Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 กรกฎาคม 2547
ล้อมคอกอสังหาฯไม่กระทบ SCC ไตรมาสสองกำไรกว่า 7.7 พันล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
ชุมพล ณ ลำเลียง
กานต์ ตระกูลฮุน
Cement




"ชุมพล ณ ลำเลียง" ฟันธง ธปท.คุมเข้มแบงก์ปล่อยกู้อสังหาฯไม่กระทบยอดขายปูนฯ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 "ปูนใหญ่" มีกำไรสุทธิกว่า 7.7 พันล้านบาท ลุ้นเมกะโปรเจกต์ 7 แสนล้านของรัฐบาล ดันยอดขายทะยาน ประกาศจ่ายปันผล 5.50 บาทต่อหุ้น

นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับหลักเกณฑ์การจัดชั้นหนี้ โดยเพิ่มความเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ หากพบว่ามีความเสี่ยง สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ต้องกันสำรองเพิ่มว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของปูนซิเมนต์ไทย เนื่องจากการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรูขนาดใหญ่ หรือบ้านราคาแพงไม่มีผลต่อ ยอดขายปูนซีเมนต์ และเหล็กมากนัก แต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคือ ยอดขาย สินค้าตกแต่งบ้านจะมีผลมาก เพราะคอนโดฯ หรือบ้านราคาแพง ความต้องการซื้อของตกแต่งมีสูง

ส่วนการที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) มูลค่าประมาณ 7 แสนล้านบาท นายชุมพลกล่าวว่า ยังคงรอดูนโยบายดังกล่าว หากมีความชัดเจนคาดว่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจของปูน ซิเมนต์ไทยที่จะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานของปูนซิเมนต์ไทยและบริษัทย่อย ในไตรมาสสองของปี 2547 มีกำไรสุทธิ 7,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทและบริษัทย่อยมียอดขาย 45,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายชุมพลกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทและบริษัทย่อย มียอดขายรวม 89,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 15,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 แยกตามประเภทธุรกิจดังนี้คือ ธุรกิจปิโตรเคมี มียอดขายรวม 16,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อน เนื่องจากความต้องการโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ราคาปิโตรเคมีในตลาด โลกสูงขึ้น

ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์มียอดขายรวม 8,859 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน เนื่องจากสภาวการณ์ ก่อสร้างในประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศสูงขึ้น

ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมียอดขายรวม 5,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน เนื่องจากการขยายตัวของภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในประเทศ ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์กระเบื้องมุงหลังคาและผลิตภัณฑ์เซรามิกยังคงเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายมียอดขายรวม 16,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์มียอดขายรวม 9,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณความต้องการในประเทศของกระดาษบรรจุภัณฑ์ และกระดาษพิมพ์เขียนเพิ่มขึ้น จากความต้องการของธุรกิจค้าปลีก งานพิมพ์และงานโฆษณา แต่ผลประกอบการของธุรกิจใกล้เคียงกับช่วงเดียวกับของปีก่อน เนื่องจากราคาวัตถุดิบแพงขึ้น

นายชุมพล กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ดีขึ้นในครึ่งปีแรก คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนมัติให้จ่ายเงินปันผลในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 26 สิงหาคม 2547

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 1 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 เนื่องจากมีหุ้นกู้ชุดเดิม ครั้งที่ 6/2542 (SCC#6) จำนวน 6 พันล้าน บาท จะครบกำหนดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 และหุ้นกู้ของบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฯ ครั้งที่ 1/2544 หรือ SPP#1 จำนวน 5 พันล้านบาท จะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 ตุลาคม 2547 โดยให้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนทั้งสองชุดก่อน

นายกานต์ ตระกูลฮุน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) กล่าวว่า หุ้นกู้ 1 หมื่นล้านบาท ที่จะออกคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4% กว่า ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบ รับจากนักลงทุน หรือผู้ถือหุ้นกู้เดิม โดยบริษัทจะให้สิทธิผู้ถือหุ้นที่ครบกำหนดไถ่ถอนทั้งสองชุดก่อน

ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่ครบกำหนดทั้งสองชุด ต้นทุนเฉลี่ย อยู่ที่ 6.2% หลังการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยได้กว่า 2% ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานของบริษัทที่มุ่งเน้นออกหุ้นกู้เพื่อลดภราะ หนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์สิน2.5-2.6 แสนล้านบาท ขณะที่ภาระหนี้สินอยู่ที่ 1.07 แสนล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us