Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กรกฎาคม 2547
ROJANAฟุ้งไตรมาส2กำไร120ล.ชี้จีนส่งมอบที่ดินช้าไม่กระทบเป้า             
 


   
search resources

สวนอุตสาหกรรมโรจนะ, บมจ.
โรจนะ พร็อพเพอร์ตี้
จิระพงษ์ วินิชบุตร
Real Estate




สวนอุตสาหกรรมโรจนะ คาดไตรมาส 2 กำไรสูงขึ้นกว่าไตรมาสแรกอยู่ที่ 120 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายที่ดินอีก 100 ไร่ รวมถึงธุรกิจไฟฟ้าและน้ำ คาดทั้งปีมีกำไร 500 ล้านบาท แม้ว่านิคมฯที่ฉางโจว ประเทศจีนจะล่าช้าออกไปเป็นต้นปีหน้า เนื่องจากจีนส่งมอบที่ดินช้าก็ตาม เผย 9 ก.ค.นี้เปิดตัวโครงการแมดิสัน คอนโดมิเนียมหรู มูลค่า 1.2 พันล้านบาท มั่นใจปิดขายได้ปลายปีนี้

นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (ROJANA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2547 บริษัทฯคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปี 2547 เล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส 1/2547 ที่มีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในสวนอุตสาหกรรมโรจนะอีก 100 ไร่ รวมทั้งธุรกิจไฟฟ้าที่ได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 166 เมกะวัตต์และรายได้จากการให้บริการขายน้ำเสริมเข้ามา

คาดว่าทั้งปี 2547 บริษัทฯน่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 470- 500 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมฯ 300-400 ไร่ และเงินปันผลจากการเข้าไปถือหุ้น ในบริษัทไทคอนฯ ธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งน้ำและไฟฟ้าในบริษัท โรจนะ พาวเวอร์ จำกัด รวมทั้งรับรู้รายได้ จากการขายคอนโดมิเนียมที่สุขุมวิท 41 โดยเฉพาะไตรมาส 4 เป็นไตรมาสที่บริษัทฯมีกำไรสูงที่สุดเมื่อ เทียบกับ 3ไตรมาสแรกของปี 2547

สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯมีแผนจะขยายโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 43 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้ว ทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 210 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าต้นปี 2548 และเสร็จในกลางปี 2549

แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวนั้น ทางบริษัท โรจนะ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 200 ล้านบาท ซึ่ง ROJANA จะใช้เงินทุนหมุนเวียนเกือบ 100 ล้านบาทชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทย่อย เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ 41% ซึ่งปัจจุบันROJANAมีเงินทุน หมุนเวียนอยู่ 300-400 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าโรงไฟฟ้าจะจ่าย เงินปันผลถึง 350 ล้านบาท

เปิดตัวแมดิสัน คอนโดฯหรู 9 ก.ค.นี้

นายจิระพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้บริษัท โรจนะ พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะเปิดตัวโครงการแมดิสัน คอนโดมิเนียมหรู ปากซอยสุขุมวิท 41 มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ล่าสุดมียอดจองซื้อแล้วกว่า 55-60% หรือคิดเป็นจำนวน 80-85 ห้อง จากจำนวนทั้งหมด 148 ห้อง พื้นที่ห้องเริ่มตั้งแต่ 115-300 ตร.ม.คาดว่าจะปิดขายโครงการนี้ได้ภายในปลายปี 2547 โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2549

แม้บริษัทจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอาคารชุดพักอาศัยหรู แต่ก็ยังไม่มีแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่อีก แม้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนจะยังเติบโตต่อไปได้ แต่ลูกค้าก็เลือกมากขึ้นเช่นกัน จึงต้องมีทำเลที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจทำโครงการใหม่

จีนส่งมอบที่ดินล่าช้า 6-8 เดือน

นายจิระพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการลงทุนพัฒนาที่ดิน ในเมืองฉางโจว ประเทศจีนว่า สืบเนื่องจากทางจีนส่งมอบที่ดินล่าช้าไป 6-8 เดือน ทำให้การพัฒนา ที่ดินในเมืองฉางโจวต้องล่าช้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าต้นปีหน้าจะสามารถพัฒนาและขายที่ดินได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาดูโครงการ โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น ที่เป็นผู้ผลิต ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาห-กรรมรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก

ซึ่งความล่าช้าในการส่งมอบที่ดินนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อ รายได้และกำไรในปีนี้ เนื่องจากเป้ารายได้และกำไรไม่ได้มีการนำรายได้จากการขายที่ดินในจีนมาคำนวณ

ปัจจุบันบริษัทฯมีภาระหนี้จากการกู้ยืมเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าจำนวน 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของเงินบาท เพราะหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ระยะยาว 13 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งของรายได้ค่าไฟฟ้ามีการชดเชย อัตราแลกเปลี่ยนหนี้ดังกล่าวอยู่ในค่าเอฟทีอยู่แล้ว ดังนั้น บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินทั้งหมด และปีที่แล้วบริษัทฯมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสะสมด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us