Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กรกฎาคม 2547
ประชัยยื่นแผนฉบับลูกหนี้เสนอ7ข้อต่อรองฟื้นทีพีไอขอไม่ลดทุน-ขายหุ้นTPIPL             
 


   
search resources

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย, บมจ.
ทีพีไอ โพลีน, บมจ.
กระทรวงการคลัง
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์




"ประชัย"ส่งแผนปรับโครงสร้าง หนี้ทีพีไอฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเสนอคลังแล้ว 2 ก.ค. ยื่น 7 ข้อเสนอ หากคลังเห็นชอบแผนฟื้นฟูฉบับ 5 อรหันต์ ระบุไม่ให้ลดทุน และขายหุ้น TPIPL รวมทั้งให้ผู้บริหารลูกหนี้มีสิทธิซื้อหุ้นคืน-เป็นผู้บริหารแผนฯ โดยจะยกเลิกคดีความทั้งหมด ชี้การลดทุน ล้างทุนสะสม หวังจ่ายปันผลของผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอเป็นไปไม่ได้ เพราะเจ้าหนี้ไม่ยอมจนกว่าจะชำระหนี้หมด

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด(มหาชน) (TPI) กล่าวว่า บริษัทฯได้ยื่นหนังสือนำส่งแผนปรับโครงสร้างหนี้ทีพีไอที่ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณาใช้แผน การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ตามที่ได้เสนอ เพราะเป็น แผนฟื้นฟูที่ยุติธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้

รายละเอียดของแผนฯเสนอให้ลดหนี้จาก 2,610 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำหนี้ที่ลดไปรวมกับดอกเบี้ยระหว่างปี 2541-2543 จำนวน 750 ล้านดอลลาร์ รวมเป็นหนี้ทั้งสิ้น 2,892 ล้านดอลลาร์ และให้แปลงหนี้จำนวนดังกล่าวเป็นทุนในราคาหุ้นละ 20 บาท หรือเท่ากับ 5,899 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 75% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด แทนหุ้นที่เจ้าหนี้ได้แปลงดอกเบี้ยเป็นทุนไปแล้วด้วยราคาไม่เป็นธรรมหุ้นละ 5.52 บาท กำหนดชำระหนี้คืนภายใน 4 ปี โดยผ่อนชำระปีละ 125 ล้านดอลลาร์ เสนอให้ผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นคืนภายใน 4 ปี ในราคาหุ้นละ 20 บาท

อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงการคลังยืนยันและ บังคับให้ใช้แผนฟื้นฟูกิจการฉบับที่ผู้บริหารแผนฯเสนอ ทางผู้บริหารลูกหนี้ขอให้แก้ไขเพิ่มเติมในรายละเอียด 7 ข้อดังนี้คือ 1.ไม่ให้มีการลดทุนเพื่อประโยชน์ของลูกหนี้ เจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นรายย่อย เพราะหากลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม 80,000 ล้านบาท จะทำให้ทีพีไอต้องเสียสิทธิทางภาษี และต้องนำเงิน 24,000 ล้านบาทจากกำไรไปเสียภาษีเงินได้แทนที่จะนำเงินกำไรไปจ่ายหนี้ ทำให้ฐานะของลูกหนี้แย่ลง เจ้าหนี้ไม่สามารถรับชำระหนี้ได้โดยเร็ว ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นจะลดลงทำให้เกิดความเสียหายกับทุกฝ่าย

2.ไม่ขายหุ้นบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) 3. ให้ผู้บริหารของลูกหนี้เดิมมีสิทธิซื้อหุ้นที่แปลงหนี้เป็นทุนคืนทั้งหมด (85%) ในราคาเท่ากับที่แปลงหนี้เป็นทุน บวกด้วยดอกเบี้ย 5% ต่อปีภาย ในกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับตั้งแต่แผนฟื้นฟูฯได้รับการแก้ไขมีผลบังคับใช้และมีการแปลงหนี้เป็นทุน

4. ให้ลูกหนี้สามารถออกหุ้นใหม่หรือกู้เงินมา เพื่อทำการรีไฟแนนซ์หนี้เดิมทั้งหมดได้ 5. ให้ผู้บริหารของลูกหนี้เป็นผู้บริหารแผนตลอดระยะเวลาการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ เว้นแต่มีพฤติกรรม ทุจริตหรือไม่ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ 6. ให้เจ้าหนี้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบควบคุมการใช้จ่ายเงิน ตลอดจนการดำเนินการของลูกหนี้ตลอดระยะตามแผนฟื้นฟูกิจการ และ 7. ดำเนินการยกเลิกคดีที่มีอยู่ระหว่างกันทั้งหมด

นายประชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้ธุรกิจลูกหนี้สามารถดำเนินกิจการได้ด้วยตัวเอง และมีกำไรมาโดย ตลอด ซึ่งผู้บริหารแผนฯทีพีไอเสนอให้มีการลดทุน หรือแปลงหนี้เป็นทุนก็ดี จะไม่มีเม็ดเงินที่แท้จริงเข้ามาในธุรกิจลูกหนี้ เป็นเพียงการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินเพื่อให้อัตราส่วนทางการเงินเป็นที่น่าเชื่อถือ ได้ แต่ถ้าปรับปรุงไม่ดี จะส่งผลเสียต่อลูกหนี้ เจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น ปัจจุบันทีพีไอมีทรัพย์สินหมุนเวียนสูงถึง 3.8 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีความจำเป็นต้องลดทุน

ส่วนเหตุผลที่ผู้บริหารแผนฯใช้เป็นข้ออ้างในการลดทุนเพื่อหวังจ่ายเงินปันผลนั้น นายประชัยกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่บริษัทฯยังไม่ชำระหนี้ ทั้งหมด ทางเจ้าหนี้จะไม่ยอมให้ทีพีไอจ่ายเงินปันผล แน่นอน เพราะไม่มีกติกาว่าปรับโครงสร้างหนี้เสร็จจ่ายปันผลได้เลย

สำหรับผลการดำเนินงานของทีพีไอในช่วงเดือน มิถุนายน 2547 บริษัทฯมียอดขาย 12,952.70 ล้านบาท และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อม และภาษี (EBITDA) 1,473.49 ล้านบาท คิดเป็นยอดขายช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ประมาณ 68,667.00 ล้านบาท และ EBITDA 9,851.57 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 66% และ 129% ตามลำดับ

"แผนดังกล่าวของลูกหนี้ได้ส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณา ซึ่งรับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเดินทางกลับจากออสเตรเลียก็น่าจะมีการพิจารณาข้อเสนอของลูกหนี้ ซึ่งข้อเสนอทั้ง 7 ข้อเป็นข้อเสนอที่ดีรองลงมา เมื่อดีที่สุดไม่ได้ ส่วนข้อเสนอที่ยกเลิกคดีทั้งหมด เพราะผมเบื่อ สมัยก่อนผมไม่เคยขึ้นศาลเลย" นายประชัยกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us