Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2541
กานต์, นิเชีย, และไลโปสอร์บ             
 


   
search resources

กานต์ วงศ์ศุภสวัสดิ์
Health Foods and Food Supplements




เหมือนจะเป็นแบบแผนไปแล้วสำหรับคนที่ร่ำเรียนมาทางด้านเภสัชศาสตร์ ที่จบออกมาแล้วจะเข้าสู่วงการตัวแทนจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นหนทางหาความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานได้เป็นอย่างดี

คนเหล่านี้จะเรียนรู้และหาประสบการณ์จากบริษัทจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ จนเชี่ยวชาญ และหาความรู้เพิ่มเติมด้วยการศึกษาต่อทางด้าน MBA ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จ จากนั้นใครที่มีลู่ทางก็อาจจะออกไปตั้งบริษัทด้วยทุนรอนจากทางบ้าน หรือการรวมกลุ่มเพื่อนฝูงที่เรียนมาด้วยกัน เพื่อดำเนินธุรกิจขนาดย่อมๆ ทางด้านจำหน่ายยาหรือเวชภัณฑ์ และพัฒนากิจการให้เติบโตต่อไปในอนาคต

กานต์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ก็เช่นเดียวกัน เขาจบเภสัชศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าทำงานกับ บ.อัพยอห์น (Up John) ซึ่งเป็นบริษัทยา สัญชาติอเมริกัน ระหว่างทำงานก็เรียน MBA (ภาคค่ำ) ที่ ม.ธรรมศาสตร์ และจบเมื่อปี'29 แล้ว ก็ทำงานต่อมาเรื่อยจนกระทั่งตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด

ระหว่างที่ทำงานในอัพยอห์น กานต์ได้รวมตัวกับเพื่อนๆ ที่เรียนรุ่นเดียวกันมาที่เป็นเภสัชกรและนักธุรกิจ นำประสบการณ์ด้านการตลาดจากการทำงานในบริษัทข้ามชาติอื่นๆ อาทิ บ.อัพยอห์น, บ.เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์, บ.เดนท์สพลาย, และ Eli Lilly เพื่อมาตั้งธุรกิจของตนเอง

เริ่มต้นเปิดร้านขายยา ซึ่งทุกวันนี้ก็คือ เครือข่ายร้าน P&F ซึ่งทำธุรกิจร้านขายยาแบบ chain store ที่ใหญ่ที่สุด เพื่อจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ในห้างสรรพสินค้าทั้งหลาย

ต่อมาในปี'35 จึงตั้งบริษัท นิเชีย เพื่อจำหน่ายอาหารเสริมสุขภาพ วิตามินบำรุงร่างกายและผลิตภัณฑ์เพื่อ สุขภาพอื่นๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ในการดูแลสุขภาพผิวและความงาม

"เมื่อประมาณปี'34 เรามีความคิดว่า เราขายของให้คนไม่สบายมาเยอะแล้ว จึงอยากขายของให้คนสบายดีบ้าง จึงไปเสาะแสวงหาพวกวิตามิน อาหารเสริมต่างๆ" กานต์กล่าว และเสริมว่า

"เราไปเห็นในต่างประเทศพบว่า เขาทำกันเป็นอุตสาหกรรม จึงเริ่มด้วยการติดต่อขอเป็นตัวแทนแล้วก็ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งยี่ห้อที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายก็เป็นระดับท็อปทั้งนั้น อาทิ แคล (KAL) ก็เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Top 3 ของอเมริกา, Healtheries ก็เป็นยี่ห้อที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในนิวซีแลนด์, และไคโอลิก (KYOLIC) เป็นกระเทียมบ่มสกัดที่มีคุณภาพสูงที่สุดในโลก"

นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้งกับธุรกิจเสริมสุขภาพ ซึ่งทำท่าจะไปได้ดี เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มมาให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยของตนเอง แม้จะยังไม่เจ็บไข้ได้ป่วยก็ตาม โดยหันมาพึ่งทั้งยาที่ปรุงจากสารเคมีและสารสกัดจากธรรมชาติ กิจการตลอด 4-5 ปีของนิเชียจึงเจริญก้าวหน้าตามลำดับ

สินค้าภายใต้การดูแลของนิเชียมีทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและผลิตขึ้นภายในประเทศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50:50 โดยสินค้าในประเทศที่กำลังเป็นที่นิยมคือ นมผึ้ง ที่ผลิตขึ้นจากเชียงใหม่

และล่าสุดกับผลิตภัณฑ์ใหม่ "ไลโปสอร์บ" (Liposorb) เป็นผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ที่นิเชียได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายจาก Slimmax Inc. และเพิ่งได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อ.ย.) ให้ออกวางจำหน่ายตามร้านขาย ยาได้เมื่อกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

"ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีความโดดเด่นตรงที่แก้ที่สาเหตุและปลอดภัย ผลตอบรับจึงค่อนข้างดีพอสมควร" กานต์กล่าว

