Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 กรกฎาคม 2547
FNS ดัน BFIT เข้าตลาดหลักทรัพย์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ฟินันซ่า, บง.
ฟินันซ่า, บมจ.
DS Prudential
ดีเอส พรูเดนเชียล แมเนจเม้นท์
Banking and Finance




FNS แต่งตั้ง "ดีเอส พรูเดนเชียล แมเนจเมนท์" เข้าตรวจสอบรายการเกี่ยวโยงกันเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพของ BFIT จำนวน 298.5 ล้านบาท พร้อมปล่อยเงินกู้ให้ BFITSEC จำนวน 300 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ขณะที่ดีลการควบรวมกันระหว่าง FC และ BFITอยู่ในระหว่างยื่นขออนุมัติเข้าทำรายการ ดังกล่าวต่อธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อยกสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์

นางเบญจมาศ บุญประคอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอส พรูเดนเชียล แมเนจเมนท์ จำกัด เผยว่า บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS) ได้แต่งตั้งให้บริษัท ดีเอส พรูเดนเชียล แมเนจเมนท์ จำกัด (DSP) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อตรวจสอบรายการเกี่ยวโยงกับการเข้าลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพ ของบริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (BFITSEC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) (BFIT) เป็นจำนวนเงิน 298.5 ล้านบาท และให้เงินกู้ยืมแก่ BFITSEC เป็นจำนวนเงิน 300 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 598.5 ล้านบาท

DSP มีความเห็นว่า การที่ FNS ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ BFITSEC โดยลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพและให้กู้ยืมเงินนั้น แม้จะเป็นการให้ความช่วยเหลือแบบด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกัน แต่เป็นการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน และการเจริญเติบโตให้แก่ BFITSEC ซึ่งเป็นบริษัทที่ FNS จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ผ่าน BFIT ซึ่งผลประกอบ การของ BFITSEC ในระยะที่ผ่านมาก็ดีขึ้นเป็นลำดับ

สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ FNS จะได้รับนั้นสูงกว่าอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์หมุนเวียนส่วนใหญ่ของ FNS และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของ FNS เนื่องจากหุ้นกู้แปลงสภาพและเงินให้กู้ยืมดังกล่าวให้สิทธิแก่ FNS ที่จะแปลงสภาพเป็นเงินลงทุนใน BFITSEC และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยที่ FNS ได้รับจึงอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ บล. บีฟิท เป็นการช่วยสนับสนุนให้ บล. บีฟิท สามารถขยายธุรกิจได้โดยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และช่วยสนับสนุนแผนการนำ บล. บีฟิท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ บง. กรุงเทพธนาทรได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ดังกล่าว FNS จะใช้เงินทุนที่ได้รับจากการดำเนินงาน หรือจากการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิของ FNS โดยปัจจุบันคงเหลือ 99,990,000 หน่วย ทำให้ FNS คงเหลือเงินที่อาจได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นอีกประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ BFITSEC ได้

ลักษณะของรายการดังกล่าวจึงเป็นการให้ความสนับสนุนและช่วยเหลือทางการเงินแก่ บล. บีพิท ในฐานะบริษัทย่อยของ บง. กรุงเทพธนาทร ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ของบริษัทฯ ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS) ได้มีมติอนุมัติการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทเงินทุน ฟินันซ่า จำกัด (FC) ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของ FNS ที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว กับบริษัทเงิน ทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน)(BFIT) เพื่อยก สถานะบริษัทเงินทุนภายหลังการควบรวมกิจการเป็น ธนาคารพาณิชย์และเพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทพัฒนา ระบบสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย

โดย FNS จะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BFIT จำนวน 99,900,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 49.97% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 12.78 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,276.72 ล้านบาท และ FNS จะขายหุ้นสามัญของ FC ให้แก่ BFIT จำนวน 9,017,994 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 99.97% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ในราคาประมาณ หุ้นละ 76.19 บาท รวมมูลค่า 687.12 ล้านบาท

โดยขณะนี้ FNS และ BFIT อยู่ในระหว่างจัดทำแผนและเตรียมยื่นขออนุมัติเข้าทำรายการดังกล่าวต่อธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึง BFIT และ FNS ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานเพื่อรองรับการควบรวมกิจการดังกล่าวแล้ว โดย FNS ได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการและผู้บริหารของ BFITหากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติการควบรวมกิจการจะทำให้ FNS กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BFIT ในอนาคต

สำหรับรายละเอียดของรายการที่เกี่ยวโยงกัน FNS จะเข้าลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิแปลงสภาพของ BFITSEC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BFIT จำนวน 29,850 หน่วย ในราคาหน่วยละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 298.5 ล้านบาท และให้เงินกู้ยืมแก่ BFITSEC ในรูปหนี้ด้อยสิทธิเป็นจำนวนเงิน 300 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us