|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ สิงหาคม 2547
|
|
ชื่อของพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ เงียบหายจากวงการพัฒนาที่ดินของไทยเกือบ 10 ปี การกลับมาอีกครั้งโดยการนำแกรนด์ แอสเสท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของเขา จึงมีความหมายไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ว่าฉากแรกของการกลับคืนสู่วงการอีกครั้งของพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์อาจไม่สวยหรูสักเท่าไร เนื่องเพราะราคาหุ้นแกรนด์ แอสเสท ในช่วงต้นที่เข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะลดต่ำจากราคาจองเมื่อครั้งทำ IPO ไปเกือบครึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ ที่ได้ถูกกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ
แกรนด์ แอสเสท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอยู่ในกลุ่มโรงแรม และบริการท่องเที่ยว ซึ่งบางคนที่รู้จักพงษ์พันธ์ อาจรู้สึกว่าขัดแย้งกับภาพลักษณ์ ในอดีตของเขา ที่ถูกมองว่าเป็นนักพัฒนา ที่ดินตัวยง แต่หากมองลงไปลึกๆ แล้ว การเข้ามาจับธุรกิจโรงแรมอย่างจริงจัง ถือเป็นการประกาศ position ในตลาดที่ชัดเจนของพงษ์พันธ์ว่าการขยายตัวของเขา จะก้าวเดินไปพร้อมๆ กับการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย
"เรามองว่าประเทศเราจะเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย ถ้าไม่เป็นอันดับ 1 ก็อันดับ 2 คือถ้าไม่มีจีน เราก็เป็นอันดับ 1 อยู่แล้ว และมันก็มีปัจจัยหลายๆ อย่าง ที่ทำให้เรามั่นใจใน sector นี้ อย่างตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย จากที่เคยอยู่ระดับ 6-7 ล้านคนต่อปี มาเป็นสิบๆ ปี แต่ตอนนี้มันโดดพรวดขึ้นมาเป็น 10-11 ล้านคน และรัฐบาลก็ประมาณว่าจะถึง 30 ล้านคนในอนาคต" พงษ์พันธ์บอกกับ "ผู้จัดการ"
พงษ์พันธ์เริ่มจับธุรกิจโรงแรมในปี 2531 หลังจากมีประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาแล้วกว่า 13 ปี โดยการซื้อที่ดินติดถนนสุขุมวิท ระหว่างซอยสุขุมวิท 17 และ 19 จำนวน 5 ไร่ 15 ตารางวา เพื่อสร้างเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 365 ห้อง ภายใต้ชื่อบริษัท สุขุมวิท เซ็นเตอร์ และเปลี่ยนมาเป็นบริษัท พี.เอส.ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป ออฟ คอมปานีส์ ในปี 2536
เดิมโรงแรมแห่งนี้ใช้เชนเดลต้าจากฮ่องกงเป็นผู้บริหาร โดยใช้ชื่อโรงแรมว่า เดลต้า แกรนด์ แปซิฟิค ต่อมาในปี 2545 ได้เปลี่ยนโดยการนำเชนสตาร์วู้ด ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการบริหารโรงแรมระดับ 5 ดาวทั่วโลก เข้ามาบริหาร และเปลี่ยนชื่อโรงแรมเป็นโรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
เมื่อต้นปี 2546 พงษ์พันธ์ได้เปลี่ยน ชื่อบริษัทพี.เอส.ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นแกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ และนำบริษัทเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีทุนจดทะเบียน 600.80 ล้านบาท และถือเป็นก้าวแรกของการกลับคืนสู่วงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกครั้ง หลังเก็บตัวเงียบมากว่า 8 ปี
