|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มทุนรัฐบาลจีน "ซีติก กรุ๊ป" เดินสายล็อบบี้ "สุริยะ" ขอลงทุนรถไฟสายแอร์พอร์ต ลิงค์ รถใต้ดิน ถนนแหลมผักเบี้ย รถไฟรางคู่ มูลค่าโครงการร่วม 5 แสนล้านบาท พร้อมเปิดทางในกรณีกู้เงินสามารถคืนหนี้เป็นสินค้าเกษตรได้ เผยสนองนโยบายรัฐบาลจีนที่ต้องการลดความร้อนแรงเศรษฐกิจด้วยการย้ายการลงทุนเข้าไทย
นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ราชธานี กรุ๊ป กล่าวในงานแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับบริษัท ซีติก อินเตอร์เนชั่นแนล คอนแทรคติ้ง (บริษัทในเครือของซีติก กรุ๊ป ที่มีรัฐบาลจีนถือหุ้นใหญ่) ว่า ทางบริษัทซีติกฯ ได้แสดงความสนใจในการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ของรัฐบาลไทย ตามแผนลงทุน 5 ปีข้างหน้า โดยกำหนดวงเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท
"เฉพาะระบบขนส่งรางจะมีเงินลงทุนประมาณ 5 แสนล้านบาท เป็นด้านที่ซีติก กรุ๊ป สนใจมากที่สุด ซีติกตั้งเป้าว่าจะเข้าประมูลโครงการรัฐประมาณ 30% หรือคิดเป็นมูลค่า 2-2.5 แสนล้านบาท" นายแพทย์บุญกล่าว
เมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) นายแพทย์บุญได้พานายมาดัม ฮองโบ ประธานกรรมการซีติก อินเตอร์เนชั่นแนลฯ เข้าพบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนจราจรและขนส่ง (สนข.) และร่วมรับประทานอาหารกับตัวแทนรัฐบาล ไทยที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่ง เช่นนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อแสดงความจำนงในการลงทุนในระบบราง
สำหรับระบบรางที่ซีติก อินเตอร์เนชั่นแนลฯสนใจมี 4 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1.การสร้างระบบรางเพื่อเชื่อมทางรถไฟจากสถานีพญาไทไปสนามบินสุวรรณภูมิ (หนองงูเห่า) 2.รถไฟฟ้าใต้ดิน 3.โครงการสร้างสะพานข้ามทะเล (แหลมผักเบี้ย) 4.รถไฟฟ้ารางคู่และอื่นๆ
"เหตุผลที่กลุ่มซีติกสนใจระบบขนส่งรางเพราะมองว่ามีผลตอบแทนสูง จากการหารือกับสนข.พบว่า ผลตอบแทนจากการลงทุน (ไออาร์อาร์) อยู่ที่ 14% ขณะที่ซีติก กรุ๊ปบอกว่าแค่ 12% ก็คุ้มทุน"
นายแพย์บุญบอกว่าการเข้ามาลงทุนของซีติก กรุ๊ป แข็งแกร่งมาก เพราะเป็นกองทุนของรัฐบาลจีน ที่มีบริษัทในเครือชั้นนำจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ซีติก อินดัสเตรียล แบงก์ เป็นธนาคารอันดับหนึ่งของจีน และซีติก ทรัสต์ แอนด์อินเวสเม้นท์ จึงมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลพร้อมให้การสนับสนุนในการเข้ามาเมืองไทย สอดคล้องกับนโยบายที่จะชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ
"เป็นแนวทางของรัฐบาลจีนที่มีนโยบายให้โยกย้ายเม็ดเงินลงทุนในต่างประเทศ เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจภายใน"
ก่อนหน้านี้ ซีติก อินเตอร์เนชั่ลแนลฯ ได้ไปลงทุนสร้างทางรถไฟในอิหร่านมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยการปล่อยกู้ให้รัฐบาลและมีการชำระหนี้ ด้วยสินค้าบางส่วน ยังมีการเข้าไปลงทุนในมาเลเซียเพื่อก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะปีนัง ก็ชำระหนี้ด้วยการ แลกสินค้าเช่นกัน ดังนั้นซีติกฯจึงเปิดทางให้ประเทศไทยเช่นกัน โดยสินค้าที่สามารถชำระหนี้เงินกู้ได้แก่ ข้าว ยางพารา ลำไย อย่างไรก็ตามซีติก กรุ๊ปจะไม่เข้ามาแทรกแซงการบริหารกิจการในธุรกิจที่เข้ามาร่วมทุน
นายแพทย์บุญกล่าวว่า ซีติก กรุ๊ปยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทรับเหมาเบอร์ 3-4 ในไทย เพื่อเป็นพันธมิตรในการประมูลงานของรัฐบาล ขณะที่ส่วนราชธานี กรุ๊ป จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหรืออาจร่วมลงทุนในสัดส่วน 10-15% ในบางโครงการเท่านั้น
นายแพทย์บุญกล่าวว่า การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลจำเป็นต้องหาเม็ดเงินจากต่างประเทศแม้สภาพคล่องในประเทศล้น 5-6 แสนล้านบาท แต่การที่รัฐบาลเข้ามาระดมทุนในประเทศเองอาจเป็นการแย่งเม็ดเงินกับโครงการลงทุนของภาค เอกชน เนื่องจากมูลค่าโครงการขนาดใหญ่ในระยะ 5 ปีข้างหน้ามีมูลค่าหลายแสนล้าน อาจเกิดปัญหาตามมา
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าววานนี้นายมาดัม ฮองโบ ซึ่งเดิมมีกำหนดการจะต้องร่วมแถลงข่าวด้วย แต่เมื่อถึงเวลาได้ปฏิเสธ ที่จะให้ข้อมูล โดยให้เหตุผลว่า จะต้องแจ้งให้เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยทราบก่อน เนื่องจากซีติกฯ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐ
|
|
|
|
|