|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ประชัย" เผยไม่มีเงินส่วนตัวมากพอซื้อหุ้นTPI คืนมูลค่า 670 ล้านเหรียญ แต่จะใช้บริษัทลูกหนี้ซื้อหุ้นแทน อ้างเงินส่วนตัวอยู่ในบริษัทและไม่เคย ไซฟ่อนเงิน ด้านกองทุนวายุภักษ์ สนใจถือหุ้น TPI แต่ต้องรอให้เข้า ตามหลักเกณฑ์ก่อน ชี้เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องและพื้นฐานดี ขณะที่เจ้าสัวซีพี "ธนินท์ เจียรวนนท์" ปฏิเสธข่าวจะเข้าไปถือหุ้น TPI
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)(TPI) กล่าวถึงกรณีที่นายทนง พิทยะ หนึ่งในคณะกรรมการผู้บริหารแผนฯ TPI ที่จะเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยจะต้องนำเงินมาชำระค่าหุ้นทั้งสิ้น 670 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทว่า ตนไม่มีเงินส่วนตัวมากพอที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคา 670 ล้านเหรียญ สหรัฐตามที่ผู้บริหารแผนฯเสนอได้ เพราะไม่เคยมีพฤติกรรมที่จะ ไซฟ่อนเงินบริษัท แต่ถ้าให้ลูกหนี้ในนาม TPI เป็นผู้ซื้อหุ้นคืนสามารถ ทำได้ หากกระทรวงการคลังนำแผน ฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขที่ผู้บริหารลูก หนี้ เสนอมาใช้ในการปรับโครงสร้าง หนี้จะทำให้กิจการ TPI ฟื้นตัวอย่าง เด่นชัดภายใน 2 ปี
ดังนั้น ข้อเสนอที่จะซื้อหุ้นคืน ตามแผนฟื้นฟูฯฉบับที่ผู้บริหารลูกหนี้เสนอนั้น เป็นการซื้อหุ้นคืนในนามลูกหนี้หลังฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จ เพราะปัจจุบัน TPI มีทรัพย์สินหมุนเวียนสูงถึง 3.83 หมื่นล้าน บาท แบ่งเป็นเงินสดในมือและเงิน ฝากธนาคาร 5.05 พันล้านบาท สินค้าคงเหลือ 2.17 หมื่นล้านบาท เป็นต้น
"ผมไม่เคยไซฟ่อนเงิน เงินทุกบาททุกสตางค์อยู่ในบริษัทฯ ถ้า ผมรับคำท้าของคุณทนง ก็เท่ากับผมไซฟ่อนเงิน แต่ถ้าให้ TPI ซึ่งมี ผมเป็นผู้บริหารลูกหนี้เข้าไปซื้อแทน นั้นทำได้ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขว่าแผนฟื้นฟูกิจการฯฉบับที่ลูกหนี้เสนอเท่านั้น"
นายประชัย กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากกระทรวงการคลังเพื่อชี้แจงรายละเอียดเรื่องดังกล่าว โดยได้รับทราบข่าวผ่านทางสื่อเท่านั้น หากมีการหารือก็จะยังยืนในหลักการเดิม โดยให้คลังเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการที่ลูกหนี้เสนอ
สำหรับผลการดำเนินงานของ TPI ในเดือนนี้ คาดว่าจะมีกำไรสุทธิก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพ.ค. ที่มี EBITDA อยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
คลังสั่งแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ TPI
ผู้ถือหุ้นเดิมไม่เสียเปรียบมาก
นายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการรายงานแผนฟื้นฟูกิจการฯ TPI ฉบับปรับปรุงใหม่ให้ทางกระทรวงการคลังได้รับทราบแต่อย่างใด หลังจากกระทรวงการคลังได้ให้แนวทางการปรับปรุงแผนใหม่แก่คณะผู้บริหารแผนเป็นที่เข้าใจร่วมกันแล้ว
ทั้งนี้ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในแผนฟื้นฟูฯ ฉบับแก้ไข นั้นคือ การให้ผู้ถือหุ้นเดิมไม่เสียเปรียบมากจนเกินไป โดยจะเปิดโอกาสให้พันธมิตรรายใหม่ที่สนใจเข้ามาร่วมทุน ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายเดิมและผู้ถือหุ้นรายย่อย สามารถเข้าซื้อหุ้นได้
วายุภักษ์สนใจ TPI-ซีพีเมิน
นายศรีภพ สารสาส กรรมการผู้จัดการและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทยในฐานะผู้จัดการกองทุนวายุภักษ์ เปิดเผยว่า มีความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้น TPI แต่ขณะนี้หุ้น ของ TPI ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะเข้าซื้อได้ ต้องรอให้อยู่ในเกณฑ์ที่กองทุนวายุภักษ์เข้าไปถือหุ้น TPI ได้ ในฐานะผู้จัดการกองทุนจะไม่ลังเลที่จะเข้าไปลงทุน
นอกจากนี้ยังต้องขึ้นอยู่กับราคาหุ้นด้วยว่าเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่โดยหุ้นเพิ่มทุนที่ TPIจะเสนอขายแก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP)หากสามารถขายให้กับวายุภักษ์ได้ก็ไม่จำเป็นต้องขายหุ้น แบบมีส่วนลดให้เพราะการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ เป็นการลงทุนระยะยาวไม่ได้ถือลงทุนระยะสั้น
ด้านนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหารเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซีพี กล่าวว่า ซีพีไม่มีความประสงค์ ที่จะเข้าไปถือหุ้นในTPI ดังที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้
|
|
|
|
|