|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
DCC โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 กำไรโต 58% ผลจากยอดขายโตขึ้นและขยายกำลังการผลิตเพิ่ม ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง ขณะที่บอร์ดไฟเขียวให้จ่ายปันผลหุ้นละ 30 สตางค์ โบรกฯต่างเชียร์ "ซื้อ" เชื่ออนาคตสดใส แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังดี
นายรุ่งโรจน์ แสงศาสตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด(มหาชน) (DCC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 169.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 107.39 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มจาก 26 สตางค์ต่อหุ้น เป็น 42 สตางค์ต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 58%
เนื่องจากยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 137 ล้านบาท หรือร้อยละ 17 จากผลของการขยายกำลังผลิตในระหว่างปี 2546 และ ยังมีผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงทำให้กำไรสุทธิของไตรมาสสองปี 2547 สูงกว่ากำไรสุทธิในงวดเดียวกันปีก่อนดังกล่าว
กำไรสุทธิงวดมกราคม-มิถุนายน 2547 มีทั้งสิ้น 393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 192 ล้านบาทหรือร้อยละ 96 เนื่องจากยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 504 ล้านบาท หรือร้อยละ 33 จากผลของการขยายกำลังการผลิตทำให้กำไรขั้นต้นงวดครึ่งปีแรก 2547 จำนวน 761 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 38 ของยอดขาย กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 314 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จึงมีผลทำให้กำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2547 สูงกว่ากำไรสุทธิในงวดเดียวกันปีก่อนดังกล่าว
พร้อมกันนี้ DCC ยังแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานในงวดดังกล่าว และงวดครึ่งปีแรกปี 2547 มียอดขาย 2,015 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 393 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 0.96 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ มติคณะกรรมการ ยังมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตรมาสที่สองปี 2547 (ก่อนการสอบทานจากผู้สอบบัญชีฯ) ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท จากจำนวน หุ้นที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 408.0 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินรวมในการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ทั้งสิ้น 122.4 ล้านบาท ตามรายชื่อ ผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนฯ ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2547 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 27 สิงหาคม 2547
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ไซรัส เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานที่ DCC ประกาศออกมานั้นดีขึ้น เพราะกำไรสุทธิ 169.6 ล้านบาท หรือ 0.42 บาท/หุ้น และหากตัดรายการพิเศษดังกล่าวออกไป กำไรจากการดำเนินงานปกติจะมีจำนวน 163.5 ล้านบาท ลดลง 22.3% เทียบไตรมาส ต่อไตรมาส เพราะผลกระทบของฤดูกาลที่มีวันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ และมีฝนตกในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัท แต่บริษัทก็มีกำไรเพิ่มขึ้นจาการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
Gross margin ลดลงจากไตรมาสก่อนเพราะยอดการผลิตที่ลดลง แต่ก็ยังสูงกว่าไตรมาส 2/46 ที่ 29.7% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ลดลงพอสมควรจากในไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ 11.8% ทั้งนี้ เป็นไปตาม นโยบายของผู้บริหารในปีนี้ที่จะเน้นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย
คาดจ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้นในไตรมาส 2/47 คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.0% สำหรับ 1 ไตรมาส มี PE ต่ำเพียง 9.7 เท่า DCC มีกำไรในงวดครึ่งปีแรก 392.7 ล้านบาท คิดเป็น 47.1% ของประมาณการทั้งปีที่เราคาด แนวโน้มการทำกำไรในครึ่งปีหลังยังคงสดใสจากกำลังการผลิตที่ทยอยเพิ่มตลอดทั้งปีในปีก่อน โดยเรายังคาดว่ากำไรสุทธิปี 2547 จะขยายตัว 65.3% ณ ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 19.90 บาท DCC มี PE ปี 2547 ต่ำเพียง 9.7 เท่า และเป็นหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูงถึง 7.2% ต่อปี เราจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมาย 30.00 บาท (PE 15 เท่า) สูงกว่าราคาปัจจุบัน 50.7%
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า DCC รายงานยอดขาย 926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส แต่ลดลง 15% เมื่อเทียบปีต่อปี และ DCC ได้หยุดสายการผลิตไป 10 วันเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งมีส่วนทำให้ยอดขายหายไป ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 17 ล้านบาท ลดลง 22% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส แต่เพิ่มขึ้นถึง 58% เทียบปีต่อปี โดยรวมผลประกอบการเป็นไปตามคาดและเราคาดว่า DCC จะจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.30 บาทต่อหุ้น สำหรับไตรมาส 2/47
ส่วนหนึ่งเนื่องจากการปรับปรุง ประสิทธิภาพ รวมทั้งได้ผ่านพ้นช่วง Low season แล้ว ด้านราคาน้ำมัน ที่สูงส่งผลกระทบน้อยมาก เพราะแม้ต้นทุนพลังงานจะเป็น 25% ของต้นทุนรวม แต่พลังงานส่วนใหญ่ที่ใช้คือก๊าซธรรมชาติซึ่งราคายังไม่ได้ปรับตัวสูง ส่วนน้ำมันคิดเป็นต้นทุนประมาณ 4-5% เท่านั้น
เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายตามวิธี DCF ที่ 31.5 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E ปีนี้ที่ต่ำเพียง 9.1 เท่า นอกจากนี้ DCC ยังเป็นหุ้นที่ให้เงินปันผลในอัตราที่สูงด้วย
|
|
|
|
|