สหภาพฯกสท ขนพนักงานพันคนยื่นหนังสือถึงนายกฯ พิจารณาเรื่องทศทไม่มีสิทธิให้บริการโทร. ต่างประเทศ ด้านสหภาพฯทศทขนพนักงาน 500 คนยื่นหนังสือหวังให้นายกฯมีข้อมูล 2 ด้าน "หมอเลี้ยบ" ชี้ประท้วง ได้แต่ห้ามทำประชาชนเดือดร้อน ย้ำกสทควรส่องกระจกดูประสิทธิภาพองค์กร การบริหารต้นทุนดีกว่าประท้วงเพื่อประโยชน์องค์กรมากกว่าประโยชน์ประชาชน

วานนี้ (26 ก.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม มีการประชุมใหญ่ วิสามัญประจำปี 2547 ประท้วงนโยบาย น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร(ไอซีที) ที่ให้บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น สามารถให้บริการโทรศัพท์ต่างประเทศได้ โดยมีพนักงานกสทจากทั่วประเทศเดินทางเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1,000 คน โดยมีการอภิปรายโจมตีนโยบายของ น.พ.สุรพงษ์ และรัฐบาล ที่ทำให้ กสท เสียหาย สลับกับการแสดงดนตรีเพื่อให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมรู้สึกผ่อนคลายกับการชุมนุม

นายวัฒนะ เอี่ยมบำรุง ประธาน สหภาพกสท กล่าวว่า ในวันนี้ (27 ก.ค.) พนักงานกสทจะเคลื่อนขบวนไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพิจารณานโยบายที่ให้ทศท เปิดบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ 2 ข้อ คือ 1. ในแง่กฎหมายว่า ทศท สามารถให้บริการได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความ เพราะขณะนี้คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่ง ชาติ (กทช.) ยังจัดตั้งไม่แล้วเสร็จ และ 2. จะเป็นการเตือนความจำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2545 ที่อนุมัติให้ ทศท และ กสท ประกอบกิจการตามที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการอยู่เดิมทุกประการตามนโยบายของรัฐบาลที่มิให้มีการลงทุน ซ้ำซ้อนในกิจการต่างๆ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของทั้ง 2 หน่วยงาน และเป็นภาระของรัฐบาล ซึ่งไม่ทราบว่าเรื่องดังกล่าวนายกฯลืมไปแล้วหรือยัง

หากยังไม่ได้รับคำตอบ อย่างใดอย่างหนึ่งจากนายกฯ ทางสหภาพฯกสท จะมีการชุมนุมต่อไปอีกคาดว่าอย่างน้อย 5 วัน โดยจะให้พนักงาน กสท สลับหมุนเวียนกันเข้าร่วมชุมนุม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการทำงานจนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งคาดว่าในแต่ละวันจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1,000 คน

"หากนายกฯยังไม่ตอบอะไรมา สหภาพฯกสทจะต้องหารือกันว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องให้พิจารณาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ"

นายสมบูรณ์ ทรัพย์สาร รองประธาน สร.กสท. กล่าวว่าการให้ทศทสามารถทำธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศได้ เป็นการละเมิดกฎหมายกทช. เพราะผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว คือ กทช.เท่านั้น และเห็นว่าการให้ทศทสามารถให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศได้ เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือเอไอเอส เพราะปัจจุบันเอไอเอสให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านหมายเลข 007 ซึ่งเป็นของทศท และทศทก็ได้สิทธิในการเช่าใช้เกตเวย์ราคาพิเศษกับ กสท ในอัตรา 3 บาท/นาที ขณะที่ต้นทุนโทรศัพท์ระหว่างประเทศของกสทอยู่ที่ประมาณ 4.20 บาท ดังนั้นการที่เอไอเอสให้บริการผ่านหมายเลข 007 ของทศท ก็เท่ากับว่ากสทต้องขาดทุน 1.20 บาท เพราะเอไอเอสไม่ต้อง จ่ายค่าเช่าเกตเวย์แต่จะจ่ายเฉพาะส่วนแบ่งรายได้ 25% ให้ทศท.เท่านั้น

