ผังช่อง 5 วุ่น พ่นพิษ ผู้จัดรายการ "อาร์เอส" เปิดใจยอมรับยอดรายได้วูบกว่า 70% ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. โฆษณาไม่เข้า เหตุเอเยนซีไม่มั่นใจสถานการณ์ หลังตั้งหลักได้หันปรับผังงานตัวเอง ลุยทิ้งรายการที่ทุนสูง และกลุ่มเป้าหมายไม่ชัด พร้อมเปิด 3 รายการใหม่ FRONT, Family TIME และหนังดีสุดสัปดาห์เผยเดือนแรกผลดีเกินคาด เรตติ้งเริ่มพุ่ง มั่นใจสิ้นปีโกยยอด 600 ล้านบาท

นายสุวัฒน์ เชษฐโชติศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) ดูแลกลุ่มสื่อธุรกิจโฆษณา เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรก ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจสื่อซึ่งประกอบด้วย โทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์ ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25-30% โดยมีรายได้ 310 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้สื่อทีวีและอีเวนต์ 80% ในที่นี้แยกเป็น 74.52% มาจากสื่อทีวี ส่วนอีก 25.48% มาจากอีเวนต์ ส่วนสื่อวิทยุ 17% และสื่อสิ่งพิมพ์ 3%

สำหรับรายได้ที่ลดลงมาจากสื่อทีวี สืบเนื่องจาก กระแสความไม่แน่นอนของนโยบายปรับผังรายการของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ทำให้เอเยนซีไม่เชื่อมั่นในผัง จึงลังเลที่จะซื้อโฆษณาในรายการของบริษัทที่อยู่ในสถานีช่อง 5 เห็นได้จากยอดขายโฆษณาเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม หายไปถึง 70-80% ซึ่งผู้จัดรายการทุกรายก็ประสบปัญหาเดียวกัน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือในช่วงดังกล่าวถือเป็นโลว์ซีซันของการซื้อโฆษณาโทรทัศน์ด้วย

ทั้งนี้ จากการแข่งขันธุรกิจสถานีโทรทัศน์ เห็นได้จากการปรับผังรายการของทุกสถานี เพื่อดึงเรตติ้งจากผู้ชม ดังนั้น ผู้จัดรายการก็ต้องมีการปรับตัวเช่นกัน ในส่วนของอาร์เอสก็เช่นกันที่ปรับผังรายการ ของตัวเอง โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนกค.นอกจากนั้นยังมีการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป พร้อมศึกษาและวิจัยตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อผลิตรายการที่หลากหลายตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนของงานละครโทรทัศน์ของสถานีช่อง 5 ในช่วงเวลา 18.00-19.00 น.วันเสาร์และอาทิตย์ ได้ปรับเป็นรายการหนังดีสุดสัปดาห์ โดยใช้คอนเทนต์ที่เป็น เทเลมูฟวี่ ซึ่งเป็นหนังแผ่นที่เราผลิตและออกขายในท้องตลาด คัดมา 13 เรื่องจาก 40 เรื่องพบว่าเรตติ้งดีขึ้นมาก ต้นทุนก็ต่ำลง

"ละครช่วงเย็นในวันเสาร์-อาทิตย์ มีต้นทุนวันละประมาณ 8 แสนบาท ซึ่งเป็นส่วนของค่าสถานี และค่าการผลิต ต้องการโฆษณาถึง 7 นาที จึงคุ้มทุน ซึ่งทำได้ยาก พอปรับมาเป็นหนังดีสุดสัปดาห์ ต้นทุนก็ถูกลง เพราะใช้คอนเทนต์ที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น"

นอกจากนั้น ยังได้ปรับรายการช่วงเช้า 08.00-08.30 น. เสาร์-อาทิตย์ ของช่อง 5 จากรายการ คิทชวนคิด มาเป็นรายการ FRONT ผู้หญิงแถวหน้า ในวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์เป็นรายการ FAMILY TIME ซึ่งเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ผลตอบรับดีขึ้น เอเยนซีเริ่มซื้อโฆษณาเพราะมองว่าทั้งสองรายการมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

นายสุวัฒน์ กล่าวถึงสื่อวิทยุ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีคลื่นวิทยุรวม 3 คลื่นคือ 93 COOL FM, 88.5 FM MAX และล่าสุด 106 LIFE FM ทั้ง 3 สถานี มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ทำให้ได้รับความนิยมสูง โดยในปีหน้าคาดว่าสื่อวิทยุของ อาร์เอส จะขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ปัจจุบันมีรายได้จากการขายโฆษณาในรายการวิทยุถึง 90% ของเวลาโฆษณา ซึ่งถือว่าสูงมาก โดยในสิ้นปีนี้คาดว่าสื่อวิทยุจะมีส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเป็น 25-30% ของรายได้ในกลุ่มสื่อของบริษัท

อย่างไรก็ตาม จากการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจทีวี นโยบายการปรับผังรายการที่เฉลี่ย 3 เดือนครั้ง ทำให้ผู้จัดรายการต้องปรับตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น โดยในส่วนของอาร์เอส ตั้งรับด้วยการสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง มีรูปแบบรายการที่หลากหลาย พร้อมนำเสนอต่อทุกสถานี ขณะเดียวกันต้องใช้แผนการตลาดเข้ามาช่วยสร้างเรตติ้งให้รายการติดกระแสผู้ชมเร็วขึ้น และจากการปรับผังรายการของบริษัท คาดว่าจะทำให้สิ้นปีมีรายได้รวมในธุรกิจสื่อที่ 600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของอาร์เอสกรุ๊ป

เตรียมเปิดหัวหนังสือเพิ่ม

นางสาวบุณฑณิก บูลย์สิน ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจสื่อโฆษณา บริษัท อาร์เอสโปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ธุรกิจในกลุ่มสิ่งพิมพ์ว่า มีแผนเปิดหัวหนังสือใหม่อีก 2-3 หัว ซึ่งจะมีทั้งหัวหนังสือต่างประเทศ และหัวหนังสือใหม่ของบริษัทเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจตลาดว่าควรเปิดหนังสือในแนวไหน จากปัจจุบันบริษัทมีแมกกาซีนผู้หญิง "FRONT" เพียงเล่มเดียว นอกจากนั้นยังมีการจัดพิมพ์พ็อกเกต บุ๊กอีก 2 กลุ่ม คือ 1.อัลบั้มภาพรวมดารา และประวัติดารา ซึ่งช่วงนี้นำเสนอของศิลปินค่าย อาร์.เอส. 2. เรื่องแปลวรรณกรรม ที่ได้รับรางวัล และวรรณกรรม ชิคลิท (Chicklit) ซึ่งเป็นวรรณกรรมเจาะกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่น สำหรับแผนงาน ครึ่งปีหลัง จะออกพ็อกเกตบุ๊กอีก 14 เล่ม โดยจะเพิ่มในส่วนของวรรณกรรมไทยเข้าไปด้วย