายกรัฐมนตรีทำหนังสือคัดค้านไปที่กระทรวงคมนาคม ผ่านทาง พ.อ.วินัย สมพงษ์ ที่ต้องการให้เกิดการพัฒนากองเรือพาณิชย์นาวีของไทยเอง ไม่ใช่การประมูล บทด.ให้กับเอกชนไป

การประมูลยกเลิกในเวลาต่อมา เมื่อเกิดการประมูลใหม่ ในปี 2537 บริษัท พาราชิปปิ้ง จำกัด เป็นผู้ประมูลได้ แต่ก็มีการรื้อฟื้นเรื่องการถือหุ้นของบริษัทเรือต่างประเทศคือ NOL (Neptune Orient Lines) สายการเดินเรือของสิงคโปร์ใน บริษัท พาราฯ ทำให้ผลการประมูลต้องยกเลิกในเวลาต่อมาอีกครั้ง การแปรรูป บทด.จึงไม่ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาในสมัยของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มีสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตั้งคณะกรรมการจัดตั้งกองเรือแห่งชาติ เพื่อพิจารณาแก้ปัญหากองเรือพาณิชย์นาวีของไทย โดยกำหนดแนวทางไว้ 3 แนวทางคือ การแปรรูป บทด., การตั้งบริษัทใหม่ ที่ถือหุ้นโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เป็นสายการเดินเรือแห่งชาติรายใหม่ และการตั้งบริษัท โฮลดิ้ง คอมพานี เข้าดูแลกิจการของ บทด.

ผลปรากฏว่ามติของคณะกรรมการเมื่อเดือนเมษายน 2540 ได้ข้อสรุปคือ การตั้งกองเรือแห่งชาติเป็นบริษัทรายใหม่ ซึ่งมีรูปแบบเป็นโฮลดิ้ง คอมพานี ให้เอกชนถือหุ้นร่วมกับรัฐบาลในสัดส่วน 70 ต่อ 30 ซึ่งในการตัดสินใจครั้งแรกนั้นไม่ได้มีการสรุปว่า สมาคมเจ้าของเรือไทย กับสมาชิกจะได้ถือหุ้นในสัดส่วนเท่าไรสรุปเพียงแต่ถือหุ้นไม่เกิน 25% ส่วนอีก 45% ที่กันไว้ไม่บอกว่าจะเป็นใครแน่

หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นบริษัทเรือจากต่างประเทศ ประธานกรรมการชุดนี้คือ มหิดล จันทรางกูร ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ที่ไม่ยอมเฉลยว่าหุ้นที่กันไว้นั้นควรเป็นของใคร

การไม่ได้สรุปว่าผู้ถือหุ้นรายใหม่จะเป็นใครนั้น อาจเป็นความขัดแย้งกับนโยบายเดิม ที่ไม่ต้องการให้บริษัทเรือต่างประเทศเข้ามาบริหารงานสายการเดินเรือแห่งชาติของไทย เพราะไม่ได้กำหนดไว้เลยว่าบริษัทเรือควรเป็นของไทยหรือไม่

หลังการพบปะหารือระหว่างพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กับสุเมธ ตันธุวนิตย์ ในฐานะประธานสมาคมเจ้าของเรือไทย ก็ได้ข้อสรุปว่า พินิจต้องการให้สมาคมฯ ทำการจองหุ้นใน บทด. เพิ่มอีก 26% ซึ่งเท่ากับสมาคมฯ ได้รับหุ้น 51% ซึ่งได้รับความสนใจจากสมาชิกประมาณ 30 รายจาก 50 ราย

แต่ก็เป็นช่วงไม่นานที่มีการเสนอของบริษัทเรือ Cosco ของจีนว่าต้องการเข้ามาร่วมบริหาร บทด.

ดูเหมือน "บิ๊กจิ๋ว" กับ "พินิจ" จะพอใจกับเงื่อนไขของจีน

บริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นมาจะได้รับสิทธิพิเศษในเรื่องการขนส่งสินค้าหลายอย่างจากทางรัฐบาลไทย เพียงรายเดียว จากที่รัฐบาลเคยให้สิทธิต่างๆ เช่นที่ให้กับ บทด.เดิม, บริษัท ยูนิไทยชิปปิ้ง จำกัด , องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์

