สินเชื่อบ้านครึ่ง ปีหลังแข่งดุ แบงก์พาณิชย์พลิกกลยุทธ์จับลูกค้าหลากรูปแบบ ทั้ง จับมือผู้ประกอบการอัดโปรโมชันจัดแคมเปญ หันมาเพิ่มบริการ เน้นอนุมัติเร็วแทนวิธีการหั่น ดอกเบี้ย แบงก์ทหารไทยเชื่อ แบงก์พาณิชย์จะลดอัตราดอกเบี้ย คงที่ จาก 3 ปี เหลือ 1 ปี หลังเห็นทิศทางดอกเบี้ยชัด เพื่อหลีกเลี่ยงแนวโน้มดอกเบี้ยขึ้น

นายนะเพ็งพาแสง กฤษณา-มระ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยสุทธิในครึ่งปีแรก สามารถปล่อยได้ระดับเดียวกับเป้าหมายประมาณ 12,500 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 25,000 ล้านบาท และยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของธนาคารพาณิชย์ แม้ครึ่งปีแรกภาพ รวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบจะเติบโตได้น้อยกว่าที่ประมาณการก็ตาม

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อได้มาก เพราะว่าฐานลูกค้าของธนาคารมีมาก และการวางแผนการตลาดที่ดี ทั้งนี้ คาดว่าครึ่งปีหลังการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงจะแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น อาจจะมีทั้งการเสนอดอกเบี้ยต่ำเพื่อดึงลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารจะพยายามรักษาดอกเบี้ยในระดับที่แข่งขันได้ และไม่เสนอดอกเบี้ยต่ำที่สุด แต่จะพยายามเพิ่มการ บริการ และการอนุมัติที่รวดเร็วเพียง 3 วัน เป็น การทดแทน ส่วนที่มองกันว่าขณะที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มขึ้น จะส่งผลให้ธนาคารต้องเพิ่มดอกเบี้ย สินเชื่อที่อยู่อาศัย และเสนออัตราคงที่ลดลงนั้น ขณะนี้ธนาคารเองยังจะใช้ดอกเบี้ยอัตราเดิมอยู่ คือคงที่สูงสุด 3 ปี และจะยังไม่เปลี่ยนแปลงดอก เบี้ยแต่อย่างใด

นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัด การใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และรองประธาน สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ยอดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งปีแรก ธนาคารสามารถทำได้ระดับเดียวกับเป้าหมาย คือปล่อยได้ 7,500 ล้านบาท จากเป้าหมายตลอดปี 15,000 ล้านบาท ส่วนการที่ธนาคารหลายแห่งปล่อยสินเชื่อได้ต่ำกว่าเป้าหมายนั้น อาจมาจากการประมาณการของ ธนาคารแต่ละที่ที่มีมากน้อยไม่เท่ากัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบการปล่อยสินเชื่อปี นี้กับปีที่แล้ว พบว่ามีการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งทั้งปีปล่อยกู้ได้ 200,000 ล้านบาท สำหรับการแข่งขันยังคงรุนแรงอยู่ เพราะธนาคารทุกแห่ง จะต้องเร่งปล่อยสินเชื่อมากตามภาพเติบโตจากสินเชื่อบ้านจากปี 46 โดยการแข่งขันดอกเบี้ยยังคงเป็นกลยุทธ์หลัก แต่จะเริ่มเห็นดอกเบี้ยคง ที่น้อยลง อาจจะเห็นจากดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เหลือ 1 ปี

นายมนตรี วิศลดิลกพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารทหารไทย กล่าวว่าครึ่ง ปีแรกธนาคารปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด อสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ ซึ่งไม่ค่อยขยายตัวมาก นัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่ได้เร่งโอนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะขยายตัวได้ดีมากขึ้น เพราะมีความชัดเจนถึงทิศทางดอกเบี้ยว่าจะไม่เปลี่ยน แปลงตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงครึ่งปีหลังนี้สถาบันการเงินหลายแห่งจะแข่งขันปล่อยสินเชื่อบ้านที่รุนแรงอยู่ แต่ว่าการใช้กลยุทธ์ตัดราคาดอกเบี้ยจะมีน้อยลง โดยเฉพาะการเสนอดอกเบี้ยคงที่จากปัจจุบันที่เฉลี่ยอยู่ที่ 3 ปี อาจลดลงเหลือเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงแนว โน้มดอกเบี้ยที่จะขึ้น

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่าย อาวุโส ผู้บริหารฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ครึ่งปีหลัง ธนาคารพาณิชย์จะแข่งขันให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยกันอย่างดุเดือดที่สุด เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารพาณิชย์ หลายแห่งปล่อยสินเชื่อได้ต่ำกว่าเป้าหมายมาก

โดยในส่วนการปล่อยสินเชื่อบ้านของธนาคารกสิกรไทยใน 6 เดือนแรกได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ถึง 22,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ปล่อยกู้ได้น้อยเพราะ ลูกค้าธนาคารส่วนใหญ่ได้มีการโอนตั้งแต่ปีก่อน แล้ว แต่ธนาคารจะไม่มีการปรับลดเป้าหมายลง เนื่องจากมั่นใจว่าครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้สูงกว่า 6 เดือนแรก อีกทั้งช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาธนาคารได้ประมาณการปล่อยสินเชื่อบ้านแค่ 9,000 ล้านบาทเท่านั้น

ทั้งนี้ ครึ่งปีหลังนี้ธนาคารจำเป็นต้องมีการ ออกโปรโมชันจัดแคมเปญร่วมกับผู้ประกอบการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น ซึ่งจะถือเป็นกลยุทธ์หลักของแบงก์พาณิชย์หลายๆ แห่งด้วย โดยเรื่องการแข่งขันดอกเบี้ยคงจะไม่กล้าทำได้มากนัก เพราะจะเสี่ยงต่อการบริหารพอร์ตสินเชื่อ ขณะที่ดอกเบี้ยอยู่ช่วงขาขึ้น

นายประวิทย์ องค์วัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า ยอดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารช่วงครึ่ง ปีแรกได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ซึ่งปล่อยได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท

โดยช่วงไตรมาสแรกแทบไม่มีสินเชื่อใหม่เข้าเลย แต่หลังจากนั้นยอดสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เริ่มขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปล่อยสินเชื่อแบบ ทั้งโครงการ ธนาคารเชื่อว่าการร่วมทำโครงการสินเชื่อกับผู้ประกอบอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อบ้านได้ตามเป้าหมายเมื่อถึงสิ้นปี ส่วนการตัดราคาดอกเบี้ย ธนาคารจะพยายามรักษาให้อยู่ราคาตลาด แต่หากมีธนาคาร แห่งไหนตัดราคาขึ้นมา นครหลวงไทยก็พร้อมตัดราคาตามด้วยทันที