|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เบียร์ช้างทุ่ม 100 ล้านบาท ยึดสิทธิ์การเป็นสปอนเซอร์ทีมเอฟเวอร์ตัน หลังเจรจา 3 เดือน เผยสร้างแบรนด์ผ่านหน้าอกเสื้อทีมฟุตบอล ยอมรับการจเตลาดเบียร์ในอังกฤษไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีเบียร์ร้อยพ่อพันแม่ทำตลาด รับสิทธิ์ต่างๆเพียบ หวังใช้เป็นยุทธศาสตร์บุกตลาดเบียร์ยุโรปอีกทอด ไล่บี้คู่แข่งเก่าอย่างเบียร์สิงห์ในต่างประเทศ
แผนการรุกตลาดต่างประเทศของเบียร์ช้างมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อสามารถตกลงกับทางสโมสรเอฟเวอร์ตันได้เป็นที่เรียบร้อยและมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวานนี้ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท และหวังที่จะรุกคืบต่อสู้กับคู่แข่งอย่างเบียร์สิงห์ในตลาดต่างประเทศอีกสนามหนึ่ง หลังจากที่เบียร์ช้างคว่ำเบียร์สิงห์ในตลาดประเทศไทยมาแล้ว
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ มาร์เกตติ้ง จำกัด ผู้บริหารการตลาดเบียร์ช้าง เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์กับทาง สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน โดยมีระยะเวลานาน 1 ปี ด้วยวงเงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านปอนด์หรือประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อรับสิทธิ์โฆษณาโลโกเบียร์ช้างบนหน้าอกเสื้อนักฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน พร้อมกับรับสิทธิ์อื่นๆอีก
การลงทุนซื้อสิทธิ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของเบียร์ช้างที่ต้องการก้าวออกสู่ตลาดโลก โดยคาดหวังว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะทำให้ตราสินค้าปรากฎต่อสายตาแฟนบอลทั่วโลกในการถ่ายทอดสดการแข่งขันของเอฟเวอร์ตันแต่ละครั้ง และจะเป็นการปูทางไปสู่การทำตลาดเบียร์ช้างในอังกฤษและยุโรปได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ส่งจำหน่ายไปต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้วแต่ยังไม่มากนัก
นายพอล เกร็ก ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เปิดเผยว่า ในช่วง2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตันได้ธุรกิจจากจีนเป็นผู้สนับสนุนหลัก ทำให้ทีมเอฟเวอร์ตันสามารถขยายฐานแฟนบอลและธุรกิจเข้ามายังประเทศจีนได้ส่วนหนึ่ง และการที่เป็นพันธมิตรกับเบียร์ช้างในครั้งนี้ถือเป็นสโมสรฟุตบอลแห่งแรกของอังกฤษที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทของประเทศไทยและเชื่อมั่นว่า จะสามารถขยายความนิยมเข้ามายังเอเชียได้มากขึ้น และเมื่อเทียบสัญญาระหว่างพันธะมิตรรายเก่าจากจีนกับเบียร์ช้างแล้วถือว่า เงื่อนไขของเบียร์ช้างดีกว่ากันมาก
"ทวีปเอเชียถือเป็นภูมิภาคที่เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญและเอฟเวอร์ตันก็แสวงหาความร่วมมือในภูมิภาคนี้มานาน 2 ปีแล้ว โดยมีเป้าหมายให้สโมสรเอฟเวอร์ตันเป็นที่นิยมภายใน 5 ปี เราได้เจรจากับเบียร์ช้าง 3 เดือนจึงจบลงด้วยดี"
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารเบียร์ช้างกล่าวเสริมว่า เบียร์ช้างมีการเจรจากับหลายสโมสรฟุตบอล แต่ที่สรุปการเจรจาได้กับเอฟเวอร์ตันเนื่องจากว่า การเจรจาสามารถสรุปได้เร็วและเงื่อนไขที่เสนอซึ่งกันและกันนั้นดีและยอมรับได้
"เวลานี้เราให้ความสนใจกับกีฬาฟุตบอลเป็นอันดับแรก ซึ่อเป็นความต่อเนื่องกับแผนงานของเราที่สนับสนุนกีฬาฟุตบอลในเมืองไทยอยู่แล้วด้วยหลายโครงการ แต่กีฬาอื่นเราก็สนใจเปิดกว้างเหมือนกัน ซึ่งแล้วแต่โอกาสอำนวย"
