|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สมคิด" รมว.คลัง ยังไม่พร้อมเปิดเผยรายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ เหตุอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขณะที่คณะกรรมการผู้บริหารแผนจะรายงานรายละเอียดในวันที่ 2 ก.ค.นี้ พร้อมเปิดโอกาสให้สหภาพพนักงานทีพีไอ เข้าหารือในวันเดียวกัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่าย ระบุขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อนที่จะเสนอให้ศาลล้มละลายกลางชี้ขาดต่อไป ด้าน "ชาติศิริ" งดแสดงความเห็น กรณีแผนฟื้นฟูฯใหม่ ไม่มีการแปลงหนี้เป็นทุนให้กับเจ้าหนี้ ขณะที่ "ประชัย"ย้ำจุดยืนให้ยึดตามแผนฟื้นฟูฯ ฉบับลูกหนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ว่า ขณะนี้ผู้บริหารแผน ฟื้นฟูทีพีไอ ยังไม่ได้มาชี้แจงในราย ละเอียดแต่อย่างใด แต่คณะกรรม การผู้บริหารแผนทั้ง 5 ท่าน จะเข้ามารายงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มารายงานแผนให้ทราบแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
"ผมจะคุยกับเจ้าหนี้และลูกหนี้อีกประมาณ 1-2 รอบ หลังจาก ก่อนหน้านี้ได้ส่งตัวแทนให้ไปคุยกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประ-ธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอมาครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อทราบถึงหลักการที่ต้องการให้แผนฟื้นฟูฯใหม่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และในวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.นี้ สหภาพพนักงานทีพีไอ จะเข้ามาหารือเรื่องแผนฟื้นฟูฯ เช่นเดียวกัน" นายสมคิด กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากผู้บริหารแผนเสนอแผนฟื้นฟูฯ ทีพีไอแล้ว กระทรวงการคลังจะต้องใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง หากเห็นชอบกับแผนฟื้นฟูฯดังกล่าวก็จะส่งให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม แผนฟื้นฟูฯ ไม่จำเป็นต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่อาจจะเป็นการรายงานให้รับทราบเท่านั้น
"กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดูแลแผนฟื้นฟู กิจการของทีพีไอ รวมถึงสัดส่วนของผู้ถือหุ้นทั้ง หมด จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเสนอให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณา ซึ่งเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดคงใช้เวลาอีกไม่นานจะได้ข้อสรุป แต่รายละเอียดของแผนไม่สามารถตอบได้ เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา"
ชาติศิริไม่คอมเมนต์แผนฉบับใหม่
ส่วนกรณีที่การเปลี่ยนแปลงแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ โดยให้กระทรวงการคลังเข้ามาถือหุ้นไว้ก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ซื้อหุ้นคืน แทนแผนฟื้นฟูฯ เดิมที่กำหนดให้มีการแปลงหนี้เป็นทุนนั้น นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ ไม่ได้แสดงความเห็นต่อการ ปรับเปลี่ยนแผนฟื้นฟูฯ แต่อย่างใด เพราะต้องรอให้เจ้าหนี้ได้ศึกษารายละเอียดให้รอบคอบก่อน
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารทีพีไอ กล่าวถึงกรณีที่ผู้บริหารแผนฯทีพีไอ จะเสนอให้คลังเป็นผู้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นที่เจ้าหนี้ถืออยู่ให้พันธมิตรรายใหม่ว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดของร่างแผนฟื้นฟูกิจการฉบับดังกล่าวแต่ความเห็นส่วนตัวยังคงจุดยืนเหมือน เดิม คือ ให้คลังเห็นชอบร่างแผนฟื้นฟูฯฉบับลูกหนี้
หากกระทรวงการคลังจะเป็นผู้สรรหาผู้มาซื้อหุ้นเพิ่มทุนทีพีไอนั้น นายประชัย กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารลูกหนี้ ต้องการให้กระทรวงการ คลังถือหุ้นเพิ่มทุนใหม่รวมกับหุ้นที่เจ้าหนี้ถืออยู่ไประยะหนึ่ง เมื่อปรับหนี้แล้วเสร็จประมาณ 2-4 ปีทางลูกหนี้จะซื้อหุ้นคืนจากคลังในราคาที่คลังซื้อ จากเจ้าหนี้บวกดอกเบี้ย หรือให้คลังจัดหาแหล่ง เงินกู้ให้บริษัทฯ โดยนำหุ้นทีพีไอค้ำประกันเงินกู้ ดังกล่าว ทำให้ลูกหนี้ได้บริษัทคืนโดยไม่จำเป็น ต้องหาพันธมิตรเข้ามาซื้อหุ้นคืน อีกทั้งทรัพย์สินหมุนเวียนของทีพีไอสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท
"ความจริงทีพีไอเพิ่มทุนใหม่อีกแค่ 10% รวมเป็น 85% ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากฐานหุ้นใหญ่ คิดเป็นจำนวนหุ้นใหม่ 4,840 ล้านหุ้น รวมกับหุ้นที่เจ้าหนี้ได้แปลงหนี้เป็นทุนอีก 5 พันล้าน หุ้นแล้วเกือบ 1 หมื่นล้านหุ้น ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเป็น 90% เมื่อบริษัทปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จ ก็เปิดให้ลูกหนี้ซื้อหุ้นคืนในราคาหุ้นละ 5.50 บาทบวกดอกเบี้ย หรือรัฐจัดหาสถาบันการเงินปล่อยกู้ทีพีไอ โดยนำหุ้นทีพีไอมาค้ำประกัน หลังจากนั้นให้บริษัทซื้อหุ้นคืนเมื่อพร้อม"
|
|
|
|
|