Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 กรกฎาคม 2547
ศาลนัดพิจารณาแผนฯTGPROวันนี้เจ้าหนี้แปลงเป็นทุนแถมลดดอกเบี้ย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ไทย-เยอรมัน โปรดักส์,บมจ
ศาลล้มละลายกลาง




TGPRO เดินหน้าแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการรอบ 3 ศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาวันนี้ (23 ก.ค.) เจ้าหนี้ยอมเฉือนเนื้อแปลงหนี้เป็นทุน หั่นดอกเบี้ย คาดสามารถปลดเปลื้องหนี้สินได้ภายใน 10 ปี

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TGPRO) เปิดเผยว่า TGPRO เตรียมเสนอแผนฟื้นฟูฉบับ แก้ไขครั้งที่ 3 ให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณาในวันนี้ (23 กรกฎาคม) โดยแผนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ด้วยคะแนนเสียง 84% ของเจ้าหนี้ทั้งหมด และการแก้ไข ครั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย เกี่ยวกับมูลจำนองและราคาประเมินทรัพย์สิน

สำหรับสาระสำคัญแผนจะมีการ จัดสรรหนี้ให้กับเจ้าหนี้แต่ละกลุ่มดังนี้คือ หนี้ประเภท ก จำนวนเงินต้น 178.23 ล้านบาท จำนวนเงินใหม่ 178.23 ล้านบาท บริษัทจะชำระหนี้จาก เงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสินทรัพย์รองหรือโอนสินทรัพย์รองให้แก่เจ้าหนี้ที่มีสินทรัพย์รองเป็นหลักประกัน จะมีการชำระคืนภายใน 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2543

ส่วนหนี้ประเภท ข 1 จำนวนเงินต้น 1,147.21 ล้านบาท จำนวนเงิน ใหม่ 613.88 ล้านบาท เป็นหนี้ที่จัดสรร ตามราคาบังคับขาย และไม่เกินวงเงิน หลักประกันของสินทรัพย์หลักและสินค้าคงคลังที่เป็นหลักประกัน จะชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้ ข 1 เป็นทุน เป็นจำนวน 534.10 ล้านบาท

หนี้ประเภท ข 2 จำนวนเงินต้น 200 ล้านบาท จำนวนเงินใหม่ 106.88 ล้านบาท เป็นหนี้ที่จัดสรรให้เจ้าหนี้ที่สนับสนุนวงเงินสินเชื่อใหม่ ส่วนวิธีการชะรำหนี้จะแปลงหนี้ ข 2 เป็นทุน จำนวน 93.11 ล้านบาท สำหรับหนี้ประเภท ข 3 จำนวนเงินต้น 1,027.78 ล้านบาท จำนวนเงินใหม่ 80 ล้านบาท เป็นหนี้ที่จัดสรรให้กับเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ส่วนรูปแบบการคืนหนี้ ข 3 เป็นทุนเป็นจำนวนเงิน 947.78 ล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนหนี้เงินต้นในส่วนของประเภท ข รวมกันมีจำนวน 2,375 ล้านบาท จำนวนเงินใหม่ที่ต้องชำระคืน 800 ล้านบาท

ส่วนหนี้ในประเภท ค แบ่งเป็น ค 1 จำนวนเงินต้น 175.65 ล้านบาท ส่วนประเภท ค 2 จำนวนเงินต้น 1,901.14 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 2,076.80 ล้านบาท จะทำการปลดหนี้ทั้งหมด และสุดท้ายหนี้ในประเภท ง จำนวนเงินต้น 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็น หุ้นกู้แปลงสภาพ จะมีการบังคับให้แปลงสภาพทั้งหมด

ทั้งนี้ ในการชำระหนี้เงินต้นประเภท ข ภายในแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขครั้งที่ 3 จำนวนเงินทั้งหมด 800 ล้านบาท จะคืนนี้ภายใน 9 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2549-2557 โดยในปี 2549 คืนหนี้จำนวน 40 ล้านบาท ปี 2550 คืนหนี้ 60 ล้านบาท และตั้งแต่ปี 2551-2557 ชำระเงินต้นคืนปีละ 100 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า ในแผนฟื้นฟูฉบับนี้ การดำเนินการเกี่ยวกับดอกเบี้ย จะคืนหนี้ในส่วนที่เป็นอัตราดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ในอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) และให้ชำระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปี 2547 และ 2548 ในอัตราดอกเบี้ย 2% และ 3% โดยส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ย MLR และอัตราดอกเบี้ยที่ชำระจริงดังกล่าวให้ตั้งพักชำระในปีที่ 10 หลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนดังกล่าว

สำหรับการออกหุ้นสามัญเพิ่มเติม ให้มีการแปลสภาพหุ้นกู้แปลงสภาพ # 2 (CD#2) ที่ถือโดยผู้บริหารแผน 50 ล้านหุ้น เป็น 34.16 ล้านหุ้น โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ ทันที 17.08 ล้านหุ้น และส่วนที่เหลือ 17.08 ล้านหุ้น จะออกหุ้นสามัญให้เมื่อบริษัทชำระเงินต้นเงินประเภท ข ได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท

ส่วนการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญให้กับผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทในโครงการ ESOP จำนวน 17.08 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นในแต่ละหน่วยมีสิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หน่วย ในราคาหุ้นละ 3 บาท ภายใน 5 ปี นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ

นอกจากนี้ TGPRO ยังจะมีการลดมูลค่าหุ้น หลังจากที่ดำเนินการเพิ่มทุนและลดทุนจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โดยจะลดมูลค่าหุ้น (พาร์) เดิมจาก 10 บาท เป็น 1 บาท

สำหรับสัญญาซื้อหุ้นคืนจากเจ้าหนี้ ในระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบแผนครั้งที่ 3 เจ้าหนี้ซึ่งได้ซื้อหุ้นสามัญจากการแปลงหนี้ประเภท ข เป็นทุน และจากการแปลงสภาพหุ้นกู้ #1 (หนี้ประเภท ง) จะจำหน่ายให้กับผู้บริหาร แผนเป็นจำนวน 35% ตามราคาดังนี้คือ ก. ราคาหุ้นละ 1.71 บาท หาก เป็น การซื้อหุ้นคืนก่อนวันที่หุ้นของบริษัทกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตามปกติ และ ข ราคาหุ้นละ 1.71 บาท หรือ 80% ของราคาปิด เฉลี่ยการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงระยะเวลา 5 วันทำการก่อนวันที่ผู้บริหารแผนแจ้งการซื้อแล้วแต่ราคาใดจะสูงกว่า หากเป็นการ ซื้อหุ้นคืนหลังจากหุ้นของบริษัทกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลัก ทรัพย์ฯตามปกติ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us