Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 กรกฎาคม 2547
ผู้บริหารแผนขอหย่าศึกปัญหาผู้ถือหุ้น "ปุ๋ยNFC"             
 


   
www resources

โฮมเพจ ปุ๋ยเอ็นเอฟซี

   
search resources

ปุ๋ยแห่งชาติ
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
ซี.เจ. มอร์แกน, บจก.
สมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ
ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี
ดิเรก ฉัตรพิมลกุล
ปุ๋ยเอ็นเอฟซี, บมจ.




ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ปุ๋ยเอ็นเอฟซีรับประสานรอยร้าวหลังผู้ถือหุ้นใหม่ป่วน หวังยุติความขัดแย้งก่อนที่บริษัทจะออกจากกระบวนการฟื้นฟู แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง 29 ก.ค.นี้ ยันไม่ก้าวก่ายการซื้อขายหุ้นบสท. ด้าน "สมเจตน์" ยันบสท.ถือหุ้นแต่ไม่บริหาร

จากกรณีที่นายณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งซีอีโอ หลังคณะ กรรมการบสท.ลงมติไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ 17.35% ตามที่นายณัฐภพได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) นายชำนิ จันทร์ฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เจ.มอร์แกน จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผน ฟื้นฟูกิจการบริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) เปิดเผยว่า จะทำหน้าที่ประสานรอยร้าว และทำความเข้าใจกับนักลงทุนทุกฝ่าย เพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อนที่บริษัทฯจะออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการในวันที่ 9 กันยายนนี้

"ในฐานะผู้บริหารแผนฯแล้วรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความสับสน และไม่มั่นใจให้กับพนักงานที่มีจำนวน 600 คน ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารแผนฯก็อยาก ให้มีความชัดเจน และอยากส่งเรือให้ถึงฝั่ง เพราะ NFC ก็มีแผนจะออกจากกระบวนการ ฟื้นฟูกิจการในต้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้หน้าที่ของผู้บริหารแผนฯสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ผมจะแถลงข่าวชี้แจงให้ข้อเท็จจริงในวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมนี้"

ส่วนกรณีที่บสท.จะไม่ขายหุ้น NFC จำนวน 17.35% ให้กับกลุ่มนายณัฐภพนั้น ผู้บริหารแผนฯจะไม่เข้าไปก้าวก่าย และเห็น ว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นที่กลุ่มนักลงทุนใหม่ที่นำมาหยิบยกสร้างความขัดแย้ง เพราะไม่ได้ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ

อย่างไรก็ตาม หากความขัดแย้งดังกล่าวไม่มีวี่แววจะสิ้นสุดลง คงต้องรายงาน ให้ศาลล้มละลายกลางได้รับทราบข้อมูล เพราะเจตนารมณ์ของการฟื้นฟูนั้นเพื่อให้บริษัทฯที่ปรับโครงสร้างหนี้ตามกระบวน การแผนฟื้นฟูฯ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

ส่วนกรณีที่นายณัฐภพ จะไม่รับตำแหน่งซีอีโอนั้น นายชำนิ กล่าวว่า คงต้อง ปรึกษาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง นายดิเรก ฉัตร-พิมลกุล และบสท.เพื่อหาทีมบริหารงานเข้ามาโดยเร็ว เพราะขณะนี้ใกล้ช่วงฤดูนาปรัง จำเป็นต้องกำหนดทิศทางการผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้ปุ๋ย อย่างไรก็ตาม ความเห็นส่วนตัวแล้วต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้บริษัทกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

นอกจากนี้ ผู้บริหารแผนฯได้ปรึกษากับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับความเสียหายจากการปรับโครงสร้างหนี้และลดทุนจดทะเบียน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ด้านนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ยืนยันว่าจะไม่เข้าบริหารปุ๋ยเอ็นเอฟซี โดยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นและจะไม่ขายหุ้นจนกว่าบริษัทจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน และการปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมาบสท.ต้องการ ให้ผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหม่รายใหญ่เป็นผู้บริหารอยู่แล้ว

"หากคุณณัฐภพไม่รับบริหาร ผู้บริหาร แผนก็ต้องหาคนอื่นมา ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นใหม่ ส่วนเราไม่มี ปัญหาก็ดูกันไปว่าใครจะใจแข็งกว่ากัน" นายสมเจตน์ กล่าว

แหล่งข่าวจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลที่บสท.ไม่ขายหุ้นว่า การปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา บสท.ขาดทุนประมาณ 6.8 พันล้านบาท และหนี้ที่แปลงเป็นทุนประมาณ 40 กว่าล้านหุ้น ถ้าขายในราคา 11.50 บาทต่อหุ้น จะทำให้บสท.ได้เงิน เพียง 460 ล้านหุ้น บสท.ก็ขาดทุน แต่ถ้าไม่ขายมูลค่าหุ้นในอนาคตจะเพิ่มขึ้น การขาดทุนอาจจะลดลง

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากนายณัฐภพมีความขัดแย้งกับนายดิเรก ฉัตร-พิมลกุล ทั้งๆ ที่เคยเป็นพันธมิตรร่วมทุนกันมาก่อน สำหรับสัดส่วนผุ้ถือหุ้นก่อนที่จะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น ประกอบด้วยอันดับ 1. นายณัฐภพ 39.73% 2. นายดิเรก 32.36% 3. บสท. 17.35% 4. นายวิชัย ทองแตง 8.04% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นราย ย่อย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us