Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 กรกฎาคม 2547
N-PARKฝันตั้งกองทุน             
 


   
search resources

แนเชอรัล พาร์ค, บมจ.
เสริมสิน สมะลาภา
Aimtop Investments Limited




เอ็น-พาร์ค ตั้งเป้าหมายสูงสุดจัดตั้งกองทุนระดับโลกมูลค่านับแสนล้านบาท หวังดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ ล่าสุดจับมืออมันรีสอร์ทลุยลงทุนโรงแรมในยุโรป ประเดิม 7 ประเทศ 10 แห่งใช้เงินลงทุน 7,000 ล้านบาท คาดรายได้เฉลี่ยแห่งละ 200 ล้านบาท/ปี ระบุเตรียมคัดเลือกสินทรัพย์เพื่อจัดตั้งกองทุนอสังหาฯ ภายในสิ้นปี 47

นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็น-พาร์คเปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงสร้างการลงทุนของบริษัทในขณะนี้ ถือว่ายังไม่ครบวงจรอย่างเต็มที่ เพียงแต่บริษัทเดินมาได้ประมาณ 60% ของแผนลงทุนทั้งหมดเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 40% จะเน้นหนักในการลงทุนต่างประเทศ โดยเป้าหมายสูงสุดบริษัทต้องการที่จะมีกองทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ระดับโลกเป็นของตนเอง ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะต้องมีมูลค่านับแสนล้านโดยคาดว่าจะต้องใช้เวลา ศึกษาอีกระยะ และล่าสุดได้เริ่มเจรจากับต่างประเทศ บ้างแล้ว โดยรูปแบบนั้นอาจจะเป็นมอร์เกจคัมพานีก็ได้ เพราะเป็นการระดมทุนได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากมีการตั้งกองทุนขึ้นมาจริง บริษัทมีแผนที่จะไประดมทุนในตลาดต่างประเทศ

นายเสริมสินกล่าวว่าการจะไปถึงจุดดังกล่าวได้ บริษัทจำเป็นต้องมีการลงทุนในต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อเป็นที่รู้จักของนักลงทุนที่จะต้องเข้ามาซื้อกองทุน ซึ่งแนวทางหนึ่งนั้นได้มีการจับมือกับกลุ่มอมันรีสอร์ท ขยายการลงทุนด้านการโรงแรมไปต่างประเทศนอกเหนือจากญี่ปุ่น โดยล่าสุดมีแผนที่จะไปลงทุนธุรกิจโรงแรมในยุโรป อีกอย่างน้อย 10 แห่งในช่วงระยะเวลา 5 ปี ใน 7 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ตุรกี ฝรั่งเศส อิตาลี โครเอเชีย กรีซ รัสเซีย และตูนีเซีย

"หลักการลงทุนแต่ละประเทศ จะเลือกทำเลที่ดีที่สุด โดยกำหนดวงเงินลงทุนไว้ที่ 7,000 ล้านบาท วิธีการคือจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา 1 บริษัท คือ อมัน ยุโรป โดยเอ็น-พาร์ค ถือหุ้น 75% มูลค่า 2,500 ล้านบาทที่เหลืออีก 25% มูลค่า 800 ล้านบาทเป็นของ อมันรีสอร์ท โดยอมันยุโรปจะเข้าไปร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ในประเทศนั้น ๆ ในสัดส่วน 60:40% ส่วนเงินลงทุนที่เหลือจะเป็นการกู้เงินของสถาบันการเงินของ ประเทศที่จะไปลงทุนประมาณ 20%" นายเสริมสิน กล่าว

นายเสริมสินกล่าวต่อว่า ในการพัฒนาจะแบ่งเป็นระยะ ๆ โดยระยะแรกจะพัฒนา 3 แห่งก่อน ที่เหลือจะพัฒนาในระยะถัดไป ซึ่งในแต่ละแห่งจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยแห่งละ 700 ล้านบาทใช้เวลาก่อสร้าง1 ปี ถึงปีครึ่ง ตั้งเป้ารายได้เฉลี่ยต่อปีแห่งละ 200 ล้านบาท โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูงเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มอมันรีสอร์ทมีสมาชิกทั่วโลกประมาณ 1 แสนราย ปัจจุบันกลุ่มอมัน รีสอร์ทมีโรงแรมทั้งหมด อยู่จำนวน 13 แห่ง 413 ห้อง และรับบริหารโรงแรม อื่นๆ อีก 2 แห่ง จำนวน 144 ห้อง

สำหรับเม็ดเงินลงทุนนั้น บริษัทจะนำไปลงทุน นั้นจะไม่ลงทุนในครั้งเดียว ในปีแรกจะใส่เงินไป 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยลงทุน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่เหลือจากการที่เพิ่มทุนไปตั้งแต่ในปีที่ผ่านมาจำนวน 8,000 ล้านบาท และเป็นเงินกู้อีก 8,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 16,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้เงินลงทุนในธุรกิจต่างๆ ไปแล้วเป็นจำนวน 13,500 ล้านบาท

อนึ่งก่อนหน้าที่จะจัดตั้ง บริษัท อมันยุโรปนั้น บริษัทได้จัดซื้อบริษัท AIMTOP Investments จำกัด ซึ่ง จดทะเบียนจัดตั้งที่ประเทศ บีตีช เวอร์จิน ไอร์แลนด์ (บีวีไอ) ทั้งนี้ เพื่อที่จะปูทางการลงทุนในต่างประเทศ และมีแผนที่จะเพิ่มทุนในบริษัทดังกล่าวและจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นอมันยุโรปต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายธุรกิจโรงแรมไปยังยุโรปแล้ว ล่าสุดบริษัทยังได้ซื้อโรงแรมโนโวเทล พันวา ที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 300 ล้านบาท จากกลุ่ม แอคคอร์ ทำให้ปัจจุบันมีเงินทุนเหลืออยู่ประมาณ 500 ล้านบาท รวมกับวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีก 2,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถลงทุนได้อีกหนึ่งโปรเจกต์

อย่างไรก็ดี ภายในสิ้นปี2547บริษัทเอาสินทรัพย์ ที่ได้ลงทุนไปบางโครงการ เพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาอีกหนึ่งกอง ซึ่งสินทรัพย์ที่จะนำมาตั้งกองทุนนี้จะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 20% จากรายได้ในปี 2546 ประมาณ 1,000 ล้านบาท

"ในอีก 2 ปีข้างหน้าบริษัทจะเริ่มมีรายได้จากสินทรัพย์ที่ไปลงทุนเข้ามาทั้งหมดจำนวนมหาศาล จากทั้งในส่วนของโรงแรม รถไฟฟ้าใต้ดิน บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) จากอมันรีสอร์ท และอื่นๆ ต่อไปบริษัทจะนำสินทรัพย์ไปตั้งเป็นกองทุน เพื่อที่จะมีรายได้เข้ามาเร็วกว่าการลงทุนทั่วไป" นายเสริมสิน กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us