ที่ผ่านมาเบียร์ช้างมีการทำตลาดส่งออกไปต่างประเทศบ้างแล้วประมาณ 14-15 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นตลาดในเอเชียเช่น มาเลเซียมีการตั้งโรงงานผลิตด้วย สิงคโปร์ ฮ่องกง เขมร ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ อังกฤษและบางประเทศในยุโรปเป็นต้น มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% จากรายได้รวมทั้งหมดของเบียร์ช้าง ซึ่งการเป็นสปอนเซอร์กับเอฟเวอร์ตันครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตลาดยุโรปอย่างเป็นทางการและจริงจัง เนื่องจากว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่ต้องการจะเจาะตลาดยุโรปมักจะเริ่มต้นที่ตลาดประเทศอังกฤษก่อน
"ตอนนี้เรายังบอกแผนการตลาดที่ชัดเจนไม่ได้ แต่การรับสิทธิ์ติดโลโก้บนหน้าอกเสื้อนักฟุตบอลถือเป็นการสร้างแบรนด์อย่างหนึ่งที่เราต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่วนงบประมาณทางด้านการตลาดต่างประเทศนั้นยังไม่มีการตั้งไว้แน่นอนเท่าใด โดยเฉพาะในตลาดอังกฤษนั้นเปิดกว้าง มีเท่าไรก็ใช้เท่านั้น ส่วนหนังโฆษณาชุดใหม่ของเบียร์ช้างในไทยนั้น เวลานี้อยู่ระหว่างการเตรียมงานโดยมอบหมายให้เอเม็กซ์แอดเวอร์ไทซิ่งรับผิดชอบ ซึ่งคาดว่าคงจะต้องมีเรื่องของเอฟเวอร์ตันเข้าไปในหนังด้วย
อย่างไรก็ตามนายสมชัยยอมรับด้วยว่า การทำตลาดเบียร์ในประเทศอังกฤษไม่ง่ายนัก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีช่องทางการจำหน่ายที่ซับซ้อนอย่างมาก เพราะมีหลายช่องทางตลาด อีกทั้งเบียร์ท้องถิ่นของอังกฤษเองก็มีหลายยี่ห้อที่ทำตลาดแข่งกับเบียร์ต่างประเทศอยู่แล้วรวมไปถึงเบียร์สิงห์ด้วยที่ทำตลาดมานานแล้ว โดยที่ยังไม่มีใครเนผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งมากอย่างชัดเจน ซึ่งเบียร์ช้างที่ส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะในยุโรปนันจะเน้น แบบขวดเล็กและกระป๋อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากการทดลองตลาดก่อนหน้านี้ โดยเบียร์ช้างที่ขายในต่างประเทศนั้นจะมีดีกรีประมาณ 5 ดีกรี ต่ำกว่าที่ขายในไทยที่มีสูงถึง 6.4 ดีกรี เพราะคนต่างชาติจะนิยมเบียร์ที่มีความอ่อนกว่าคนไทย
ขณะนี้การทำตลาดในประเทศอังกฤษมีการแต่งตั้งเอเยนต์แล้ว 2 ราย ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ไปคงจะมีการพิจารณาแต่งตั้งเอเย่นต์เพิ่มขึ้นอีก เพื่อรองรับกับแผนการบุกตลาดยุโรปและอังกฤษด้วย
สำหรับเงื่อนไขและสิทธิ์ต่างๆที่เบียร์ช้างจะได้รับจากเอฟเวอร์ตันจากการทุ่มเม็ดเงินว่า 100 ล้านบาทในครั้งนี้ ในแง่ของธุรกิจหลักๆแล้วประกอบด้วย 1.โฆษณาโลโก้ช้างบนอกเสื้อ 2. สินค้าเมอร์ชันไดซ์ 3.พิมพ์โลโก้บนเอกสารต่างๆเช่น หัวกระดาษ นามบัตร จดหมาย 4.ขายเบียร์ช้างในกูดิสันปาร์คและพนักงานต้องแต่งตัวตามสไตล์ของเบียร์ช้าง 5.ป้ายบิลบอร์ดในสนาม10ป้าย ซึ่งจะสามารถออกอากาศทางโทรทัศน์ได้ 6 ป้าย 6.สิทธิ์ใช้สนามฟุตบอลนอกฤดูการแข่งขัน 7.สิทธิ์ใช้ห้องประชุมสโมสร 8.บัตรดูการแข่งขัน และการถ่ายทอดสดที่เอฟเวอร์ตันแข่งขัน 9.โฆษณาลงบนเว๊บไซต์ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ10.สิทธิ์อื่นๆปลีกย่อย
ส่วนเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวงการฟุตบอลของไทยเช่น 1.ดำเนินโครงการ "ช้าง-เอฟเวอร์ตัน สานฝันหานักเตะดาวรุ่ง" โดยจะคัดเลือกเยาวชนไทยอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 3 คนเข้าฝึกอบรมที่ เอฟเวอร์ตันอคาเดมี ประเทศอังกฤษนาน 9 เดือน 2.เอฟเวอร์ตันจะพิจารณาคัดเลือกนักเตะทีมชาติไทยเพื่อร่วมฝึกและรับการคัดเลือกเข้าร่วมทีมเอฟเวอร์ตันชุดใหญ่ 3.ร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดการฝึกอบรมโค้ชไทย
นายธนิต ธรรมสุคติ ผู้บริหารเบียร์ช้าง กล่าวเสริมว่า การซื้อลิขสิทธิ์เป็นสปอนเซอร์เอฟเวอร์ตันครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับที่เบียร์ช้างจะไปต่อสู้กับเบียร์คาร์ลสเบิร์ก ที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมลิเวอร์พูล ซึ่งอยู่ที่เมืองเดียวกันทั้งสองทีมแต่อย่างใด หลังจากที่เบียร์ช้างและคาร์ลสเบิร์กมีปัญหากันทางธุรกิจก่อนหน้านี้ เพราะเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาสมากกว่า เป็นจุดประสงค์ของเบียร์ช้างเองที่ต้องการจะสร้างแบรนด์รุกต่างประเทศ
|
|
|
|
|