Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2547
Walking in The Rocks "Down Under"             
โดย มานิตา เข็มทอง
 





"Down Under" หมายถึงประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากอยู่ในเขตขั้วโลกใต้ และ The Rocks ที่ว่าคือ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาวออสเตรเลีย ที่ตั้งอยู่ในนครซิดนีย์...ทริปนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มาเยือน ซิดนีย์แบบไม่ได้เตรียมตัวมากมาย อาศัยติดตามสามี ที่มาร่วมงาน International Conference on Storms ที่ Brisbane ไหนๆ ก็มาถึงออสเตรเลียแล้วก็เลยถือโอกาสล่องต่อมาที่ซิดนีย์ เพราะอยากเยี่ยมยล Opera House และ Sydney Harbour Bridge อันเลื่องชื่อ ก่อนมาก็พยายามหาที่พักที่อยู่ในละแวกนั้น เพื่อง่ายต่อ การ "เดิน" ทาง หลังจากที่เลือกอยู่หลายที่ ก็มาลงเอย ที่โรงแรม Sebel Pier One อยู่ที่ Walsh Bay ในเขตพื้นที่ของ The Rocks ซึ่งเพิ่งมาทราบตอนนี้เองว่าเป็นเขตประวัติศาสตร์สำคัญของชาวออสซี่ และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการ "เดิน" ทางใน The Rocks...

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1788 หรือประมาณ 200 กว่าปีก่อนในยุคล่าอาณานิคม Sydney Cove หรือต่อมารู้จักกันในนามของ The Rocks แห่ง New South Wales เป็นดินแดนแรกที่ชาวอังกฤษเข้ามาตั้งรกราก ซึ่งประกอบด้วยนักบุกเบิกดินแดนใหม่จำนวน 400 คน และนักโทษอีก 750 คน ล่องข้ามมหาสมุทรมาด้วยเรือจำนวน 11 ลำ ภายใต้การนำของกัปตัน Arthur Phillip ซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ว่าการอาณานิคมอังกฤษคนแรกแห่ง New South Wales และชาวออสเตรเลีย ถือเอาวันที่ 26 มกราคมของทุกปีเป็นวันชาติออสเตรเลีย นักโทษส่วนใหญ่ที่มากับกัปตัน Arthur ไม่ได้มีโทษร้ายแรง ส่วนใหญ่เป็นพวกลักเล็กขโมยน้อย ที่มีมากมายล้นคุกในแผ่นดินอังกฤษ และนักโทษเหล่านี้ ก็เป็นแรงงานสำคัญในการสร้างอาณานิคมใหม่ให้แก่จักรวรรดิอังกฤษ เพื่อขยายอำนาจมายังเอเชียแปซิฟิก

พื้นที่ของ The Rocks เป็นลักษณะ Hilly และเป็นเขาหินทราย หรือ Sandstone ดังนั้น ตึกเก่าทั้งหลายที่อนุรักษ์ไว้สร้างมาจากหินทรายก้อนมหึมาแข็งแกร่งและทนทาน ปัจจุบันตึกเก่าในพื้นที่ The Rocks กลายมาเป็นร้านค้า คาเฟ่ ผับ ออฟฟิศ และพิพิธภัณฑ์ และแต่ละแห่งยังคงความหมายทางประวัติศาสตร์ให้แก่นักท่องเที่ยวและคนรุ่นหลัง ได้เพิ่มเติมประสบการณ์ด้วยการ "เดิน" ชมสถานที่สำคัญต่างๆ จะด้วยตัวเอง แบบประหยัด หรือจะซื้อทัวร์เดินกันเป็นกลุ่มและมีไกด์เล่าเรื่องราวซึ่งมีราคาประมาณสิบกว่าเหรียญออสเตรเลีย และใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนดิฉันเลือกทัวร์ด้วยตัวเอง โดยเข้าไปซื้อ The Rocks Self Guided Walking Tour ที่ The Sydney Visitor Center ราคาเพียงเหรียญฯ เดียวเท่านั้น ประหยัดและยืดหยุ่นกว่า เหนื่อยก็หยุด เมื่อยก็พัก...

