Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 กรกฎาคม 2547
ทุนนอกผุดบริษัทอสังหาฯซื้อสนามกอล์ฟเพิ่ม2แห่ง             
 


   
search resources

Sports
สยามกอล์ฟ พร็อพเพอร์ตี้ส์
ชมิดต์ เคอร์เลย์ ดีไซน์
เคลลี่ เชอร์โควสกี้
ลี ชมิดต์




สยามกอล์ฟ พร็อพเพอร์ตี้ส์ เจ้าของสนาม กอล์ฟเมืองแก้ว เตรียมผุดโครงการอสังหาฯครบวงจร บ้านเดี่ยว-คอนโดฯ 500 ยูนิต โรงเรียนนานาชาติ ทั้งอยู่ระหว่างเจรจาซื้อสนามกอล์ฟอีก 2 แห่ง ชี้อีก 3 ปีเกิดสนามกอล์ฟใหม่ 25 แห่ง ระบุธุรกิจสนามกอล์ฟไม่เกิดฟองสบู่ เหตุคนไทยนิยมเล่นมากขึ้น

นายเคลลี่ เชอร์โควสกี้ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยาม กอล์ฟ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด บริษัทบริหารสนามกอล์ฟแห่ง แรกในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทพัฒนา สนามกอล์ฟ 2 แห่ง คือ สนามกอล์ฟเมือง แก้ว (ถนนบางนา-ตราด กม. 7.7) และศรีราชา กอล์ฟ คลับ ที่พัทยา นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับสนามกอล์ฟอีก 2 แห่ง คาดว่าจะสรุปได้ในอีก 18 เดือนต่อจากนี้ โดยการเจรจาจะเป็น 3 แนวทางคือ การเข้าไปบริหารสนาม, ซื้อกิจการ หรือการร่วมทุนกับเจ้าของเดิม

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โดยรอบของสนามกอล์ฟเมืองแก้ว ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 450 ไร่ (รวมสนามกอล์ฟ) ให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดยภายในโครงการจะมีทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ประมาณ 500 ยูนิต ราคาขายประมาณ 10-25 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีคลับเฮาส์ โรงเรียนนานาชาติ และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นโครงการที่มีทุกอย่างครบถ้วน ส่วนมูลค่าโครงการยังอยู่ระหว่างการวางแผน โดยจะเปิดขายในต้นปีหน้า และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จทั้งหมดประมาณ 5-8 ปี เนื่องจากเป็นโครงการระยะยาว

อย่างไรก็ดี ในปี 2548 สนามบินสุวรรณภูมิจะ เปิดดำเนินการ ซึ่งจะทำให้พื้นที่โดยรอบมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งในเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยจะทำให้ โครงการสนามกอล์ฟเมืองแก้วมีมูลค่าเพิ่มมากตาม ไปด้วย

สำหรับสนามกอล์ฟเมืองแก้ว บริษัทได้ซื้อกิจการมาและทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด และเพื่อให้งานปรับปรุงสนามกอล์ฟมีความสมบูรณ์แบบ บริษัทได้ว่าจ้างทีมสถาปนิกชั้นนำของโลกอย่างชมิดต์-เคอร์เลย์ ดีไซน์ ให้เป็นผู้ออกแบบโครงสร้างสนามให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ออกแบบกรีนใหม่ปรับ สภาพรันเวย์ และเพิ่มหลุมใหม่อีก 5 หลุม เนื่องจาก ชมิดต์-เคอร์เลย์ ดีไซน์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออก แบบสนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง โดยเฉพาะมิชชัน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ ในมณฑลเสิ่นเจิ้น ของประเทศจีน ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีถึง 180 หลุม จากความสำเร็จของสนามกอล์ฟ เมืองแก้ว ชนิดต์-เคอร์เลย์ ดีไซน์ ได้รับความไว้วางใจ ให้ออกแบบโครงการสนามกอล์ฟในประเทศไทยอีก 5 แห่ง

นายลี ชมิดต์ สถาปนิกผู้ออกแบบของบริษัท ชมิดต์ เคอร์เลย์ ดีไซน์ กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการพัฒนาสนามกอล์ฟอีกหลายแห่งที่เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มในแง่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และโครงการนิคมอุต-สาหกรรม ทำให้ภาพรวมของตลาดเกิดความต้องการ ของผู้บริหารมืออาชีพ รวมทั้งผู้ออกแบบสนามและผู้รับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น

สำหรับธุรกิจสนามกอล์ฟในประเทศไทย เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมากอล์ฟในเมืองไทยบูมมาก จนมาสะดุดเมื่อวิกฤตเศรษฐกิจและเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สนามกอล์ฟ จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภูมิประเทศของไทยเหมาะที่จะเล่นกีฬา ประเภทนี้ อีก ทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยว มาพักในเมืองไทยแบบลองสเตย์อีกด้วย

ปัจจุบันไทยมีสนามกอล์ฟจำนวน 180 แห่ง แบ่งเป็นสนามระดับพรีเมียมประมาณ 25-30 แห่ง ที่เหลือเป็นระดับกลางถึงล่าง คิดเป็นสัดส่วนสนามที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากช่วงที่ผ่านมา และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีสนามกอล์ฟเพิ่มขึ้นอีก 25 แห่ง นับว่ามีจำนวนมากเมื่อเทียบกับในภูมิภาคนี้ แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดวิกฤตในธุรกิจสนามกอล์ฟ เนื่องจากแต่ละแห่งมีการใช้งานจริง นอกจากนี้คนไทยยังนิยม เล่นกอล์ฟเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีชาวต่างชาติเข้ามาเล่นก็ยังมีคนไทยมาเล่น

อย่างไรก็ดี สนามกอล์ฟในเมืองไทยยังเป็น ที่นิยมของชาวต่างชาติมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่ดี สามารถเล่นได้ทุกฤดู รวมถึง รัฐบาลยังให้การสนับสนุน ซึ่งต่างจากประเทศคู่แข่งอาทิ จีนติดปัญหาเรื่องของหน่วยงานรัฐ อีกทั้งเป็นประเทศที่มีพื้นที่จำนวนมาก การเดินทางไปท่องเที่ยว ที่ต่างๆ ใช้เวลานาน อากาศหนาวมาก จนเล่นไม่ได้ ส่วนฮ่องกง สิงคโปร์ มีค่าใช้จ่ายสูง ด้านฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งที่สำคัญ แต่ยังติดปัญหาด้านความมั่นคงภายใน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us