Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 สิงหาคม 2547
BCPผลงานQ2ฟื้นกำไรผลค่ากลั่นพุ่งจ่ายดบ.ลด             
 


   
search resources

บางจากปิโตรเลียม, บมจ.
วัฒนา โอภานนท์อมตะ
Energy




BCP กำไรไตรมาส 2 พุ่ง 171% ฟื้นจากขาดทุนเป็นมีกำไร เนื่องจากบริษัททำรายได้รวมได้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น อีกทั้งดอกเบี้ยจ่ายลดลงผลจากการรีไฟแนนซ์หนี้เงินกู้ภายหลังจากที่บริษัทปรับโครงสร้างการเงินเสร็จ

นายวัฒนา โอภานนท์อมตะ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบริหารและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2547 ซึ่งพบว่าบริษัทพลิกจากขาดทุน เป็นกำไร โดยจากเดิมในงวดนี้ขาดทุน 913.14 ล้านบาท เป็นมีกำไร 647.21 ล้านบาท ส่งผลให้จากที่ขาดทุนต่อหุ้นอยู่ 1.75 บาท เป็นมีกำไร 86 สตางค์ต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 171%

เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวม 18,297 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) +1,003 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ (หักลบดอกเบี้ยรับ) 180 ล้านบาท มีค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย 184 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 647 ล้านบาท (ช่วงเดียวกันปี 2546 มีผลขาดทุนสุทธิ 913 ล้านบาท)

โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เนื่องจากในไตรมาส 2 ปี 2547 ค่าการกลั่น (ไม่รวมผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) อยู่ที่ระดับ 1.99$/BBL เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัท ได้มีการร่วมมือในกิจกรรมเพิ่มรายได้และลดต้นทุนร่วมกับบริษัทน้ำมันอื่น นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มปริมาณการกลั่นขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 85 KBD โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13 KBD แต่ลดลงจากไตรมาส 1 ปี 2547 เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น 2 ขนาด 40 KBD เป็นระยะเวลา 25 วัน

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2546 ค่าการกลั่น (ไม่รวมผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) อยู่ที่ระดับ 1.85 $/BBL จากราคาน้ำมันเตาที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างมากตามแรงซื้อจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่หยุดซ่อมแซม ประกอบกับความวิตก ในสถานการณ์สงครามระหว่างสหรัฐฯ และอิรักส่งผลให้ค่าการกลั่นยังอยู่ในระดับสูง

นอกจากนี้ในไตรมาส 2 ปี 2547 บริษัทมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน (FX & Price Effects) จำนวน 577 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ปี 2546 ที่มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันจำนวน 770 ล้านบาท จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงประมาณ 7 $/BBL หลังสงครามระหว่างสหรัฐฯ และอิรักเกิดขึ้น

สำหรับไตรมาส 2 ปี 2547 ค่าการตลาดน้ำมันสำเร็จรูป (ไม่รวมน้ำมันเครื่องบิน) อยู่ที่ระดับ 44 สตางค์/ลิตร ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 40สตางค์/ลิตร เป็นผล สืบเนื่องมาจากนโยบายการตรึงราคาน้ำมันของภาครัฐส่งผลให้ค่าการตลาดคงที่ ทั้งนี้ บริษัท มีปริมาณการขายน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นทุกช่องทางการจำหน่าย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการปรับเพิ่มขึ้น 6.4% ส่วนปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาผ่านตลาดอุตสาหกรรมก็เพิ่มขึ้น 2.8% จากการที่บริษัทฯ ชะลอการจำหน่ายในตลาดขายส่งเพื่อรักษาค่าการตลาดให้อยู่ในระดับสูง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 304 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 24 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ประกอบด้วยค่าซ่อมแซม สถานีบริการลดลง 7 ล้านบาท ค่าโฆษณาลดลง 5 ล้านบาทค่าใช้จ่ายภาษีและเบี้ยประกันภัยลดลง 5 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆลดลง 7 ล้านบาท

อีกทั้งในไตรมาส 2 ปี 2547 บริษัทมี ดอกเบี้ยจ่าย 183 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 94 ล้านบาท เป็นผลจากการ Refinance หุ้นกู้เดิมส่วนใหญ่ด้วยเงินทุนใหม่ที่ได้จากการปรับโครงสร้างการเงิน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีดอกเบี้ยรับ 3 ล้านบาท ลดลง 5 ล้านบาท จากการที่บริษัทฯ ได้รับวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนตามแผนการปรับโครงสร้างการเงิน บริษัทฯ จึงไม่มีความจำเป็นต้องถือเงินสดเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมไว้ชำระค่าน้ำมันดิบ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us