ไลโปสอร์บสกัดจากสัตว์ทะเลประเภทที่มีกระดอง อาทิ หมึก กุ้ง ปู เพื่อให้ได้สารไคตินที่เป็นกำเนิดของสาร Chitosan ซึ่งมีประจุเป็นบวกสูง มีคุณสมบัติพิเศษคือ โครงสร้างที่มีรูปร่างคล้ายปูเรียงตัวต่อกันเป็นสายโซ่ คอยทำหน้าที่ดักจับไขมันบริเวณทางเดินอาหาร ดังนั้นไขมันจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จึงไม่เกิดแคลอรีและไม่เพิ่มน้ำหนักตัว

ด้วยกลไกการทำงานที่ต่างจากผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไป สินค้าตัวนี้จึงน่าสนใจ เนื่อง จากการทำงานจะเริ่มจากผู้ใช้ต้องรับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวและเตรียมรองรับไขมันจากอาหาร โดยประจุบวกของยาจะไปจับไขมันที่เป็นประจุลบ และหุ้มไว้ไม่ให้ผ่านกระบวนการย่อย และถูกร่างกายขับออกมาทางระบบขับถ่าย ด้วยกลไกดังนั้นจะช่วยลดไขมันที่เป็นส่วนเกินได้ถึง 70-80% ทีเดียว

"เป็นการแก้ปัญหาตรงจุด คือ ขจัดไขมันส่วนเกิน เพราะโดยปกติ พลังงานที่ร่างกายต้องการจะมาจากสารอาหารประเภทโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตอยู่แล้ว และโดยทั่วไปคนไทยเราทานอาหารประเภทข้าวและเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเพียงพอกับความต้องการอยู่แล้ว" กานต์กล่าว

ถึงแม้จะเป็นสินค้านำเข้าซึ่งมีต้นทุนที่สูง เพราะตอนที่เอาเข้ามาเมื่อเดือนธันวาคม เงินบาทเทียบกับดอลลาร์อยู่ที่ 40 บาทเศษๆ แต่ตอนนี้ 50 บาทกว่า ต้นทุนก็เปลี่ยนไป แต่กานต์ยืนยันว่ายังไม่ปรับราคาแต่อย่างใด ราคาขายปลีกยังอยู่ที่แพ็กละ 60 แคปซูล ราคา 985 บาท

"เรามั่นใจในเรื่องคุณภาพ เนื่องจากกลไกไม่เหมือนกัน ทำให้ความได้ผลในการออกฤทธิ์ก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งพอเป็นอย่างนี้ ราคาก็เป็นเรื่องรอง ความได้ผลมาก่อน ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ท้องอิ่ม เนื่องจากตัวเรามี 2 ภาค คือ กายภาคและภาคจิตใจ ทางกายภาคนี้ท้องเต็มแล้ว แต่ทางด้านจิตใจมีความรู้สึกว่า มื้อนี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลย มีความรู้สึกว่ายังต้องทาน สุดท้ายก็ไม่ได้ผล"

สำหรับช่องทางการจำหน่ายนั้น กานต์เน้นที่ร้านขายยาเป็นหลัก ซึ่งทั่วประเทศมีร้านขายยาประมาณ 8,000 ร้าน ถ้าสามารถวางได้หมดก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะเขามองว่าการขายในร้านยา เป็นการควบคุมคุณภาพไว้ชั้นหนึ่ง คนที่มาซื้อจะได้รับคำแนะนำจากเภสัชกร "เราพบว่าถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้แนะนำ บางครั้งพูดเกินเลย กลายเป็นผลิตภัณฑ์เทวดาไป เราไม่อยากให้ผู้บริโภคมีความคาดหวังที่ไม่ถูกต้อง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเน้นผู้หญิงทั้งแม่บ้านและคนทำงาน อายุ 25 ปีขึ้นไป ส่วนเด็กกว่านี้คงไม่สนใจนัก"

ด้านความปลอดภัยนั้น ในต่างประเทศมีการขายยาประเภทนี้มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว และในเมืองไทยก็มีนักวิชาการทางด้านเภสัชกรรม ศึกษาค้นคว้าด้านนี้โดยเฉพาะอยู่หลายท่าน จึงน่าจะมั่นใจได้ เพียงแต่ห้ามสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติแพ้อาหาร ทะเล ปู และกุ้งเท่านั้น

นอกจากยาลดความอ้วนแล้ว นิเชียยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอางด้วย อาทิ Evening Primrosi Oil ซึ่งก็ทำยอดขายอยู่พอสมควร ซึ่งเมื่อรวมสินค้าตัวใหม่นี้เข้าไปด้วย คาดว่านิเชียคงจะเติบโตเป็นบริษัทที่มีอนาคตอีกราย ดังนั้น แม้จะเป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่เมื่อจับถูกทาง โอกาสจะมีอนาคตที่สดใสในธุรกิจนี้ก็ไม่ยากนัก เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาในการสร้างชื่อเสียงอีกเล็กน้อยเท่านั้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us