นายมิตร เจริญวัลย์ รักษาการประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจ ทศท กล่าวว่าสหภาพฯทศทก็จะไปยื่นหนังสือให้นายกฯพิจารณาสิทธิการให้บริการ โทรศัพท์ระหว่างประเทศด้วยเช่นเดียวกันในวันนี้ (27 ก.ค.) โดยจะมีพนักงาน ทศท เข้าร่วมประมาณ 500 คน หลังจากนั้นจะมีการพิจารณากับพนักงาน ทศท ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หาก กสท มีการพาดพิง จนส่งผลให้ทศทเสียหาย

"ตอนนี้สหภาพฯมีความพร้อมในการเคลื่อนไหว อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถที่มีอยู่ 30 คัน การกระจายเสียงให้พนักงานทั่วประเทศรับทราบ และรวมตัวกัน หากเห็นว่าการชุมนุมของ กสท เข้าข่ายทำให้ ทศท เสียหาย และที่ผ่านมา สหภาพทศทฯก็ได้ชี้แจงข้อมูล ที่ถูกต้องไปยังที่ทำการของทศททั่วประเทศแล้ว"

ด้านน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของพนักงานหากไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนก็อยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่การ เคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการรักษาผลประโยชน์องค์กร มากกว่าคิดถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

"ตอนผู้บริหารกสทไม่จัดการปัญหาโทร.เถื่อนที่ทำให้กสทรายได้หายไปปีละหลายพันล้านบาท ทำไมสหภาพฯไม่ประท้วงบ้าง"

เขาย้ำว่าไม่เข้าใจว่าพนักงานกสทต้องการผูกขาดการให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศต่อไปหรืออย่างไร เพราะเมื่อเกิดกทช.ก็จะเกิดการแข่งขันเสรีอยู่ดี การให้แข่งขันกับทศทในปัจจุบันก็ไม่เรียกว่า เสรีเต็มที่เพราะต้องผ่านเกตเวย์กสทอยู่ดี ขนาดนี้ยังกลัวถ้าแข่งขันเสรีเต็มที่ให้ผ่านเกตเวย์ใครก็ได้ไม่หนักยิ่งกว่านี้หรือ

ส่วนผลประโยชน์ที่ว่าตกกับเอไอเอสหรือ ต้องรับต้นทุนเกตเวย์ตามที่สหภาพฯกสทกล่าวอ้าง น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่าเงินหรือผลประโยชน์ที่ว่าจะไปตกกับพ่อ แม่หรือครอบครัวที่ไม่กล้าโทรศัพท์ไปหาลูกต่างประเทศ หรือนักธุรกิจที่ติดต่อต่างประเทศไม่สะดวกเพราะค่าโทรศัพท์ต่างประเทศแพง ผลประโยชน์จะตกกับคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ที่กล่าวอ้างกันมา ส่วนต้นทุนเกตเวย์ กสทไม่เคยเอาข้อมูลต้นทุนที่แท้ จริงมาชี้แจงให้เห็น ซึ่งต้องถามกลับว่ามีประสิทธิภาพ ในการบริหารต้นทุนมากน้อยแค่ไหนมากกว่า

"สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยกเหตุผลมาอ้างเพื่อสร้าง ความชอบธรรม ในการเคลื่อนไหว แท้จริงแล้วกสทมีประสิทธิภาพองค์กรมากน้อยแค่ไหน"

เขาย้ำว่านโยบายดังกล่าวเกิดจากการประชุมร่วมระหว่าง 2 บอร์ดและนายกฯก็ไม่ได้สั่งลงมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ให้ซ้อมแข่งขันเพื่อรอรับการแข่งขันเสรีภาย หลังเกิดกทช. และเมื่อดูตัวอย่างจากต่างประเทศอย่าง KDDI ประเทศญี่ปุ่นเดิมก็มีรายได้หลักจากการให้บริการโทรศัพท์ต่างประเทศ แต่เมื่อเปิดเสรี KDDI ก็ปรับตัวเหลือสัดส่วนรายได้เพียง 20% โดยไปเพิ่มรายได้ในส่วนการให้บริการโทรศัพท์มือถือแทน ส่วนกสทนั้นในแง่นักลงทุนมองเรื่องความสามารถในการ หาบริการใหม่ๆ และโอกาสรายได้ในอนาคตมากกว่า รายได้ที่เกิดจากการผูกขาด

"ถามว่าผู้บริหารและพนักงานกสท มีฝีมือหรือ ไม่ที่จะหาบริการใหม่ๆ เข้ามา เรื่องเกตเวย์บริหารต้นทุนไม่เป็นหรือเปล่า ถึงได้แพงกว่าคนอื่น"