โจนส์ แลง ลาซาลล์ ชี้บ้านหรูราคา 7 ล้านบาทขึ้นยังไม่ล้นตลาด ระบุ 5 เดือนแรกมีสินค้าระบายออกสู่ตลาด 5,200 ยูนิต ขายได้ 61% คาดครึ่งปีหลังมีสินค้าใหม่ทะลักอีก 2,666 ยูนิต พื้นที่โซนตะวันตกจำนวนบ้านหรูมากที่สุด 1,500 ยูนิต พร้อมแนะผู้ประกอบการ เลือกรูปแบบบ้านตรงใจลูกค้าระดับบนมากที่สุดยอดขายฉลุย
นายล่องลม บุนนาค ประธานกรรมการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงตลาด บ้านเดี่ยวระดับบน ราคาตั้งแต่ 7 ล้าน บาทขึ้นไปว่า จากผลการวิจัยของบริษัท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2547 ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มีโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 68 โครงการ จำนวน 5,200 ยูนิต ซึ่งในจำนวนดังกล่าวสามารถขายไปแล้วประมาณ 61% ซึ่งหากเทียบกับโครงการที่เปิดตัวก่อนปี 2547 ที่ผ่านมามียอดขายเฉลี่ย 76%
โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ 5 อันดับ ได้แก่ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาด 13% มีจำนวน 9 โครงการ, บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ส่วนแบ่งตลาด 10% มีจำนวน 7 โครงการ, บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีส่วนแบ่ง 9% มีจำนวน 6 โครงการ, บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) 7% จำนวน 5 โครงการและ บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ส่วนแบ่ง 6% มี 4 โครงการ
"โดยรวมแล้วในช่วงที่ผ่านมา นับได้ว่าตลาดบ้านเดี่ยวระดับหรูในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล มีผลประกอบ การที่ดี ความต้องการในตลาดอยู่ในระดับที่เติบโตตามสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังรวมถึงปัจจัย ทางด้านอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ขณะนี้ครอบครัวที่มีรายได้ประมาณ 1,110,000 บาท สามารถซื้อ บ้านในราคา 7 ล้านบาท ได้ คือผ่อนเดือนละ 38,000 บาท และที่สำคัญคือ การซื้อขายที่เกิดขึ้นเป็นการซื้อเพื่อ อยู่เอง แทบจะไม่มีการซื้อโดยนักเก็งกำไร" นายล่องลม กล่าว
นายล่องลม กล่าวต่อว่า แม้ว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จะมีจำนวนยูนิตเหลือขายประมาณ 2,000 กว่ายูนิต ซึ่งต้องใช้เวลาในการขายไปอีกหลายเดือน เนื่องจากบางโครงการอาจตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยสะดวก หรือชนิดของบ้านและคอนเซ็ปต์ของโครงการอาจไม่เป็นที่นิยมสำหรับตลาด ในทำเลนั้นๆ
นอกจากนี้ โจนส์ แลงยังคาดว่านับจากเดือนพฤษภาคมไปอีก 12 เดือน จะมีโครงการบ้านหรูเกิดขึ้นใหม่ อีกประมาณ 2,666 ยูนิต โดยแบ่งเป็น โครงการที่เปิดเฟสต่อเนื่อง ประมาณ 1,800 ยูนิตโครงการเปิดใหม่ประมาณ 800 ยูนิต ซึ่งหากรวมกับจำนวนยูนิตที่เหลือขายแล้วจะมีประมาณ 5,000 ยูนิต ทำให้เชื่อว่าจำนวนยูนิตระดับดังกล่าวถือว่ามีความสมดุลกับความต้องการของตลาด
"หากมองที่ตัวเลขจำนวนบ้านใหม่ ที่จะเปิดตัวเพิ่มเข้ามาอีก 12 เดือนข้างหน้า สภาวะโอเวอร์ซัปพลายเป็นเรื่องที่สามารถคาดหมายได้ในระยะสั้น แต่ความรุนแรงของภาวะดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการตอบสนองต่อการขยายตัวของอุปทานในตลาดอย่างไร ผู้ประกอบการของโครงการที่มีอยู่เดิมอาจชะลอการเปิดเฟสใหม่ในโครงการออกไป หรือที่วางแผนจะขึ้น โครงการใหม่อาจชะลอแผนไว้ก่อนได้ นอกจากว่าผู้ประกอบการรายใดจะมีความมั่นใจในความสามารถในการแข่งขันของโครงการจึงจะเดินหน้าต่อ" นายล่องลม กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากลำดับการกระจายโครงการของจำนวนบ้านเดี่ยวระดับหรูโซนต่างๆ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2547 อันดับ 1 เป็นโซนตะวันตก เป็นพื้นที่ที่มีจำนวนบ้านเดี่ยวระดับหรูมากที่สุดคือกว่า 1,500 ยูนิต และมียอดขายเฉลี่ยที่ 62% โดย จำนวนยอดขายที่ไม่สูงมาก เนื่องจาก จำนวนโครงการบ้านหรูได้เปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯชั้นในได้ ง่าย หลังจากที่รัฐบาลได้ก่อสร้างถนน ตากสิน-เพชรเกษม-รัตนาธิเบศร์เสร็จลง นอกจากนี้โซนตะวันตกยังจัดเป็นพื้นที่สีเขียว จึงเป็นทำเลชั้นดีสำหรับการอยู่อาศัย
อันดับ 2 โซนเหนือ ครอบคลุม พื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา จากด้านเหนือลงไปถึงถนนลำลูกกา มี บ้านเดี่ยวระดับหรูในโครงการต่างๆ รวม เกือบ 1,400 ยูนิต และมียอดขายรวม 74% การมีโครงการข่ายถนนที่สะดวก สภาพแวดล้อมที่ดีและราคาขายที่ไม่สูง มากนัก เป็นจุดเด่นสำคัญของโซนนี้
อันดับ 3 โซนตะวันออก ครอบ คลุมพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นไปจนถึงถนน สุขาภิบาล 3 มีบ้านเดี่ยวระดับหรูรวม ประมาณ 1,050 ยูนิต และมียอดขายรวม 48% ซึ่งเป็นยอดที่ค่อนข้างต่ำ แม้ จะอยู่ในทำเลที่ใกล้กับเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน เนื่องจากมีบ้านเดี่ยวระดับหรูจำนวนมากเปิดตัวใหม่ในย่านนี้
อันดับที่ 4 โซนตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ย่านหนองจอก มีนบุรีและบางกะปิ มีจำนวน 827 หน่วย มียอดขายที่ 51% ซึ่งเป็นยอดที่สูงเนื่องจากในปีนี้มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก อันดับ 5 โซนใต้ แถบถนนสุขสวัสดิ์ บางมด ท่าข้าม ประชาอุทิศ พุทธบูชา และมหาชัย มีบ้านเดี่ยวระดับหรู 355 ยูนิต และมียอดขายรวม 66% ทำเลนี้มีโครงการไม่มาก เนื่องจาก เป็นย่านโรงงานอุตสาหกรรม และไม่มี โครงการสาธารณูปโภคใหม่ๆ
นายล่องลม กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการที่จะมาพัฒนาโครงการบ้านระดับหรู และคาดหมายว่าจะสามารถ ขายโครงการได้ดี ปัจจัยสำคัญต้องมา จากทำเลที่ดี รูปแบบบ้านและคอนเซ็ปต์ โครงการ ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาตลาดนี้ จะต้องหาคอนเซ็ปต์ของโครงการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด อีกทั้งอยู่บน ทำเลที่ดีจึงจะขายได้
|