|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บอร์ดบริษัทบางจาก จำกัด (มหาชน) (BCP) เดินหน้าปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ชู 5 ยุทธศาสตร์ เพื่อผลักดันให้บางจากเป็นผู้นำตลาดในด้านพลังงานทดแทน พร้อมผ่าโครงสร้างการบริหารออกเป็น 5 สายงาน เตรียมเปิดรับสมัครรองกรรมการใหญ่ผู้จัดการภายใน 2 สัปดาห์ นี้ เปิดทางลูกหม้อสมัคร ส่วนเอ็มดียังไร้ข้อสรุป
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท ได้ประชุมเพื่อสรุปแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจใหม่ หลังการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ประสบความสำเร็จ เพื่อผลักดันให้โรงกลั่นบางจากมีผลการ ดำเนินงานที่ดีขึ้น
สำหรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของ BCP ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์คือ 1. การมุ่งสู่การใช้โรงกลั่นอย่างเต็มประสิทธิภาพ 2. ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรหลักคือ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) 3. มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน 4. จัดองค์กร ใหม่ให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 5. สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท
"เราได้มีการหารือในบอร์ด ถึงยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ที่จะผลักดันบริษัทบางจากให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต ซึ่งจะมีการจัดสัมมนาอีกครั้งในระหว่างเดือนสิงหาคม เพื่อลงในรายละเอียดว่าเราจะทำอย่างไรให้สามารถทำได้อย่างที่ยุทธศาสตร์กำหนด" นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทบางจาก จะให้ความสำคัญในการผลิตน้ำมันที่เป็นพลังงานทางเลือกไม่ว่าจะมาจากกากพืช ก๊าซโซฮอล์มากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการลดการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ บอร์ดบริษัทบางจากยังได้อนุมัติในการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของบริษัทใหม่โดยโครงสร้างใหม่จะแบ่งออกเป็น 5 สายงาน ประกอบด้วย 1. สายงานด้านการตลาด ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนที่เป็นร้านค้า และส่วนที่เป็นปั๊มน้ำมัน 2. สายงานด้านการเงิน 3. สายงานด้านโรงกลั่น 4. สายงานบริหาร และ 5. สายงานวางแผนกลยุทธ์
ทั้งนี้ ในแต่ละสายงานจะมีรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ขึ้นมาดูแลรับผิดชอบตามสายงานที่รับผิดชอบ โดยบริษัทเตรียมเปิดรับสมัครให้คนในเข้ามาสมัครคัดเลือกเพื่อที่จะยกระดับให้รูปแบบการให้บริการของบริษัทมีความทันสมัย โดยผู้ที่จะเข้ามาสมัครเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ จะมีสัญญาการว่าจ้าง 3 ปี และแต่ละคนต้องกำหนดวิสัยทัศน์ในการทำงาน เพื่อเป็นเครื่องชี้วัดในการประเมินผล งาน ส่วนกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ (เอ็มดี) ยังไม่ได้ข้อสรุป
ส่วนผลการดำเนินงานของ BCP ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 18,469 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 1,057 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ (หักลบดอกเบี้ยรับ) 235 ล้านบาท มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 183 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 646 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท
|
|
|
|
|