Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2547
Nihon no Konbinii             
โดย ภก.ดร. ชุมพล ธีรลดานนท์
 





ทันทีที่สิ้นเสียง ปิ๊งป่อง! "Irasshaimase Konnichiwa" ก็ดังตามมาราวกับถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ที่ประตูทางเข้าร้านสะดวกซื้อทุกร้านในญี่ปุ่น ซึ่งคงจะเป็นรูปแบบการทักทายลูกค้าที่คล้ายกันของร้านสะดวกซื้อทั่วโลก แต่อยากจะให้มาได้ยินด้วยตัวเองว่า น้ำเสียงในการทักทายของพนักงานขายของร้านสะดวกซื้อที่นี่ เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงที่พร้อมจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงจริงๆ

Konbinii คำในภาษาญี่ปุ่นที่มาจากคำว่า convenient store หรือร้านสะดวกซื้อนั้นหากดูเผินๆแล้วก็เหมือนๆ กับร้านสะดวกซื้อทั่วไปในเมืองไทยทั้งรูปแบบการจัดร้าน ประเภทสินค้า หรือแม้กระทั่งชื่อร้านที่เป็นแฟรนไชส์อยู่ทั่วโลกอย่าง 7-Eleven, AM-PM, Familymart เป็นต้น แต่ถ้าพิจารณาดูลึกๆแล้วจะพบความเหมือนที่แตกต่างอย่างน่าสนใจทีเดียว

อาหารสำเร็จรูปประเภทแซนด์วิช, obento, onigiri, บะหมี่เย็น, สลัด มักจะจัดวางอยู่ในตู้แช่ด้านในใกล้เคาน์เตอร์ชำระเงิน พร้อมบริการอุ่น obento ด้วย microwave (ฟรี) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตที่รีบเร่งในญี่ปุ่น เมนูอาหารมักจะมีการสับเปลี่ยน เป็นระยะๆ บนฉลากของอาหารสำเร็จรูปจะมีรายละเอียดของปริมาณและสัดส่วนวัตถุดิบที่ใช้ ตามมาตรฐานที่รัฐบาลกำหนดพร้อมทั้งวัน เวลาหมดอายุกำกับไว้เสมอ อาหารสำเร็จรูปเหล่านี้จะถูกเก็บกลับ (ในกรณีที่ขายไม่หมด) และนำของใหม่มาวางแทนที่วันละ 3 รอบ ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารนั้นใหม่และสดอยู่เสมอ ถึงขั้นเคยมีข่าวของร้าน 7-Eleven ที่ถูกโจมตีเกี่ยวกับการเก็บอาหารกลับก่อนเวลาที่กำหนดและนำไปทิ้งขยะ ทั้งๆ ที่ยังไม่หมดอายุ

หลายครั้งที่อาหารในตู้แช่แข็ง (frozen food) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ฉีกความจำเจของเมนูอาหารสำเร็จรูปดังกล่าว อย่างในกรณีไปพบว่ามีแกงเขียวหวาน ของไทยในตู้แช่แข็งในร้าน Lawson โดยบังเอิญ ทำให้ อดไม่ได้ที่จะไปเดินโฉบเข้าไปดูเผื่อว่าจะมีเมนูเด็ดอื่นๆ อีกเวลาเข้าร้านสะดวกซื้อในครั้งถัดๆ ไป

ร้านสะดวกซื้อบางร้าน เช่น Ministop จะมีมุมสำหรับให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ และร้านสะดวกซื้อแทบจะทุกร้านก็มีห้องน้ำสะอาดให้บริการฟรี

ที่ที่เด็กญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะก้าวตรงเข้าไปสำรวจ สินค้าใหม่โดยไม่สนใจคำทักทายจากพนักงาน ก็คือเคาน์เตอร์ขนมที่มักจะมีของแถมเป็นของเล่น การ์ตูน สารพัดแบบให้สะสม โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมนั้น จะมีความหลากหลายของสินค้าประเภทนี้ในร้านสะดวกซื้อมากเป็นพิเศษ จนในบางครั้งอดคิดไม่ได้ว่าเกิดเป็นเด็กในญี่ปุ่นนั้นโชคดีเหลือหลาย

ในส่วนของตู้เครื่องดื่มมีเครื่องดื่มวางเรียงกันอยู่กว่า 50 ชนิด นั้นช่วยสร้างความเพลิดเพลินในการเลือกซื้อได้ไม่น้อย เครื่องดื่มหลายชนิดมีขายเฉพาะฤดูกาลจึงทำให้สินค้าประเภทนี้มี turn-over rate สูง ยกตัวอย่างเช่น น้ำสาลี่ญี่ปุ่นที่เคยซื้อไปเมื่อคราวก่อนอาจจะหาไม่ได้อีกในคราวนี้ (คงต้องรอออกมาใหม่ปีหน้า) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วความหลากหลายของเครื่องดื่มในญี่ปุ่น กลายเป็นสิ่งผลักดันให้เกิดการแข่งขันสูงในตลาดระหว่างบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม หลายยี่ห้อ กลยุทธ์ทางการตลาดที่นำมาใช้มักจะมีร้านสะดวกซื้อเป็นสนามประลองอยู่บ่อยครั้ง หนึ่งในตัวอย่างที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้คือ การเปิดตัวของ Coca Cola C2 ในญี่ปุ่นวันแรก (ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกด้วย) สร้างสถิติยอดขายถล่มทลายจาก channel ของร้านสะดวกซื้อนี่เอง