สถานที่สำคัญทั้งหมดใน The Rocks Walking Tour นี้มีทั้งหมด 31 แห่ง คงเล่าในที่นี้ไม่หมด แต่จะพยายามเลือก ที่เด่นๆ มาเล่าละกัน เริ่มตั้งแต่ Sailor's Home ซึ่งสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1864 สำหรับบรรดากะลาสีเรือใช้เป็นที่พำนักเวลาขึ้นบก ปัจจุบัน Sailor's Home หลังนี้กลายเป็น The Sydney Visitor Center นี่เอง...สถานที่ ต่อมาคือ Sydney Harbour Bridge สถานที่นี้พลาดไม่ได้ ถ้าพลาดถือว่ายังมาไม่ถึงซิดนีย์ สะพานเหล็กโค้งแห่งนี้ถือเป็น "The Largest Single Arch Bridge in the World" โดยมีความยาวถึง 503 เมตร และมีความสูงถึง 134 เมตร ใช้ เวลาในการก่อสร้างนานถึง 9 ปี พอๆ กับรถไฟใต้ดินบ้านเราเลย แต่ต่างกันที่เขาเริ่มสร้าง เมื่อปี ค.ศ.1923 ในยุคที่ยังไม่มีเทคโนโลยีทุ่นแรงเหมือนปัจจุบัน การจะขึ้นชมสะพานมีให้เลือกสองแบบ คือ แบบเสียตังค์กับแบบไม่เสียตังค์ แบบไม่เสียตังค์ คือเดินข้ามสะพานชมวิวตามปกติ ส่วนแบบเสียตังค์แบ่งออกเป็นเสียตังค์มากคือ Bridge Climb ราคาเริ่มตั้งแต่ 155-175 เหรียญฯ ขึ้นอยู่กับเวลาที่จะขึ้นไป ถ้าเป็นยาม รุ่งอรุณ และยามสายันห์ เห็นพระอาทิตย์ที่ขอบฟ้าไกล จะแพงมากหน่อย นอกจากนั้น คนที่จะขึ้นไปถึงยอดสะพานนี้ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เพื่อจะได้ไม่เป็นภัยต่อตัวเองและผู้อื่น สำหรับแบบเสียตังค์น้อยคือ การ ขึ้นไปแค่จุดชมวิว Pylons Lookout ราคาแค่ 8.5 เหรียญฯ เท่านั้น ก็เห็นวิวทั่ว Sydney Harbour และ Circular Quay แล้ว ซึ่งจุดนี้จะมองเห็น Opera House ในมุมดีอีกด้วย สถานที่สุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ Argyle Cut เป็นที่ที่โชว์ความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่สถาปนิกในอดีตใช้ศาสตร์นี้ในการออกแบบตัดผ่าน Sandstone เพื่อสร้างทางเชื่อมระหว่าง Darling Harbour และ Sydney Cove

นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญที่พลาดไม่ได้คือ Opera House ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่โด่งดังไปทั่วโลกของซิดนีย์ โดยในปี ค.ศ.1955 สถาปนิกชาว Danish นามว่า Joern Utzon วัย 38 ปี ชนะเลิศการประกวดออกแบบ Opera House และเป็นแบบที่ใช้ในการก่อสร้างสถาปัตยกรรมเอก "Wings & Shells" ชิ้นนี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 14 ปี ด้วยงบประมาณ 100 ล้านเหรียญฯ คนส่วนใหญ่จะนึกว่า Opera House มีเพียงแค่โรงละครโรงเดียวเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมีถึง 5 โรงด้วยกันประกอบด้วย Concert Hall หนึ่งโรง Opera Theatre หนึ่งโรง Drama Theatre หนึ่งโรง Cinema & Recording Hall หนึ่งโรง และห้องอาหาร อีกสองห้อง ทั้งนี้ยังมี Bars Lounges ห้องสมุด และห้องแต่งตัวอีกหลายสิบห้อง ซึ่งเปิดให้เข้าชมตามปกติ และในช่วงหน้าหนาวนี้ Opera House มีโปรแกรม Backstage Tour เปิดให้ชมทุกวันอาทิตย์อีกด้วย... เตรียมร่างกาย เตรียมกระเป๋า เตรียม "มูลา" ให้พร้อม แล้วเริ่ม "เดิน" ทาง ณ บัดนี้...   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us