STHAI ซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน "บีมาร์ค ซันไทย" ตามสัดส่วนที่ถือหุ้น 40% พร้อมปล่อยกู้เพื่อช่วยเหลือทางการเงินจำนวน 64,603.20 ยูโร หรือประมาณ 3,219,823.49 บาท ชำระคืนใน 3 ปี คิดดอกเบี้ยที่ 3% ต่อปีทุกสิ้นปี หลังบริษัทย่อยดังกล่าวเพิ่มทุนไม่ได้ตามที่แจ้งไว้ เนื่องจากผิดต่อกฎ-หมายอิตาลี จึงใช้วิธีเพิ่มทุนเพียงบาง ส่วนและส่วนที่เหลือกู้จากผู้ถือหุ้น

นายอนันต์ เจษฎาวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) (STHAI) เปิดเผยผลการประชุมตามมติกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2547 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2547 ซึ่งบริษัทขอชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในบริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด ตามที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2547 เนื่องจากมีข้อผิดพลาดบางประการ

เนื่องจาก บริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด ได้มีการขอเปลี่ยนแปลงการเพิ่มทุนซึ่งจากเดิมจะเพิ่มทุนจาก 10,200 ยูโร เป็น 278,808 ยูโร เพื่อนำเงินที่ได้รับไปซื้อโกดังสินค้า แต่เนื่องจากติดในข้อกฎหมายของประเทศ อิตาลีที่ว่า หากบริษัทใด มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 120,000 ยูโรขึ้นไป แล้วจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งจะทำให้บริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

บริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด จึงขอเปลี่ยนแปลงการเพิ่มทุนเป็น 117,300 ยูโร และขอกู้ยืมเงินในส่วนที่เหลือจำนวน 161,508 ยูโร จากผู้ถือหุ้นแทน โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้พิจารณาแล้ว มีมติอนุมัติให้ลงทุนเพิ่มในบริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด จำนวน 42,840 ยูโร หรือประมาณ 2,135,145.60 บาท เพื่อคงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือครองอยู่ร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ทั้งนี้ รายการดังกล่าวเป็นการลงทุนเพิ่มตามสัดส่วน รายการดังกล่าวจึงไม่ถึงเป็นรายการเกี่ยวโยงตาม เกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อคำนวณตามเกณฑ์ที่ได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์มีค่าเท่ากับ 1.10% (ผลประกอบการของบริษัท ณ 31 มีนาคม 2547 กำไรสุทธิของบริษัทฯ กรณีที่ไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จะทำให้บริษัทฯมีผลประกอบการขาด ทุน 745,000 บาท)

สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นเปลี่ยนไป โดยหลังเพิ่มทุนของ บริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด STHAI จะยังคงถือหุ้นในอัตราส่วน 40% เหมือนที่ผ่านมา โดยมีนายฟอง ซิว กวน ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทฯ ซึ่งได้ถือหุ้น ในบริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด ไม่เป็น บุคคลที่มีอำนาจในการบริหารและควบ คุมในบริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด

นายอนันต์ เปิดเผยต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้กู้ยืมแก่บริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด เป็นจำนวนเงิน 64,603.20 ยูโร หรือ ประมาณ 3,219,823.49 บาท โดยการให้กู้ยืมดังกล่าว มีกำหนดระยะเวลาการชำระคืน 3 ปี คิดอัตรา ดอกเบี้ย 3% ต่อปี โดยชำระดอกเบี้ย ทุกสิ้นปี ซึ่งผู้ให้กู้ยืมรายอื่นมีกำหนด รับชำระคืน 3 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี และกำหนดรับชำระดอกเบี้ย ทุกสิ้นปี

สัดส่วนการกู้ยืมเงินของผู้ถือหุ้นของบริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด ซึ่ง นายอนันต์ STHAI ถือหุ้น 40% จำนวน 64,603.20 ยูโร นางกราซีเอล์ลา แร ถือหุ้น 17% จำนวน 27,456.36 ยูโร นายอาเดลิโอ แร ถือหุ้น 17% จำนวน 27,456.36 ยูโร นายอาเลซันโดร ซัลวี ถือหุ้น 17% จำนวน 27,456.36 ยูโร และนายฟอง ซิว กวน ถือหุ้น 9% จำนวน 14,535.72 ยูโร คิดเป็นเงิน 161,508.00 ยูโร (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2547 อัตรา 1 ยูโร เท่ากับ 49.84 บาท) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 บริษัท บีมาร์ค ซันไทย จำกัด มีสินทรัพย์รวม 31,714,780.91 บาท มีหนี้สินรวม 29,345,234.61 บาท มีส่วนของผู้ถือหุ้น 2,369,546.30 บาท และมีกำไรสุทธิ 1,354,527.91 บาท