สินค้าอุปโภคต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมทั้ง หนังสือพิมพ์ นิตยสาร การ์ตูนก็มีวางจำหน่ายตรงตามคำจำกัดความของร้านสะดวกซื้อทุกประการ และที่ดูเหมือนจะวาง position ของสินค้าได้ชัดเจน คือเครื่องสำอาง DHC ที่มีคุณภาพดีราคาไม่แพงเกิน ไปซึ่งจะมีจำหน่ายเฉพาะในร้าน 7-Eleven เท่านั้น

"ในญี่ปุ่นมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชีวิต ประจำวันอย่างครบครัน" คงเป็นคำกล่าวที่ใช้ไม่ได้กับ ATM ของธนาคารในญี่ปุ่น เพราะว่าในขณะที่ธนาคารส่วนใหญ่งดให้บริการหลัง 6 โมงเย็นไปแล้วนั้นร้านสะดวกซื้อ (ไม่ทุกร้าน) กลับมีเครื่องกด ATM ของทุกธนาคาร (อยู่ในตู้เดียวกัน) ไว้คอยบริการ ซึ่งสามารถฝาก ถอน โอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยจ่ายเพิ่ม 100-200 เยนสำหรับบริการนอกเวลาทำการของ ATM ธนาคาร และนี่ก็เป็นหลักประกันได้ว่าสามารถกดเงินในยามจำเป็นได้ตลอดเวลา เมื่อเร็วๆ นี้ยังสามารถเบิกเงินสดล่วงหน้าจากบัตรเครดิตทุกยี่ห้อโดยใช้ตู้ที่ว่านี้ได้เช่นกัน

ปกติการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ฯลฯ สามารถทำโดยตัดผ่านบัญชีอัตโนมัติได้ก็จริงแต่ก็มีไม่น้อยที่เลือกใช้บริการชำระผ่านร้านสะดวกซื้อ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสามารถจ่ายเงินหลังวันครบกำหนดชำระได้ถ้าไม่ถูกระงับบริการไปเสียก่อน

นอกจากนี้ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินในร้านสะดวกซื้อยังสามารถซื้อตั๋วภาพยนตร์ลดราคา 500 เยน (ต้องซื้อก่อน roadshow), ตั๋วคอนเสิร์ต, ตั๋วมวยปล้ำ รวมถึง ตั๋วเข้า Disney Resort ในราคาถูกกว่าปกติ 1,200 เยน (เฉพาะช่วง promotion) ได้ตามประกาศไว้หน้าร้าน

ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ในร้าน สะดวกซื้อหลายๆ ร้านมักจะมีโฆษณาการสั่งจองเค้ก สารพัดแบบในราคาประหยัด ซึ่งทางร้าน 7-Eleven ได้ประยุกต์ไอเดียนี้ในการสั่งกับข้าวประจำวันแบบวันต่อวันได้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่ไม่สะดวกในการทำอาหารด้วยตนเอง เช่น คุณตาคุณยายที่อยู่กันลำพัง

การจับมือกับบริษัทส่งพัสดุช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มาก ของที่ส่งใช้เวลาเพียงข้ามวัน ซึ่งนอกจากจะเร็วกว่าบริการของไปรษณีย์แล้วยังกำหนดเวลาที่จะให้ของส่งไปถึงได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถเลือกบริการเก็บเงินปลายทางได้ เพียงแค่ทางร้านโทรไปสอบถามความจำนงของผู้รับปลายทาง ว่าจะยินดีรับเงื่อนไขการเก็บเงินปลายทางนี้หรือไม่ ถ้าตกลงก็เป็นอันสามารถส่งของได้ฟรีเช่นกัน ที่สะดวกไปกว่านั้นคือ บริการส่งกระเป๋าเดินทางไปสนามบิน (ควรส่งล่วงหน้า 2-3 วัน) เป็นบริการที่สร้างความสะดวก สบายในการเดินทางได้มาก เมื่อไปถึงสนามบินก็สามารถ รับกระเป๋าได้จากเคาน์เตอร์พิเศษของทางบริษัทโดยแสดงตั๋วที่ออกโดยร้านสะดวกซื้อที่ไปใช้บริการ

นอกเหนือจากบริการโดยพนักงานของร้านแล้วยังมีระบบการบริการตนเองในร้านสะดวกซื้อ นั่นคือ บริการเครื่องถ่ายเอกสารคุณภาพเยี่ยมแบบหยอดเหรียญ ที่ถ่ายได้ทั้งขาวดำและสี อีกทั้งเครื่องส่งแฟกซ์ก็ใช้ได้เพียงแค่แจ้งความประสงค์ในการใช้กับพนักงานก่อนใช้ และจ่ายเงินตามระยะเวลาและระยะทางของการส่ง แฟกซ์ที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน

ทุกวันนี้ร้านสะดวกซื้อกลายมาเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญของชีวิตประจำวันในญี่ปุ่นไปโดยปริยาย ลูกค้าที่เดินเข้าร้านสะดวกซื้อก็เพราะสามารถใช้บริการ หลากหลายได้อย่าง "สะดวก" ที่ไม่ใช่เพียงแค่ไป "ซื้อ"....

Special Thanks to Mr. Hiroyuki Ishida for nice picture from Seven-Eleven Tendai 5-choume branch, Chiba, Japan   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us