TPIPL เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้กำไรโต 43% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ อีกทั้งความต้องการใช้ปูนซีเมนต์และคอนกรีตในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ตามการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการกู้เงินเพื่อนำมาใช้รีไฟแนนซ์หนี้เก่า


นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ในฐานะผู้บริหารแผน บริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่า ผลประกอบการจากงบการเงินรวมสำหรับไตรมาส 2 ก่อนสอบทาน สิ้นสุด 30 มิถุนายน 47 ของบริษัทและบริษัทย่อยพบว่า

งบการเงินไตรมาส 2 ของ TPIPL และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 5,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 4,636 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 486 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 62 สตางค์

ทั้งนี้ คิดเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 701 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.35 ล้านบาท จาก 489 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปี 46 โดยเป็นกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 538 ล้านบาท ในขณะที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 755 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 57.45 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 1,143 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.37 บาท ในไตรมาส 2 ปี 46 โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 47 มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นเท่ากับ 43.98 บาท

สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 47 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 2,823 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้น 3.74 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.23 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 1,461 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นจำนวน 2.97 บาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายประชัยกล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปี 47 บริษัทมี กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและรายการตัด จ่าย (EBITDA) จำนวน 1,534 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.63 จาก 1,362 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในงวด 6 เดือนปี 47 บริษัทมี EBITDA จำนวน 3,480 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้นร้อยละ 28.08 จากจำนวน 2,717 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการปูนซีเมนต์และคอนกรีตผสมเสร็จในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ ในประเทศ

นายประชัยกล่าวต่อว่า บริษัท ทริส เรทติ้ง ได้ทำการวิเคราะห์และประเมินผลแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท เป็น "คงที่" ที่ระดับ BBB ซึ่งเป็นอันดับที่สามารถลงทุนได้ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ เพื่อมาชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ส่วนที่เหลือ