|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สยามอินเตอร์มัลติ-มีเดีย-กันตนา กรุ๊ป" ยื่นแบบไฟลิ่ง เตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังระดมทุนเพื่อ นำเงินไปขยายกิจการ โดยสยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย บริษัทลูกสยามสปอร์ต เล็งขาย ไอพีโอ 70 ล้านหุ้น หาเงินขยายร้านหนังสือ เป็น 40 แห่งในสิ้นปีนี้ ในขณะที่กันตนาขาย 150 ล้านหุ้น หวังระดมเงินกว่า 1,200 ล้านบาท สร้างเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ด้านที่ปรึกษาทั้ง 2 บริษัท เผยรอดูภาวะก่อนตัดสินใจเข้าตลาดฯ
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2547 สำนักงาน ก.ล.ต.ได้เริ่มนับหนึ่งแบบรายการ แสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง)หุ้นบริษัทสยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ประกอบธุรกิจจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือการ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่นและซื้อลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนทั้งจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกงและไต้หวัน รวมทั้งพ็อกเกตบุ๊กต่างๆ
และได้ทำรายการวิทยุข่าวกีฬา
บริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดียได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 170 ล้านบาทเป็น 240 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 70 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเงินที่ได้จากการเสนอขายจะนำไปขยายสาขาของร้าน Siam Inter Book Friend เพื่อขยายการลงทุนในสื่อวิทยุและใช้ในการพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทต่อไป
โครงการในอนาคตของบริษัทจะขยายร้านหนังสือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 20 สาขามีแผนที่จะขยายเป็น 40 สาขาภายในสิ้นปีนี้เพื่อเป็นการกระจายสินค้าและส่งเสริมการขายหนังสือของบริษัทที่เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายหลักในการสร้างรายได้และกำไรให้แก่บริษัทจากการขายหนังสือของทุกสำนักพิมพ์ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท และยังมีโครงการขยายธุรกิจสู่การทำการ์ตูน Animation และการทำสินค้า Merchandise จากการ์ตูนลิขสิทธิ์ต่างประเทศ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 30 ล้านบาท
และยังมีแผนการที่จะขยายสื่อวิทยุเพิ่มอีก 1 ช่องซึ่งจะทำในรูปแบบบันเทิงและกีฬา
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2546 มียอดขาย 351.5 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 62.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ซึ่งมียอดขาย 236.7 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 1.5 ล้านบาท สาเหตุที่ผลประกอบการดีขึ้น เพราะได้ผลิตหนังสือทุกประเภทออกจำหน่ายในตลาดมากขึ้น รวมทั้งการปรับเพิ่มราคาของหนังสือ
นอกจากนี้ บริษัทรับโอนกิจการวิทยุมาจากบริษัทสยามเทเลซีน มาบริหารอย่างเต็มตัว ส่วนในปี 2547 ภายในไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิเท่ากับ 15.80 ล้านบาทโดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากการจำหน่ายหนังสือ 71.22% จากสื่อวิทยุ 23.84%
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท 3 อันดับแรกได้แก่นายวิฑูร นิรันตราย ถือหุ้น18.13% ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน ทั่วไปสัดส่วนจะลดลงเหลือ 12.84%,นางสาวอัญชลี ธีระสันธุ์ ถือหุ้น 17.65% ภายหลังจะลดลงเหลือ 12.50% และบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคทถือหุ้น 13.25% ภายหลังจะลดสัดส่วนเหลือ 9.38% โดยบริษัทมี นโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้
แหล่งข่าวจากฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทาง การเงิน บมจ. สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ทาง ก.ล.ต. กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ ซึ่งถ้าได้รับการอนุมัติแล้ว คาดว่าจะสามารถนำหุ้นออกมากระจายให้กับประชาชน (IPO) ได้ประมาณ ไตรมาสที่ 4/2547 อย่างไรก็ตาม จะพิจารณาจากภาวะตลาดที่เหมาะสมเป็นหลัก
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต.ยังได้เริ่ม นับหนึ่งแบบไฟลิ่งในวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 ของบริษัทกันตนา กรุ๊ป ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยได้แต่งตั้ง บริษัททรีนิตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 เป็นที่ปรึกษา ทางการเงิน
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 750 ล้านบาทมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทและมีทุนชำระแล้ว 600 ล้านบาท โดยจะเสนอขาย หุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 150 ล้านหุ้น หรือ 20% ของทุนจดทะเบียน และจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผลิตภาพยนตร์และภาพยนตร์การ์ตูน ชำระหนี้เงินกู้และใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียนเพื่อพัฒนาธุรกิจของบริษัทและบริษัทในเครือ
สำหรับโครงการในปี 2547-2548 ได้แก่ จัดทำโครงการเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ซึ่งประกอบด้วยโรงถ่ายภาพยนตร์ และโรงถ่ายรายการโทรทัศน์ที่ได้มาตรฐานทั้งในและ นอกสถานที่และอุปกรณ์ถ่ายทำ อุปกรณ์ แสง อุปกรณ์ตัดต่อ ทั้งรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการในไตรมาส 3 ปีนี้ รวมมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการสร้างภาพยนตร์และภาพยนตร์การ์ตูน 2 เรื่องได้แก่ "คนไทยทิ้งแผ่นดิน" ซึ่งคาดว่าจะเริ่มถ่ายทำ ในไตรมาส 4 ปีนี้และ "แฝดสยามอิน-จัน" ซึ่งอยู่ในระหว่างการกำหนดแผนการดำเนินงาน รวมเงินลงทุนที่จะใช้ประมาณ 200 ล้านบาท และโครงการศูนย์ความรู้กันตนา โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ เป็นกลไกหลักในการจัดการสืบค้น คาดว่าโครงการจะเสร็จภายในปี 2548
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทกันตนา กรุ๊ป 3 รายแรกได้แก่ บริษัทกัลย์จาฤก โฮล ดิ้ง ถือหุ้น 64.92% นางสมสุข กัลย์จาฤก ถือหุ้น 13.04% และนายเอ็กซัน บินหะซันถือหุ้น 3.16% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่เกินกว่า 60% ของกำไร สุทธิหลังจากหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย
แหล่งข่าวจากฝ่ายบริษัททรีนิตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของกันตนา กล่าวว่า การขายหุ้นไอพีโอของกันตนา เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคำนึงถึงภาวะตลาดเป็นสำคัญ โดยยังไม่ได้มีการกำหนดช่วงเวลาการขายที่ชัดเจน ทั้งนี้ ขั้นตอนปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่ง ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และหลังจากที่ได้รับอนุมัติให้ขายหุ้นแล้วก็จะมาดูภาวะตลาดอีกครั้ง
|
|
|
|
|