|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เจมาร์ทเตรียมยื่นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในเดือน ส.ค.นี้ ด้วยการกระจาย 10 ล้านหุ้น ในไตรมาส 3 พร้อมแผนนำบริษัท ลูก JMT เข้าตลาดในปี 2005 พร้อมความหวังว่าจะเป็นบริษัทที่ทำกำไรให้มากถึง 30-40% ของกำไร รวมทั้งกลุ่มในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจมาร์ท กล่าวว่าเจมาร์ทเตรียมยื่น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (filing) ในเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้เพื่อเตรียมขาย 10 ล้านหุ้นภายในไตรมาส 3 โดย เป็นการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท หลังจาก ที่บริษัทเคยมีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปี 2003 นอกจากนี้ยังได้วางแผนนำ บริษัท JMT Network and Services บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนตามในปี 2005 โดยบริษัทนี้จะเป็นตัวทำกำไร 30-40% ของกำไรรวมในอีก 3 ปีข้างหน้า
เจมาร์ท บริษัทนำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ให้ กับทุกโอเปอเรเตอร์ในตลาดและมีบริษัทลูกรับติดตามหนี้สินที่ครองส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุด ซึ่งการยืดระยะเวลาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกไปกว่า 1 ปี เป็นเพราะภาพรวมตลาดทุนยังไม่นิ่งและการปรับโครงสร้างกิจการภายในยังไม่พร้อมนักอย่างไรก็ตามปัจจุบันปัจจัยแวดล้อม ทุกอย่างเอื้อมากขึ้นแล้วและที่ปรึกษาทางการเงินคือ Asia Plus Securities ก็สนับสนุนให้ระดมทุนในช่วงนี้
เจมาร์ท ดำเนินธุรกิจมา 16 ปีโดยเริ่มต้นจากเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกยี่ห้อ ใน ระบบเงินผ่อน ก่อนขยายช่องทางจำหน่ายเข้าไปในตลาดขายส่ง โดย มีสินค้าหลักคือ โทรทัศน์ เครื่องเล่นวิดีโอ และเครื่องปรับอากาศ ต่อ มาปี 1992 เริ่มดำเนินธุรกิจจัด จำหน่ายสินค้าโทรศัพท์มือถือ ผ่าน ระบบเงินสด ผ่อนชำระ และขายส่ง
เจมาร์ท มีบริษัทลูกที่สำคัญคือ JMT Network and Services บริษัทรับติดตามหนี้ซึ่งดำเนินธุรกิจ มา 9 ปี โดยปัจจุบันมีลูกค้าคือผู้ให้ บริการโทรศัพท์มือถือทุกระบบ ผู้ให้บริการสินเชื่อบุคคลอย่างอิออน อีซี่บายและจีอีแคปปิตอล นอกจาก นี้ เจมาร์ทยังถือหุ้น 45%ใน Global Wireless บริษัทที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ไม่ถึง 1 ปี ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการ พัฒนาคอนเทนต์ ซึ่งหวังไว้ว่าในอนาคตจะสามารถทำแอปพลิเคชั่น หรือคอนเทนต์เพื่อใช้เฉพาะโทรศัพท์ มือถือที่จำหน่ายโดยเจมาร์ท เหมือน อย่างที่กลุ่มสามารถมีไอ-โมบาย
สำหรับรายได้รวมของเจมาร์ท ในปัจจุบันแบ่งเป็น 95% มาจาก เจมาร์ทและ 5% มาจาก JMT ส่วน Global Wireless ยังเพิ่งเริ่มต้นซึ่งในอนาคตจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทโดยรวม ซึ่งในราว 3 ปี คาดว่า JMT จะสร้างผลกำไรให้มากกว่า 30% จากกำไรรวมของกลุ่ม จากที่ทำได้ประมาณ 10% ตอนนี้และหลังจากที่เจมาร์ท กระจาย หุ้นในราวไตรมาสที่สามปีนี้ JMT ก็มีคิวที่จะระดมทุนเป็นตัวต่อไปใน ปี 2005 ด้วย
นายอดิศักดิ์กล่าวว่าเจมาร์ทมีรายได้รวมในปีที่ผ่านมาประมาณ 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ประมาณ 6,000 ล้านบาทถึงแม้คนอาจมองว่ายอดคนซื้อ มือถือจะขยายตัวน้อยลง แต่จุดขายของเจมาร์ทคือมีการดำเนินธุรกิจที่ไม่เหมือนคนอื่น คือเจมาร์ท มีสาขา ไม่ใช่แฟรนไชส์ทำให้ควบคุม คุณภาพได้ดีกว่า และเจมาร์ทมีบริษัทลูกที่มีอนาคตทั้งสองบริษัท
ปัจจุบันเจมาร์ทมี 196 สาขาและมีแผนขยายให้ได้ครบ 210 สาขา ในปีนี้ มียอดขายโทรศัพท์มือถือ 50,000-60,000 เครื่องต่อเดือน
|
|
|
|
|