"ถือเป็นการกลับมา active อีกครั้ง เพราะว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม ส่วนหนึ่งเพราะผมเป็นเจ้าของโรงแรมอยู่แล้ว และเป็นจังหวะที่ดีของธุรกิจท่องเที่ยว ก็เลยนำบริษัทเข้าตลาดฯ และเมื่อเข้าตลาดฯ ก็เป็นโอกาสที่เราจะสร้างสรรค์โครงการอื่นๆ ขึ้นมาได้อีก"
"การสร้างสรรค์โครงการอื่นๆ" ถือ เป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องตระหนัก สำหรับการวิเคราะห์หุ้นของแกรนด์ แอสเสท เพราะหากมองรายได้ในปัจจุบันแกรนด์ แอสเสท มีรายได้หลักจากโรงแรม เวสทินเพียงแหล่งเดียว แต่หากมองในอนาคต แกรนด์ แอสเสท กำลังมีโครงการ ก่อสร้างโรงแรม 4 แห่ง และโครงการที่พัก อาศัยอีก 2 แห่งอยู่ระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ปลายปีนี้ (รายละเอียด โปรดอ่าน "W City การผสมผสานระหว่าง Boutigue กับ Busines")
โครงการก่อสร้างทั้ง 6 โครงการ ต่างอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ที่หัวหิน และภูเก็ต
จากงบการเงินไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของแกรนด์ แอสเสท เริ่มมีกำไร โดยมีรายได้รวม 130.87 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1.18 ล้านบาท เทียบกับผลการดำเนินงานปี 2546 ตลอดทั้งปีที่มีรายได้ 388.71 ล้าน บาท แต่มีผลขาดทุนสุทธิ 26.47 ล้านบาท
การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของ แกรนด์ แอสเสท จึงไม่สามารถมองเพียงตัวเลขในปัจจุบัน แต่ต้องมองไปถึงตัวเลขรายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการวิเคราะห์ถึงตัวตน และบุคลิกของพงษ์พันธ์ ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างนวัตกรรมให้กับวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยมาตลอดเกือบ 30 ปี
หลังนำแกรนด์ แอสเสท เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พงษ์พันธ์วางแผนไว้ว่าแกรนด์ แอสเสท จะ ต้องมีโครงการก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่าง น้อยปีละ 1-2 โครงการ และทุกโครงการ จะเน้นจุดเด่นในการนำสิ่งแปลกใหม่เข้า มาใช้ ไม่ว่าจะในด้านรูปแบบของโครงการ รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการท่องเที่ยว และจะเป็นโครงการที่มีการผสมผสานกันระหว่างการก่อสร้างโรงแรมและที่พักอาศัย ที่เป็นความชำนาญ เฉพาะตัวของเขาอยู่แล้ว
ถือเป็นการเน้นย้ำจุดแข็งของตนเอง ให้โดดเด่นขึ้น และทำให้ตำแหน่งทางการ ตลาดของแกรนด์ แอสเสท มีความชัดเจน ยิ่งขึ้น
"เราจะเน้นโครงการที่มันแปลกใหม่ เราอยากสร้างสรรค์โครงการที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำแบบใคร แล้วก็เป็นการพัฒนาแบบใหม่ๆ เพื่อความสำเร็จ โดยดูทั้งเรื่องประโยชน์ใช้สอย เรื่องการดีไซน์ การให้ประโยชน์สูงสุดกับผู้ซื้อ เป็นโครงการที่มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา เพื่อฉีกแนว เราก็อยากทำโครงการอย่างนี้มากกว่า ที่จะไปทำโครงการซ้ำๆ ถึงแม้จะได้กำไรดี แต่เราไม่ถือเป็นทางเลือกแรกของเรา"
เฉพาะโครงการที่ได้ประกาศตัวออก ไปแล้ว หากสร้างเสร็จในปี 2549 แกรนด์ แอสเสท จะมีโรงแรมอยู่ในมือทั้งสิ้น 5 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ 3 แห่ง ส่วนอีก 2 แห่งอยู่ที่หัวหิน และภูเก็ต ถือเป็นเครือข่ายโรงแรมขนาดใหญ่อีกเครือข่าย หนึ่ง
การหวนกลับคืนสู่วงการของพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ จึงนับเป็นย่างก้าวที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
|
|
|
|
|