Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 กรกฎาคม 2547
UMSเทรดวันนี้แอ็ดคินซันให้10.90บ.             
 


   
www resources

โฮมเพจ เคจีไอ (ประเทศไทย)

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ - MAI
เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.
แอ๊ดคินซัน, บล.
ยูนิค ไมนิ่ง
โสภาวดี เลิศมนัสชัย
เจษฎาวัฒน์ เพรียบจริยวัฒน์
สมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์




ยูนิค ไมนิ่ง เทรดวันแรกผู้บริหารมั่นใจหุ้นเหนือจอง บล.เคจีไอ ที่ปรึกษาชี้ธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่องเผย 3 โบรกเกอร์เคาะราคาเป้าหมาย "แอ็ดคินซัน 9.80-10.90 บาท" "ซีมิโก้ 12-13 บาท" "เคจีไอ" ลีดอันเดอร์ไรต์ให้มากสุด 14 บาท ด้านบทวิเคราะห์บล.นครหลวงชี้ธุรกิจถ่านหินยังเติบโตได้ แม้มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องต้นทุนที่อาจผันผวน

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาอนุมัติให้รับหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) (UMS) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) โดยเริ่มทำการซื้อขายวันที่ 16 ก.ค. 47 นี้ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "UMS" มีทุนชำระแล้ว 70 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

บริษัทฯได้เสนอขายหุ้นให้ประชาชนจำนวน 20 ล้านหุ้น ที่ราคา 7.95 บาทต่อหุ้น ที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมีนโยบาย จ่ายเงินปันผลประมาณร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล

ในส่วนของธุรกิจบริษัทเป็นการนำเข้าถ่านหินคุณภาพดีจากประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจัดจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายหลักคือ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมกระดาษ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ นอกจากนี้ บริษัทฯยังเข้าร่วมประมูลขายถ่านหินให้กับบริษัทเอกชนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าที่มีการประมูลจัดซื้อถ่านหินอีกด้วย

นายสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ผมเชื่อว่าหุ้นยูนิค ไมนิ่งฯจะไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี หากดูถึงผลประกอบการที่ผ่านมาก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ากำไรในไตรมาสที่ 2 เป็นต้น ไป จะปรับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้ปรับราคาขายถ่านหินขึ้นประมาณร้อยละ 30 จากราคาในช่วงต้นปี นอกจากนี้ยังอยู่ในกลุ่มพลังงานที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง"

นายเจษฎาวัฒน์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ได้กล่าวถึงราคาจองของ UMS ที่ 7.95 บาทว่า เป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากมีพีอีเรโชที่ต่ำกว่าคู่แข่งที่ทำธุรกิจเดียวกันคือ BANPU LANNA และหุ้นในหมวดพลังงานอื่นค่อนข้างมาก โดย หุ้น BANPU และ LANNA ซื้อขายกันที่ พีอีเรโชประมาณ 20 เท่า และหุ้นในหมวดพลังงานซื้อขายที่พีอีเรโชประมาณ 10-12 เท่า ดังนั้น ราคาหุ้นน่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามผลประกอบการที่จะออกมาดีอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาหุ้นน่าจะซื้อขายได้เหนือกว่าราคาจอง

ในส่วนบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ต่าง ๆ ให้ความเห็นว่าราคาจองยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานโดย บล. แอ็ดคินซัน มองว่าราคาหุ้นที่เหมาะสมของยูนิค ไมนิ่งฯปัจจุบันควรอยู่ที่ 9.80-10.90 บาท บล.ซีมิโก้ ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นดังกล่าว ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 12-13 บาท

ขณะที่ นักวิเคราะห์บล.เคจีไอในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น UMS ได้ให้ราคาเป้าหมาย ที่ 14 บาท โดยได้ปรับประมาณการกำไร ในปี 47 ขึ้นเป็น 82 ล้านบาท โดยคาดว่าในไตรมาสสองปีนี้บริษัทจะมีกำไรสุทธิ ประมาณ 27.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 27 จากไตรมาสหนึ่งปี 47 ที่มีรายได้ 21.7 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นกว่า 208% จากไตรมาสเดียวกันของปี 46 ซึ่งหาก เป็นไปตามการคาดการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเกือบ 50 ล้านบาทในครึ่งปีแรกซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ทั้งปีจะมีกำไร 75 ล้านบาท โดยราคาจองที่ 7.95 บาท มีค่า พีอีเรโชเพียง 6.8 เท่าในปี 2547 และคาดว่าจะลดลงเหลือ 5.4 เท่าในปี 48

ด้านบทวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย เผยว่า จากการทำธุรกิจของ UMS ยังคงมีความน่าสนใจในเรื่องอัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมแม้ว่าจะไม่สูงมาก ในปี 45-46 จะเติบโตประมาณ 7% ต่อปี ขณะที่ปี 50-54 ความต้องการถ่านหินยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 4.2% เนื่องจากมีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและพลังงานซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากภาวะต้นทุนที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาที่แปรผันตามตลาดโลก เนื่องจากต้นทุนถ่านหิน ที่บริษัทนำเข้า ประกอบตัว ราคาถ่านหิน ค่าระวางเรือ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งมีความผันแปรตามราคาในตลาดโลก หากมีการเปลี่ยนแปลงย่อมกระทบต่อต้นทุนของบริษัท รวมถึงความเสี่ยง ต่อนักลงทุนในด้านความไม่สามารถจ่ายเงิน ปันผลในปี 47 ได้ เนื่องจากปี 46 บริษัทได้ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารไทยพาณิชย์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us