ยกตัวอย่างสิทธิพิเศษก็คือ การขนส่งสินค้ารัฐบาลรวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ สินค้าตามโครงการต่างๆ ของรัฐบาล การได้รับสิทธิในการบริหารงานท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 2 การให้บริการ ไอซีดี ของการรถไฟที่ลาดกระบัง การได้รับสิทธิพิเศษในการใช้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กับ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย

พล.อ.ชวลิตดูเหมือนจะหนุน Cosco เต็มตัวทั้งที่ก่อตั้งได้ไม่นาน มีความพยายามเสนอข้อเสนอพิเศษหลายอย่างมาทาง พล.อ.ชวลิต เช่น การนำเรือขนาดใหญ่เข้ามารับส่งสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง การจัดหาเรือสินค้ามารับส่งสินค้าให้

มีผู้ระบุว่าแรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากวิโรจน์ อมตกุลชัย กับประธานสมาคมชิปปิ้ง แต่เสียงคัดค้านการปล่อยให้บริษัทต่างชาติฮุบกิจการ ยังมีการคิดวิธีปรับปรุงสัดส่วนหุ้นเกิดขึ้นตลอด

เมื่อมีแรงต้านบริษัทเรือต่างชาติให้คงหุ้นที่ 25% ฝ่าย บทด.ถือหุ้น 19% ที่เหลือ 51% หากสมาคมเจ้าของเรือไทยไม่ยอมรับ ก็คงต้องหาผู้ร่วมทุนรายอื่น หนึ่งนั้นคือไปดึงบริษัท ยูไนเต็ดไทย ชิปปิ้ง จำกัด กับ บริษัท Cosnam ซึ่งหลายคนรู้ว่าเป็นบริษัทร่วมทุนของ Cosco และนามยืนยง ที่ตั้งบริษัทในประเทศ ไทย

หากมี Cosnam มาเสริมแน่นอนว่าเท่ากับ Cosco ฮุบกิจการไทยได้จำนวนมาก หลายคนคัดค้าน

เผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีท่าทีว่าหนุน Cosco เพราะไม่ต้องการให้สมาคมเจ้าของเรือไทยถือหุ้น 51% ด้วย เกรงว่าฝ่ายไทยจะมีหุ้นถึง 75% มากกว่าของจีน แต่แรงต่อต้านต่างชาติยังมีอยู่ เผดิมชัยจึงเปลี่ยนเสียงยอมให้สมาคมเจ้าของเรือไทยถือหุ้นได้ตามที่ขอ แต่เป็นเหมือนลองเชิง

ฝ่ายสมาคมเจ้าของเรือไทย โดยสุเมธนั้นเสนอเงื่อนไข 11 ข้อไปที่กระทรวงคมนาคม เป็นเรื่องเกี่ยวกับซื้อหุ้น และการดูแลกิจการ บทด. หากไม่เป็นไปตามที่ขอ สมาคมก็คงไม่ร่วม

สุเมธเองก็ย้ำว่า หากบริษัทตั้งใหม่เป็นกิจการที่ออกไปช่วยขยายตลาดโลกก็น่าที่จะส่งเสริม แต่หากเป็นการตั้งใหม่ แล้วมาแย่งตลาดกันเองก็ไม่สมควร ต้องดูด้วยว่าผลประโยชน์ที่บริษัทใหม่ได้ ใครจะเป็นผู้รับไป ไม่ใช่เพราะสมาคมฯ ต้องการขัดขวางการพัฒนา แต่ต้องดูให้ถ่องแท้ถึงผู้ที่รับผลอย่างแท้จริงว่าควรเป็นประเทศไทยมากกว่า

จึงมีการคาดเดาว่าแม้ได้รับหุ้น 51% สมาคมฯ ก็คงไม่รับถือหุ้นใน บทด.เพราะไม่ต้องการลงทุนเพิ่ม แต่ต้องแข่งกับสายเดินเรือของตนเอง ให้ลดส่วนแบ่งตลาดลงไป ตัวแปรก็คือ ยูไนเต็ดไทยฯ ของสุธรรม จิตรานุเคราะห์ กรรมการบริหาร ที่มีชวลิต เชา ชาวฮ่องกงแปลงสัญชาติเป็นไทยกุมบังเหียนอยู่

ขึ้นอยู่กับว่าอนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บทด.ต้องการให้ใครเข้ามาร่วมกิจการ บทด. ตัวเขาเองคงไม่เกี่ยงว่าจะมาจากจีนหรือฮ่องกง เพราะกอร์ดอน วู แห่งโฮปเวลล์ก็เป็นคนฮ่องกงไม่ใช่หรือ?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us