|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ปุ๋ยเอ็นเอฟซีรับประสานรอยร้าวหลังผู้ถือหุ้นใหม่ป่วน หวังยุติความขัดแย้งก่อนที่บริษัทจะออกจากกระบวนการฟื้นฟู แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง 29 ก.ค.นี้ ยันไม่ก้าวก่ายการซื้อขายหุ้นบสท. ด้าน "สมเจตน์" ยันบสท.ถือหุ้นแต่ไม่บริหาร
จากกรณีที่นายณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งซีอีโอ หลังคณะ กรรมการบสท.ลงมติไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ 17.35% ตามที่นายณัฐภพได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) นายชำนิ จันทร์ฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เจ.มอร์แกน จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผน ฟื้นฟูกิจการบริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) เปิดเผยว่า จะทำหน้าที่ประสานรอยร้าว และทำความเข้าใจกับนักลงทุนทุกฝ่าย เพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อนที่บริษัทฯจะออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการในวันที่ 9 กันยายนนี้
"ในฐานะผู้บริหารแผนฯแล้วรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความสับสน และไม่มั่นใจให้กับพนักงานที่มีจำนวน 600 คน ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารแผนฯก็อยาก ให้มีความชัดเจน และอยากส่งเรือให้ถึงฝั่ง เพราะ NFC ก็มีแผนจะออกจากกระบวนการ ฟื้นฟูกิจการในต้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้หน้าที่ของผู้บริหารแผนฯสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ผมจะแถลงข่าวชี้แจงให้ข้อเท็จจริงในวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมนี้"
ส่วนกรณีที่บสท.จะไม่ขายหุ้น NFC จำนวน 17.35% ให้กับกลุ่มนายณัฐภพนั้น ผู้บริหารแผนฯจะไม่เข้าไปก้าวก่าย และเห็น ว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นที่กลุ่มนักลงทุนใหม่ที่นำมาหยิบยกสร้างความขัดแย้ง เพราะไม่ได้ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ
อย่างไรก็ตาม หากความขัดแย้งดังกล่าวไม่มีวี่แววจะสิ้นสุดลง คงต้องรายงาน ให้ศาลล้มละลายกลางได้รับทราบข้อมูล เพราะเจตนารมณ์ของการฟื้นฟูนั้นเพื่อให้บริษัทฯที่ปรับโครงสร้างหนี้ตามกระบวน การแผนฟื้นฟูฯ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
ส่วนกรณีที่นายณัฐภพ จะไม่รับตำแหน่งซีอีโอนั้น นายชำนิ กล่าวว่า คงต้อง ปรึกษาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง นายดิเรก ฉัตร-พิมลกุล และบสท.เพื่อหาทีมบริหารงานเข้ามาโดยเร็ว เพราะขณะนี้ใกล้ช่วงฤดูนาปรัง จำเป็นต้องกำหนดทิศทางการผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้ปุ๋ย อย่างไรก็ตาม ความเห็นส่วนตัวแล้วต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้บริษัทกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
นอกจากนี้ ผู้บริหารแผนฯได้ปรึกษากับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับความเสียหายจากการปรับโครงสร้างหนี้และลดทุนจดทะเบียน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ด้านนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ยืนยันว่าจะไม่เข้าบริหารปุ๋ยเอ็นเอฟซี โดยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นและจะไม่ขายหุ้นจนกว่าบริษัทจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน และการปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมาบสท.ต้องการ ให้ผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหม่รายใหญ่เป็นผู้บริหารอยู่แล้ว
"หากคุณณัฐภพไม่รับบริหาร ผู้บริหาร แผนก็ต้องหาคนอื่นมา ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นใหม่ ส่วนเราไม่มี ปัญหาก็ดูกันไปว่าใครจะใจแข็งกว่ากัน" นายสมเจตน์ กล่าว
แหล่งข่าวจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลที่บสท.ไม่ขายหุ้นว่า การปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา บสท.ขาดทุนประมาณ 6.8 พันล้านบาท และหนี้ที่แปลงเป็นทุนประมาณ 40 กว่าล้านหุ้น ถ้าขายในราคา 11.50 บาทต่อหุ้น จะทำให้บสท.ได้เงิน เพียง 460 ล้านหุ้น บสท.ก็ขาดทุน แต่ถ้าไม่ขายมูลค่าหุ้นในอนาคตจะเพิ่มขึ้น การขาดทุนอาจจะลดลง
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากนายณัฐภพมีความขัดแย้งกับนายดิเรก ฉัตร-พิมลกุล ทั้งๆ ที่เคยเป็นพันธมิตรร่วมทุนกันมาก่อน สำหรับสัดส่วนผุ้ถือหุ้นก่อนที่จะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น ประกอบด้วยอันดับ 1. นายณัฐภพ 39.73% 2. นายดิเรก 32.36% 3. บสท. 17.35% 4. นายวิชัย ทองแตง 8.04% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นราย ย่อย
|
|
|
|
|